“เทมาเส็ก” ขายทิ้งหุ้นโรงพยาบาล บำรุงราษฎร์ กว่า 42 ล้านหุ้น มูลค่า 1.25 พันล้านบาท หลังเข้าลงทุนตั้งแต่ม.ค.ปี49 เบื้องต้นกำไรส่วนต่างจากราคาหุ้นร่วม 200 ล้านบาท
นายธนิต เธียรธนู กรรมการ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) (BH) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา มีการจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท จำนวน 91,791,243 หุ้น ซึ่งประกอบด้วยรายการจำหน่ายหุ้นจำนวน 42,666,243 หุ้น และ 49,125,000 หุ้น โดย ทาง Temasek Holdings (Private) Limited หรือ Temasek ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายหนึ่งของบริษัท ได้แจ้งว่าได้ทำการจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัทผ่านตัวแทนของ Temasek จำนวน 42,666,243 หุ้นแล้ว
อย่างไรก็ตามการจำหน่ายหุ้นสามัญดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อโครงสร้างผู้ถือหุ้นและโครงสร้างการจัดการของบริษัท ส่วนรายการจำหน่ายหุ้นอีกจำนวน 49,125,000 หุ้นนั้น บริษัทอยู่ในระหว่างตรวจสอบข้อมูล ขณะเดียวกัน วานนี้(17ม.ค.) พบการซื้อขายบิ๊กล็อต BH อีก1 รายการ จำนวน 1 แสนหุ้น ราคาเฉลี่ย 30.75บาท/หุ้นรวมมูลค่า 3.075 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (14ม.ค.) BH รายงานว่ามีผู้ถือหุ้น รายใหญ่ของบริษัท ขายหุ้นออกมา รวม 91.79 ล้านหุ้น การขายหุ้นดังกล่าว ประกอบด้วยสองรายการ คือ จำหน่ายหุ้นจำนวน 42.67 ล้านหุ้น และ 49.13 ล้านหุ้น ซึ่งจากข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่ามีรายการบิ๊กล็อตหุ้น BH หลายรายการ โดยจำนวน 42.67 ล้านหุ้น ขายในกระดานต่างประเทศ ที่ราคา เฉลี่ย 29.25 บาท/หุ้น รวม 1.25 พันล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีรายการขายในประเทศ อีก 49.13 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 30 บาท/หุ้น มูลค่ารวม 1.47 พันล้านบาท โดยภาพรวมหลายฝ่ายคาดว่า เป็นการทำดีลของนักลงทุนต่างชาติในส่วนของบิ๊กล็อต BH-F ส่วน BH น่าจะเป็นการทำดีลของผู้ถือหุ้นใหญ่
โดย ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ BH 6 อันดับแรก ณ วันที่ 31 ส.ค.2553 ประกอบด้วย บริษัท กรุงเทพประกันภัย ถือหุ้น 96,122,002 หุ้นหรือคิดเป็น 13.20%, บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือหุ้น 82,366,770 หุ้นหรือคิดเป็น 11.31%, บริษัท บริหารสินทรัพย์ทวี จำกัด ถือหุ้น 63,258,514 หุ้นหรือคิดเป็น 8.69%, UOB KAY HIAN (HONG KONG) LIMITED - Client Account ถือหุ้น 58,363,690 หุ้นหรือคิดเป็น 8.01%, LITTLEDOWN NOMINEES LIMITED 9 ถือหุ้น 43,774,600 หุ้นหรือคิดเป็น 6.01% และบริษัท วัฒนโสภณพนิช จำกัด ถือหุ้น 25,121,875 หุ้นหรือคิดเป็น 3.45%
สำหรับ กลุ่มเทมาเส็ก เข้ามาถือหุ้นใน BH ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2549 ซึ่งขณะนั้น BH ได้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทว่า Istithmar PJSC ผู้ลงทุนจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต TLS Alpha Pte Ltd.และ Aranda Investments Pte Ltd.ผู้ลงทุนจากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเทมาเส็ก โฮลดิ้ง ได้ตกลงซื้อหุ้น บริษัท จำนวน 43,370,743 หุ้น, 21,685,371 หุ้น และ 21,685,372 หุ้น ตามลำดับ จาก บริษัทบริหารสินทรัพย์ทวี จำกัด บริษัทย่อยของ ธนาคารกรุงเทพ ในราคาตกลงกันหุ้นละ 25 บาท ซึ่งเป็นราคาที่คำนวณจากราคาตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก ณ เวลาที่เริ่มการเจรจาซื้อขายหุ้น ทำให้ Istithmar, TLS Alpha และ Aranda ถือหุ้นใน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ในอัตรา 5.94%, 2.97% และ 2.97% ตามลำดับ ขณะที่บริษัท บริหารสินทรัพย์ทวี เหลือสัดส่วนการถือหุ้น 12.09% จากเดิม 23.97% ของมูลค่าหุ้นที่ชำระแล้วของบริษัท ทำให้เมื่อประเมินมูลค่าการขายหุ้น BH ของเทมาเส็ก พบว่า ทางกลุ่มสามารถทำกำไรจากส่วนต่างราคาหลักทรัพย์ที่ปรับตัวเพิ่มได้ประมาณ 200 ล้านบาท
ล่าสุด วานนี้ หุ้น BH ปิดที่ 31.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.81% มูลค่าการซื้อขาย 38.018 ล้านบาท
นายธนิต เธียรธนู กรรมการ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) (BH) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา มีการจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท จำนวน 91,791,243 หุ้น ซึ่งประกอบด้วยรายการจำหน่ายหุ้นจำนวน 42,666,243 หุ้น และ 49,125,000 หุ้น โดย ทาง Temasek Holdings (Private) Limited หรือ Temasek ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายหนึ่งของบริษัท ได้แจ้งว่าได้ทำการจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัทผ่านตัวแทนของ Temasek จำนวน 42,666,243 หุ้นแล้ว
อย่างไรก็ตามการจำหน่ายหุ้นสามัญดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อโครงสร้างผู้ถือหุ้นและโครงสร้างการจัดการของบริษัท ส่วนรายการจำหน่ายหุ้นอีกจำนวน 49,125,000 หุ้นนั้น บริษัทอยู่ในระหว่างตรวจสอบข้อมูล ขณะเดียวกัน วานนี้(17ม.ค.) พบการซื้อขายบิ๊กล็อต BH อีก1 รายการ จำนวน 1 แสนหุ้น ราคาเฉลี่ย 30.75บาท/หุ้นรวมมูลค่า 3.075 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (14ม.ค.) BH รายงานว่ามีผู้ถือหุ้น รายใหญ่ของบริษัท ขายหุ้นออกมา รวม 91.79 ล้านหุ้น การขายหุ้นดังกล่าว ประกอบด้วยสองรายการ คือ จำหน่ายหุ้นจำนวน 42.67 ล้านหุ้น และ 49.13 ล้านหุ้น ซึ่งจากข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่ามีรายการบิ๊กล็อตหุ้น BH หลายรายการ โดยจำนวน 42.67 ล้านหุ้น ขายในกระดานต่างประเทศ ที่ราคา เฉลี่ย 29.25 บาท/หุ้น รวม 1.25 พันล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีรายการขายในประเทศ อีก 49.13 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 30 บาท/หุ้น มูลค่ารวม 1.47 พันล้านบาท โดยภาพรวมหลายฝ่ายคาดว่า เป็นการทำดีลของนักลงทุนต่างชาติในส่วนของบิ๊กล็อต BH-F ส่วน BH น่าจะเป็นการทำดีลของผู้ถือหุ้นใหญ่
โดย ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ BH 6 อันดับแรก ณ วันที่ 31 ส.ค.2553 ประกอบด้วย บริษัท กรุงเทพประกันภัย ถือหุ้น 96,122,002 หุ้นหรือคิดเป็น 13.20%, บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือหุ้น 82,366,770 หุ้นหรือคิดเป็น 11.31%, บริษัท บริหารสินทรัพย์ทวี จำกัด ถือหุ้น 63,258,514 หุ้นหรือคิดเป็น 8.69%, UOB KAY HIAN (HONG KONG) LIMITED - Client Account ถือหุ้น 58,363,690 หุ้นหรือคิดเป็น 8.01%, LITTLEDOWN NOMINEES LIMITED 9 ถือหุ้น 43,774,600 หุ้นหรือคิดเป็น 6.01% และบริษัท วัฒนโสภณพนิช จำกัด ถือหุ้น 25,121,875 หุ้นหรือคิดเป็น 3.45%
สำหรับ กลุ่มเทมาเส็ก เข้ามาถือหุ้นใน BH ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2549 ซึ่งขณะนั้น BH ได้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทว่า Istithmar PJSC ผู้ลงทุนจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต TLS Alpha Pte Ltd.และ Aranda Investments Pte Ltd.ผู้ลงทุนจากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเทมาเส็ก โฮลดิ้ง ได้ตกลงซื้อหุ้น บริษัท จำนวน 43,370,743 หุ้น, 21,685,371 หุ้น และ 21,685,372 หุ้น ตามลำดับ จาก บริษัทบริหารสินทรัพย์ทวี จำกัด บริษัทย่อยของ ธนาคารกรุงเทพ ในราคาตกลงกันหุ้นละ 25 บาท ซึ่งเป็นราคาที่คำนวณจากราคาตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก ณ เวลาที่เริ่มการเจรจาซื้อขายหุ้น ทำให้ Istithmar, TLS Alpha และ Aranda ถือหุ้นใน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ในอัตรา 5.94%, 2.97% และ 2.97% ตามลำดับ ขณะที่บริษัท บริหารสินทรัพย์ทวี เหลือสัดส่วนการถือหุ้น 12.09% จากเดิม 23.97% ของมูลค่าหุ้นที่ชำระแล้วของบริษัท ทำให้เมื่อประเมินมูลค่าการขายหุ้น BH ของเทมาเส็ก พบว่า ทางกลุ่มสามารถทำกำไรจากส่วนต่างราคาหลักทรัพย์ที่ปรับตัวเพิ่มได้ประมาณ 200 ล้านบาท
ล่าสุด วานนี้ หุ้น BH ปิดที่ 31.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.81% มูลค่าการซื้อขาย 38.018 ล้านบาท
