นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ว่าคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบแผนการปฏิรูปประเทศไทยแล้ว ซึ่งในช่วงวันปีใหม่ ตนได้มีโอกาสเล่าให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบถึงการดำเนินงานการปฏิรูปในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา กระบวนการยุติธรรม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และเรื่องของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือการเน้นการลดความเหลื่อมล้ำ
ทั้งนี้ ครม.ได้ให้ความเห็นชอบทุกแผน และมีข้อสังเกตเพิ่มเติม มีบางหน่วยงานที่ต้องการที่จะเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้นในแผนของการปฏิรูป
อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปครั้งนี้ ไม่ได้เน้นในเรื่องของการที่จะมีการใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่งตามจริงแล้วงบประมาณที่ใช้ ค่อนข้างน้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของการสมทบเงิน จากการที่พี่น้องประชาชนเองจะต้องมีส่วนร่วมในการที่จะเข้ามาออมเงิน หรือในกรณีนั้น ก็จะเป็นกรณีที่ภาคเอกชนจะเข้ามามีส่วนร่วม ดูจะมีการลงทุนในส่วนของภาครัฐที่จะมากที่สุด ก็จะเป็นเฉพาะกรณีของบ้านมั่นคง ในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ไป เมื่อครม.เห็นชอบแนวทางต่างๆ แล้ว ก็จะเริ่มทำงานทันทีตามกรอบเวลา เพื่อจะสามารถเห็นผลได้ ในเดือนมี.ค.-เม.ย. ไปจนถึงเดือนก.ค. นอกจากนี้ จะได้มีการจัดตั้งคณะทำงานคอยติดตามและขับเคลื่อนแผนในทุกๆ ด้านให้เป็นรูปธรรม และรายงานความคืบหน้าให้นายกรัฐมนตรีทราบทุกสัปดาห์
"งานของการปฏิรูปนั้น สิ่งหนึ่งซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญคือ การลดความเหลื่อมล้ำ และเป็นเรื่องของการที่จะสร้างหลักประกันความมั่นคงให้แก่พี่น้องประชาชน โดยพี่น้องประชาชนเองมีส่วนร่วม สัปดาห์ที่ผ่านมาตนยังได้มีโอกาสพบปะกับพี่น้องผู้ใช้แรงงานในสมัชชาแรงงาน เพื่อยืนยันถึงแนวทางการปฏิรูปที่จะเปิดโอกาสให้ประกันสังคมนั้นมีความครอบคลุมออกไปสู่แรงงานนอกระบบ แล้วก็ต้องการที่จะทำให้มีการปรับปรุงในเรื่องของสิทธิประโยชน์ และความโปร่งใสในการบริหารจัดการของสำนักงานประกันสังคมด้วย นั่นก็คืองานของการปฏิรูป" นายกรัฐมนตรี กล่าว
** จี้"มาร์ค" ตอบเรื่องบกลางปี-ของขวัญ 9 ชิ้น
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลออกนโยบายของขวัญ 9 ชิ้น ตามนโยบายประชาวิวัฒน์ว่า ล่าสุดนักวิชาการและนักเศรษฐศาสตร์ ได้ออกมาระบุว่า นโยบายดังกล่าว ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในระดับชั้นกลาง หรือล่าง แต่เป็นเพียงการหาเสียงล่วงหน้าก่อนการเลือกตั้งเท่านั้น อีกทั้งนโยบายทั้ง 9 ข้อ ล้วนแล้วแต่เป็นนโยบายที่ลอกเลียนแบบพรรคพลังประชาชนทั้งหมด ยกเว้นแค่นโยบายซื้อไข่ เป็นกิโลเท่านั้น
"ขณะนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องออกมาตอบคำถามว่า รัฐบาลได้ทำการจ้างบริษัทเอกชน เป็นที่ปรึกษาในการจัดทำนโยบายของขวัญ 9 ชิ้น จริงหรือไม่" นายพร้องพงศ์ กล่าว
ส่วนกรณีงบกลางปีที่รัฐบาลพยายามที่จะทำ แต่หลาย ๆ ฝ่ายในคณะรัฐมนตรี ออกมาปฏิเสธว่า ไม่มีการดำเนินการใดๆนั้น เหมือนเป็นเพียงการหลอกลวงประชาชน เพราะวงในก็รู้หมดแล้วว่า งบกลางถูกจัดทำขึ้นเสร็จแล้ว เพราะฉะนั้นนายอภิสิทธิ์ต้องออกมาชี้แจงต่อเรื่องนี้ ไม่ใช่โยนไปให้ผู้อื่นตอบคำถาม
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีงบประมาณของ ศอฉ. ว่ามีงบประมาณเกือบ 6,000 ล้านบาท จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงว่า มีการจัดสรรงบอย่างไร ดังนั้นพรรคพื่อไทย จะเอาเรื่องนี้เสนอต่อฝ่ายการทหาร และการเงินการคลังของรัฐสภา รวมไปถึงจะนำเรื่องดังกล่าวไปอภิปรายในรัฐสภาด้วย เพราะเงินจำนวนนี้เป็นเงินเสียภาษีของประชาชน ไม่ใช่เงินของนายอภิสิทธิ์
------------
ทั้งนี้ ครม.ได้ให้ความเห็นชอบทุกแผน และมีข้อสังเกตเพิ่มเติม มีบางหน่วยงานที่ต้องการที่จะเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้นในแผนของการปฏิรูป
อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปครั้งนี้ ไม่ได้เน้นในเรื่องของการที่จะมีการใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่งตามจริงแล้วงบประมาณที่ใช้ ค่อนข้างน้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของการสมทบเงิน จากการที่พี่น้องประชาชนเองจะต้องมีส่วนร่วมในการที่จะเข้ามาออมเงิน หรือในกรณีนั้น ก็จะเป็นกรณีที่ภาคเอกชนจะเข้ามามีส่วนร่วม ดูจะมีการลงทุนในส่วนของภาครัฐที่จะมากที่สุด ก็จะเป็นเฉพาะกรณีของบ้านมั่นคง ในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ไป เมื่อครม.เห็นชอบแนวทางต่างๆ แล้ว ก็จะเริ่มทำงานทันทีตามกรอบเวลา เพื่อจะสามารถเห็นผลได้ ในเดือนมี.ค.-เม.ย. ไปจนถึงเดือนก.ค. นอกจากนี้ จะได้มีการจัดตั้งคณะทำงานคอยติดตามและขับเคลื่อนแผนในทุกๆ ด้านให้เป็นรูปธรรม และรายงานความคืบหน้าให้นายกรัฐมนตรีทราบทุกสัปดาห์
"งานของการปฏิรูปนั้น สิ่งหนึ่งซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญคือ การลดความเหลื่อมล้ำ และเป็นเรื่องของการที่จะสร้างหลักประกันความมั่นคงให้แก่พี่น้องประชาชน โดยพี่น้องประชาชนเองมีส่วนร่วม สัปดาห์ที่ผ่านมาตนยังได้มีโอกาสพบปะกับพี่น้องผู้ใช้แรงงานในสมัชชาแรงงาน เพื่อยืนยันถึงแนวทางการปฏิรูปที่จะเปิดโอกาสให้ประกันสังคมนั้นมีความครอบคลุมออกไปสู่แรงงานนอกระบบ แล้วก็ต้องการที่จะทำให้มีการปรับปรุงในเรื่องของสิทธิประโยชน์ และความโปร่งใสในการบริหารจัดการของสำนักงานประกันสังคมด้วย นั่นก็คืองานของการปฏิรูป" นายกรัฐมนตรี กล่าว
** จี้"มาร์ค" ตอบเรื่องบกลางปี-ของขวัญ 9 ชิ้น
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลออกนโยบายของขวัญ 9 ชิ้น ตามนโยบายประชาวิวัฒน์ว่า ล่าสุดนักวิชาการและนักเศรษฐศาสตร์ ได้ออกมาระบุว่า นโยบายดังกล่าว ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในระดับชั้นกลาง หรือล่าง แต่เป็นเพียงการหาเสียงล่วงหน้าก่อนการเลือกตั้งเท่านั้น อีกทั้งนโยบายทั้ง 9 ข้อ ล้วนแล้วแต่เป็นนโยบายที่ลอกเลียนแบบพรรคพลังประชาชนทั้งหมด ยกเว้นแค่นโยบายซื้อไข่ เป็นกิโลเท่านั้น
"ขณะนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องออกมาตอบคำถามว่า รัฐบาลได้ทำการจ้างบริษัทเอกชน เป็นที่ปรึกษาในการจัดทำนโยบายของขวัญ 9 ชิ้น จริงหรือไม่" นายพร้องพงศ์ กล่าว
ส่วนกรณีงบกลางปีที่รัฐบาลพยายามที่จะทำ แต่หลาย ๆ ฝ่ายในคณะรัฐมนตรี ออกมาปฏิเสธว่า ไม่มีการดำเนินการใดๆนั้น เหมือนเป็นเพียงการหลอกลวงประชาชน เพราะวงในก็รู้หมดแล้วว่า งบกลางถูกจัดทำขึ้นเสร็จแล้ว เพราะฉะนั้นนายอภิสิทธิ์ต้องออกมาชี้แจงต่อเรื่องนี้ ไม่ใช่โยนไปให้ผู้อื่นตอบคำถาม
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีงบประมาณของ ศอฉ. ว่ามีงบประมาณเกือบ 6,000 ล้านบาท จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงว่า มีการจัดสรรงบอย่างไร ดังนั้นพรรคพื่อไทย จะเอาเรื่องนี้เสนอต่อฝ่ายการทหาร และการเงินการคลังของรัฐสภา รวมไปถึงจะนำเรื่องดังกล่าวไปอภิปรายในรัฐสภาด้วย เพราะเงินจำนวนนี้เป็นเงินเสียภาษีของประชาชน ไม่ใช่เงินของนายอภิสิทธิ์
------------
