ตลาดเครื่องสำอางขายตรงพุ่งแรง ปีนี้คาดโตไม่ต่ำกว่า 10% “เบทเตอร์เวย์” ตั้งเป้าโตอย่างน้อย 6% แตะ 12,000 ล้านบาท หลังปีก่อนโต37% สูงสุดในรอบ 5 ปี พร้อมลุยเตรียมส่งสินค้าลงศึกหลายรายการ อัดงบการตลาดกว่า 1,000 ล้านบาท ผลักรายได้ตามแผน
นายดนัย ดีโรจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางมิสทิน เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมขายตรงในปีก่อนเติบโตที่ 6% ส่วนในปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้มากกว่า 10% มาจากปัจจัยบวก 3 ด้านหลักๆ คือ 1. กำลังซื้อมีความเชื่อมั่นทางการเมืองมากยิ่งขึ้น 2. การเมืองมีทิศทางคลี่คลายดีขึ้น และ3.อุตสาหกรรมขายตรงมีการขยายตัวและแข่งขันสูงขึ้น
อย่างไรก็ตามปัจจัยที่น่าเป็นห่วงในปีนี้ ก็คือ เรื่องของการเมืองอีกเช่นกัน เพราะมีแนวโน้มที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ รวมถึงเรื่องของพลังงาน อย่าง ราคาน้ำมัน ถ้ามีการปรับตัวสูงขึ้น จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค รวมถึงต้นทุนสินค้าที่จะเพิ่มสูงขึ้นตามมา
ในส่วนของเบทเตอร์เวย์นั้น ในปีที่ผ่านมา รายได้รวมเติบโตขึ้นกว่า 37% โดยมิสทินเติบโตสูงถึง 27% ถือเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา หรือในปีก่อน มีรายได้อยู่ที่ 10,300 ล้านบาท มาจาก มิสทิน 60% ฟรายเดย์ 37% และฟารีส 3% จากปี2552 มีรายได้ราว 9,000 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้ทางบริษัทตั้งเป้าเติบโตขึ้นอย่างน้อย 6% คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 12,000 ล้านบาท
โดยปีนี้ใช้งบการตลาดรวมกว่า 980-1,000 ล้านบาท ผ่านการทำตลาดและกิจกรรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีสินค้าใหม่เข้ามาอีกหลายตัว มุ่งเน้นในการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะทำให้เพิ่มฐานสมาชิกเป็น 1.2 ล้านคน จากปีก่อนปิดที่ 1 ล้านคนได้
นอกจากนี้ปีนี้ทางบริษัททุ่มงบอีก 1,000 ล้านบาท ในการเพิ่มศูนย์กลางการกระจายสินค้าแห่งใหม่ที่ ลาดหลุมแก้ว พื้นที่กว่า 74 ไร่ สร้างเป็นแวร์เฮ้าส์ใหม่ รองรับการเติบโตในอีก 5-10 ปีข้างหน้า คาดว่าภายใน 2 ปีหลังจากนี้จะดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ โดยขณะนี้สรุปแปลนการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้มองว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าบริษัทจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท
ล่าสุดในส่วนของแบรนด์เครื่องสำอาง ฟาริส บาย นาริส ได้เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ คือ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ที่มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ โลชั่นกันแดด ฟาริส เพอร์เฟค sun50 ภายใต้งบการตลาดกว่า 50 ล้านบาท มั่นใจว่าในสิ้นปีนี้ แบรนด์ฟารีส จะมีรายได้ที่ 5% ของรายได้รวมบริษัททั้งหมด จากปีก่อนอยู่ที่ 3% หรือกว่า 330 ล้านบาท
นายดนัย ดีโรจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางมิสทิน เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมขายตรงในปีก่อนเติบโตที่ 6% ส่วนในปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้มากกว่า 10% มาจากปัจจัยบวก 3 ด้านหลักๆ คือ 1. กำลังซื้อมีความเชื่อมั่นทางการเมืองมากยิ่งขึ้น 2. การเมืองมีทิศทางคลี่คลายดีขึ้น และ3.อุตสาหกรรมขายตรงมีการขยายตัวและแข่งขันสูงขึ้น
อย่างไรก็ตามปัจจัยที่น่าเป็นห่วงในปีนี้ ก็คือ เรื่องของการเมืองอีกเช่นกัน เพราะมีแนวโน้มที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ รวมถึงเรื่องของพลังงาน อย่าง ราคาน้ำมัน ถ้ามีการปรับตัวสูงขึ้น จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค รวมถึงต้นทุนสินค้าที่จะเพิ่มสูงขึ้นตามมา
ในส่วนของเบทเตอร์เวย์นั้น ในปีที่ผ่านมา รายได้รวมเติบโตขึ้นกว่า 37% โดยมิสทินเติบโตสูงถึง 27% ถือเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา หรือในปีก่อน มีรายได้อยู่ที่ 10,300 ล้านบาท มาจาก มิสทิน 60% ฟรายเดย์ 37% และฟารีส 3% จากปี2552 มีรายได้ราว 9,000 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้ทางบริษัทตั้งเป้าเติบโตขึ้นอย่างน้อย 6% คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 12,000 ล้านบาท
โดยปีนี้ใช้งบการตลาดรวมกว่า 980-1,000 ล้านบาท ผ่านการทำตลาดและกิจกรรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีสินค้าใหม่เข้ามาอีกหลายตัว มุ่งเน้นในการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะทำให้เพิ่มฐานสมาชิกเป็น 1.2 ล้านคน จากปีก่อนปิดที่ 1 ล้านคนได้
นอกจากนี้ปีนี้ทางบริษัททุ่มงบอีก 1,000 ล้านบาท ในการเพิ่มศูนย์กลางการกระจายสินค้าแห่งใหม่ที่ ลาดหลุมแก้ว พื้นที่กว่า 74 ไร่ สร้างเป็นแวร์เฮ้าส์ใหม่ รองรับการเติบโตในอีก 5-10 ปีข้างหน้า คาดว่าภายใน 2 ปีหลังจากนี้จะดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ โดยขณะนี้สรุปแปลนการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้มองว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าบริษัทจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท
ล่าสุดในส่วนของแบรนด์เครื่องสำอาง ฟาริส บาย นาริส ได้เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ คือ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ที่มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ โลชั่นกันแดด ฟาริส เพอร์เฟค sun50 ภายใต้งบการตลาดกว่า 50 ล้านบาท มั่นใจว่าในสิ้นปีนี้ แบรนด์ฟารีส จะมีรายได้ที่ 5% ของรายได้รวมบริษัททั้งหมด จากปีก่อนอยู่ที่ 3% หรือกว่า 330 ล้านบาท