xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ทุ่ม76ล้านบาท “CABNET” ของเล่นใหม่ครม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - สัปดาห์ที่ผ่านมามีมติคณะรัฐมนตรีเรื่องหนึ่ง ที่เกี่ยวกับคณะรัฐมนตรี 36 คนโดยตรง เพราะมีการปรับเปลี่ยนระบบสำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี จากระบบเอกสาร ระบบมือ หรือ ที่เรียกว่า manul มาเป็น แบบอิเล็กทรอนิกส์”

ระบบที่ว่า มีชื่อย่อ ภาษาอังกฤษว่า “CABNET” หรือ CABINET NETWORK เป็นระบบที่ใช้ในการส่งข้อมูลสารสนเทศ ที่เกี่ยวข้องกับการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ประชุมครม.ไฟเขียวให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนำมาใช้ หลังจากที่ทดลองใช้ตลอดปี 2553

เป็นการเปลี่ยนแปลงกระบวนการจัดการเอกสารการประชุมคณะรัฐมนตรีในขั้นตอนต่าง ๆ จากเดิมที่ใช้เอกสาร มาเป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ด้วยระบบ online

ที่ ครม.เห็นชอบเรื่องนี้ ก็เพราะคณะรัฐมนตรี ของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” จะเป็นคณะแรกที่ใช้ระบบนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี เป็นการการนำระบบ CABNET มาใช้กับหน่วยงานทั้งหมดตามโครงการ จะอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2554 นี้

หากย้อนไปจากจุดเริ่มต้นของโครงการ “CABNET” เกิดขึ้นในปี 2549 มี “ รองพล เจริญพันธุ์” เลขาธิการครม. สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ร่วมผลักดัน โดยการว่า จ้างที่ปรึกษาโครงการจาก “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ระบบสารสนเทศการประชุมคณะรัฐมนตรีแบบอิเล็กทรอนิกส์

ใช้งบประมาณรวมกว่า “76,414,400 ล้านบาท”
 
มีการดำเนินการพัฒนาระบบ CABNET ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2552 - พฤศจิกายน 2553 ด้วยงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2549 สำหรับเป็นค่าจ้างที่ปรึกษาและค่าใช้จ่ายของโครงการ

โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการเชื่อมต่อเครือข่ายและพัฒนาระบบจนมีความพร้อมใช้งาน และมีการทดสอบการใช้งานกับหน่วยงานนำร่อง 12 หน่วยงาน ในช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2553 มีการทดลองปฏิบัติงานกับหน่วยงานนำร่องในช่วงเดือนมีนาคม-กันยายน 2553 รวมทั้งชี้แจงการใช้ระบบกับหน่วยงานทั้งหมดในช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2553

ถามว่าทำไมถึงต้องมีระบบ “CABNET” สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ได้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ เพื่อพัฒนาการปฏิบัติงานในการสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง

หากย้อนหลังไปดูระบบเก็บข้อมูลเพื่อนำเสนอ ครม. ในปี 2532 สมัยรัฐบาลบรรหาร ศิลปอาชา เริ่มเปลี่ยนแปลงระบบเอกสาร (แผ่นกระดาษ) ด้วยการใช้ระบบจัดเก็บและสืบค้นข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี และต่อเนื่องมาด้วยระบบสารบรรณอัตโนมัติ เพื่อใช้ในการติดตามสถานภาพเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี

ใช้ระบบนี้มายาวนานกว่า 13 ปี จนสมัย “พ.ต.ท.ทักษิณ” ปี 2544ได้มีการนำระบบจัดทำวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีในรูปแบบ CD เพื่อลดเอกสารและเพิ่มระบบการประชุมคณะรัฐมนตรีทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) เข้ามาใช้

และสมัยนั้นได้มีการศึกษาระบบ CABNET ซึ่งเป็นระบบสารสนเทศสนับสนุนภารกิจของคณะรัฐมนตรีในกระบวนการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรีทั้งระบบ ตั้งแต่การวางแผนการเสนอเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี การจัดทำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี การแจ้งระเบียบวาระการประชุมและส่งเอกสารการประชุมคณะรัฐมนตรี การแจ้งมติคณะรัฐมนตรี รวมทั้งการสืบค้นข้อมูลคณะรัฐมนตรี โดยหน่วยงานที่ใช้ระบบมีจำนวน 37 หน่วยงาน

ถามว่า ระบบ “CABNET” มีประโยชน์แค่ทำให้ ครม.ได้รับข้อมูลที่รวดเร็วเท่านั้นหรือไม่ ถ้าว่ากันอย่างนั้นก็ได้ เพราะวาระครม.ที่ส่วนใหญ่จัดทำเป็นรูปแบบของเอกสาร อย่างวาระเพื่อพิจารณาปกติจะเป็นเอกสารที่หนาเทอะทะ จะแบกมาร่วมประชุมก็จะสร้างความรำคาญกว่าจะเปิดแต่ละหน้ารัฐมนตรี ก็อาจจะหาจนตาลาย ระบบ“CABNET” เข้ามาช่วย โดยหน่วยงานในกระทรวงต่าง ๆ ที่ใช้ระบบล่าสุดมีจำนวน 37 หน่วยงาน และจะเพิ่มขึ้นในอนาคต เป็นประโยชน์ที่จะสามารถดึงข้อมูลต่อข้อมูลจาก 37 หน่วยงานได้โดยตรง ซึ่งผู้ใช้จะต้องมีพาสเวิร์ดของตัวเองในการสู่ข้อมูลนี้

จากปัญหาในอดีต เรื่องที่ส่วนราชการเสนอที่ไม่เป็นไปตามแนวทางที่พระราชกฤษฎีกาและระเบียบกำหนด เรื่องที่ส่วนราชการเสนอไม่ชัดเจน เรื่องที่ส่วนราชการเสนอมีหลายรูปแบบ การประสานขอความเห็นในเรื่องด่วนมีเวลาจำกัด การส่งวาระการประชุมล่าช้า การแจ้งมติคณะรัฐมนตรีให้หน่วยงานล่าช้า

ก็จะได้ประโยชน์ นอกจากจะมีความรวดเร็วในการเสนอเรื่อง ประสานความเห็น การแจ้งวาระการประชุม การแจ้งมติคณะรัฐมนตรี ความเป็นมาตรฐานในการจัดทำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี รวมถึงการประหยัดค่าใช้จ่าย เวลา น้ำมันรถส่งเอกสารและ

ที่สำคัญ หากมีการตกลงในระดับรัฐมนตรีว่า จะถอนเรื่องนั้นเรื่องนี้ออกก่อนประชุม รัฐมนตรี ก็สามารถ คลิกถอนเรื่องนั้นออกได้ทันที โดยจะปรากฎหลักฐานว่า กระทรวงนั้นได้ถอนเรื่องนั้นออกจาก ครม. เพื่อเป็นหลักฐานในระบบนั้นด้วย และไม่ขัดกับพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
กำลังโหลดความคิดเห็น