00 เป็นไปตามคาดหมายสำหรับการเพิ่มข้อหา “จารกรรม” ของ วีระ สมความคิด กับคนไทยอีกคนหนึ่งฐานไปนำกล้องถ่ายรูปไปถ่าย “ทุ่งนา” ตามแนวชายแดนซึ่งรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง สุเทพ เทือกสุบรรณ ยกให้เขมรไปแล้ว โดยการรันตีให้เสร็จสรรพว่า คนไทยทั้ง 7 คน รวมถึง ส.ส.พนิช วิกิตเศรษฐ รุกล้ำเข้าไปถึง 1.2 กิโลเมตร นาทีนี้เมื่ออยู่ในกำมือ “ฮุนเซน” แล้วจะทำอะไรได้ อย่างดีก็แค่นั่งลงแล้วพนมขอความเมตตาจากฝ่ายตรงข้าม ทุด !!
00 แทนที่ตอนแรกเราต้องยืนยันให้ตรวจสอบพื้นที่ก่อนว่าเป็นของใครกันแน่ เมื่อเขมร “ลักพาตัว” ในพื้นที่ไทย หรืออย่างมากก็แค่พื้นที่พิพาท ก็ต้องประท้วงให้ส่งตัวกลับมาให้ไทย ไม่ใช่ไปยอมรับศาลเขมร อย่างที่คณะผู้นำไทยดำเนินการอยู่ในเวลานี้ เวลานี้อย่าว่าโทษจำคุก 10 ปีเลย จะประหารชีวิต มันก็ยกข้อหาเพิ่มมาได้ไม่สิ้นสุดอะไรก็เกิดขึ้นได้สำหรับประเทศนั้น
00 ตื่นตัวทำเป็นขึงขังตรวจพื้นที่ชายแดนด้านศรีสะเกษ สุรินทร์ ใกล้กับเขาพระวิหารของ “เทพเทือก” กับ ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วานนี้( 12 ม.ค.) ก็ระวังปากเอาไว้หน่อยแล้วกัน อย่า “ปากมอม” ไปยกพื้นที่ให้เขาอีกเป็นอันขาด ทางที่เหมาะสมสำหรับคนๆนี้ควรหุบปากและอยู่ให้ไกลเป็นการดีที่สุด
00 เรื่องผลประโยชน์ของ “นักเลือกตั้ง” กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญแบ่งเขตเล็กในเรื่องสัดส่วน ส.ส.กลายเป็นประเด็น “คุกรุ่น” กันภายในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลขนาดเล็กกับพรรคประชาธิปัตย์ แม้ว่ามติกรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่ชนะโหวตแบบเฉียดฉิว 18-17 ยืนตามความเห็นของ ครม.หรือปชป.ไปแล้วก็ตาม ใช่ว่าจะยุติง่ายๆ เพราะกรรมาธิการเสียงข้างน้อยได้สงวนคำแปรญัตติไปอภิปรายในสภาในช่วงโหวตวาระสองสาม อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาในภาพรวมแล้วคงผ่านไปตามความต้องการของ “มาร์ค” นั่นแหละ
00 ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลทำได้ก็แค่ส่งเสียงฮึดฮัดออกมาเท่านั้น เพราะอีกฝ่ายจับไต๋ออกว่าสิ่งที่ต้องการที่สุดคืออยากให้แบ่งเป็นเขตเล็ก เพื่อตัวเองแข่งขันได้ในพื้นที่ ส่วนประเด็นอื่นที่เหลือถ้าได้ก็ดี อย่างไรก็ดีสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าเมื่อถึงคราประชาธิปัตย์ “ได้เปรียบ” แล้วตัวเองก็ไม่ยอมถอย ทำได้ถึงขนาดข่มขวัญด้วยการขู่ “ยุบสภา” ก็เอา
00 อีกไม่กี่วันคนไทยก็จะได้รับของขวัญอีกอย่างหนึ่งจากรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะก็คือ เราจะได้รัฐมนตรี(หน้าเก่า) เติมเต็มเข้ามาอีกสองรายคือ บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ จากภูมิใจไทย กับ เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตรจาก ชาติไทยพัฒนา หากไม่มีอะไรพลิกผันก็น่าจะได้นั่งเก้าอี้เดิมคือ รมช.มหาดไทย กับ รมช.คมนาคม แต่คำถามก็คือทั้งสองคนดังกล่าวจงใจทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญกรณีถือหุ้นบริษัทสัมปทาน เป็นต้นเหตุให้ต้องเสียงบประมาณเลือกตั้งซ่อม ผิดทั้งกฎหมายและจริยธรรมเราจะทำยังไงกันดี หือ มาร์ค ตอบให้ชื่นใจหน่อยซิ
00 จะเรียกว่า “มวยถูกคู่”มันเกินไป เพราะมันคนละชั้นกันระหว่าง “ไอ้ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ กับ ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ แต่การเกาะติดทุกฝีก้าวแบบนี้ มันก็ทำให้ “หัวขวด” เคลื่อนไหวลำบากเหมือนกัน อย่างน้อยก็ต้องพะวักพะวงหลัง และด้วยนิสัยขี้ขลาดมาแต่ไหนแต่ไร ที่ทำปากกล้าขาสั่นก็เพราะ “สู้แล้วรวย” จึงต้องยื่นหน้าออกไปแบบนี้ การยื่นถอนประกันตัวครั้งล่าสุดมันก็แสดงให้เห็นว่าเขาเอาจริงต้องระวังตัวแจขึ้นไปอีก แต่เอาเป็นว่า “วอนนอนคุก” เข้าไปทุกทีแล้ว !!
00 แทนที่ตอนแรกเราต้องยืนยันให้ตรวจสอบพื้นที่ก่อนว่าเป็นของใครกันแน่ เมื่อเขมร “ลักพาตัว” ในพื้นที่ไทย หรืออย่างมากก็แค่พื้นที่พิพาท ก็ต้องประท้วงให้ส่งตัวกลับมาให้ไทย ไม่ใช่ไปยอมรับศาลเขมร อย่างที่คณะผู้นำไทยดำเนินการอยู่ในเวลานี้ เวลานี้อย่าว่าโทษจำคุก 10 ปีเลย จะประหารชีวิต มันก็ยกข้อหาเพิ่มมาได้ไม่สิ้นสุดอะไรก็เกิดขึ้นได้สำหรับประเทศนั้น
00 ตื่นตัวทำเป็นขึงขังตรวจพื้นที่ชายแดนด้านศรีสะเกษ สุรินทร์ ใกล้กับเขาพระวิหารของ “เทพเทือก” กับ ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วานนี้( 12 ม.ค.) ก็ระวังปากเอาไว้หน่อยแล้วกัน อย่า “ปากมอม” ไปยกพื้นที่ให้เขาอีกเป็นอันขาด ทางที่เหมาะสมสำหรับคนๆนี้ควรหุบปากและอยู่ให้ไกลเป็นการดีที่สุด
00 เรื่องผลประโยชน์ของ “นักเลือกตั้ง” กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญแบ่งเขตเล็กในเรื่องสัดส่วน ส.ส.กลายเป็นประเด็น “คุกรุ่น” กันภายในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลขนาดเล็กกับพรรคประชาธิปัตย์ แม้ว่ามติกรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่ชนะโหวตแบบเฉียดฉิว 18-17 ยืนตามความเห็นของ ครม.หรือปชป.ไปแล้วก็ตาม ใช่ว่าจะยุติง่ายๆ เพราะกรรมาธิการเสียงข้างน้อยได้สงวนคำแปรญัตติไปอภิปรายในสภาในช่วงโหวตวาระสองสาม อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาในภาพรวมแล้วคงผ่านไปตามความต้องการของ “มาร์ค” นั่นแหละ
00 ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลทำได้ก็แค่ส่งเสียงฮึดฮัดออกมาเท่านั้น เพราะอีกฝ่ายจับไต๋ออกว่าสิ่งที่ต้องการที่สุดคืออยากให้แบ่งเป็นเขตเล็ก เพื่อตัวเองแข่งขันได้ในพื้นที่ ส่วนประเด็นอื่นที่เหลือถ้าได้ก็ดี อย่างไรก็ดีสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าเมื่อถึงคราประชาธิปัตย์ “ได้เปรียบ” แล้วตัวเองก็ไม่ยอมถอย ทำได้ถึงขนาดข่มขวัญด้วยการขู่ “ยุบสภา” ก็เอา
00 อีกไม่กี่วันคนไทยก็จะได้รับของขวัญอีกอย่างหนึ่งจากรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะก็คือ เราจะได้รัฐมนตรี(หน้าเก่า) เติมเต็มเข้ามาอีกสองรายคือ บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ จากภูมิใจไทย กับ เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตรจาก ชาติไทยพัฒนา หากไม่มีอะไรพลิกผันก็น่าจะได้นั่งเก้าอี้เดิมคือ รมช.มหาดไทย กับ รมช.คมนาคม แต่คำถามก็คือทั้งสองคนดังกล่าวจงใจทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญกรณีถือหุ้นบริษัทสัมปทาน เป็นต้นเหตุให้ต้องเสียงบประมาณเลือกตั้งซ่อม ผิดทั้งกฎหมายและจริยธรรมเราจะทำยังไงกันดี หือ มาร์ค ตอบให้ชื่นใจหน่อยซิ
00 จะเรียกว่า “มวยถูกคู่”มันเกินไป เพราะมันคนละชั้นกันระหว่าง “ไอ้ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ กับ ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ แต่การเกาะติดทุกฝีก้าวแบบนี้ มันก็ทำให้ “หัวขวด” เคลื่อนไหวลำบากเหมือนกัน อย่างน้อยก็ต้องพะวักพะวงหลัง และด้วยนิสัยขี้ขลาดมาแต่ไหนแต่ไร ที่ทำปากกล้าขาสั่นก็เพราะ “สู้แล้วรวย” จึงต้องยื่นหน้าออกไปแบบนี้ การยื่นถอนประกันตัวครั้งล่าสุดมันก็แสดงให้เห็นว่าเขาเอาจริงต้องระวังตัวแจขึ้นไปอีก แต่เอาเป็นว่า “วอนนอนคุก” เข้าไปทุกทีแล้ว !!
