xs
xsm
sm
md
lg

กางแผน "บรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์" ปีนี้ผมจะสร้าง"อัศจรรย์"วงการราชการไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปีที่ผ่านมา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ภายใต้การกุมบังเหียรของบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ ได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ และความตื่นตัวในวงการราชการไทยเป็นอย่างมาก กับการพลิกโฉมงานให้บริการธุรกิจที่คว้ารางวัลจากการประกวด "รางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชน" จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) โดยได้ส่งเข้าผลงานเข้าประกวด 4 ประเภท คว้ามาได้ 3 รางวัลดีเด่น และ 1 รางวัลชมเชย
มาปีนี้ มีหลากหลายคำถามถึงบรรยงค์ ว่า จะป้องกันแชมป์ได้อย่างไร มีแนวทางในการปรับปรุงงานให้บริการอะไรบ้าง ที่จะยังคงทำให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าสามารถรักษาความมีประสิทธิภาพในการพัฒนางานให้บริการประชาชนได้ต่อไป
บรรยงค์ เริ่มต้นการพูดคุย โดยบอกว่า "ที่ทำงานมาปีกว่า ผมมีเรื่องเครียดเยอะ เพราะทำอะไรเกินตัว แต่ผมมีจุดมุ่งหมายชัดเจน งานที่ผมทำ ปกติต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี แต่ผมทำเร็วกว่า มันเลยทำให้ต้องเครียดกว่าปกติ"
บรรยงค์ชี้ว่า ผลงานที่เกิดขึ้นทั้งหมด ต้องยกเครดิตให้กับรัฐมนตรีว่าการ (นางพรทิวา นาคาศัย) ที่ให้โอกาสผมมาทำงานตรงนี้ และสนับสนุนเต็มที่ และรัฐมนตรีช่วยว่าการ (นายอลงกรณ์ พลบุตร) ที่กำกับดูแลผมโดยตรง มีทิศทาง มีเป้าหมาย มีกรอบในการทำงานที่ชัดเจน แต่ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย ก็คือ รองอธิบดีของผมทั้ง 3 คน และข้าราชการในสังกัดกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ทำงานร่วมกับผมแบบถึงไหนถึงกัน
"ผมเกิดที่นี่ โตที่นี่ ไปอยู่ที่อื่นมาบ้าง ไปเป็นรองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เป็นผู้ตรวจราชการ แล้วกลับมาเป็นอธิบดี ความท้าทายผมเลยมีมากกว่า แต่โอกาสผมก็มีมากกว่า คนที่นี่ 1,200 คน มี 60% รู้จักเราดี 20% เป็นพวกกลางเก่ากลางใหม่ และอีก 20% เป็นคนใหม่ คนเก่าพร้อมให้เรานำ คนกลางๆ ขอดูเราก่อน แต่คนใหม่เป็นพวกไฟแรง พวกนี้เอาไงเอากัน พอผมเข้ามา แรกๆ ผมบอกลุกๆ บางคนลุกเลย ทำงานเลย บางคนลุกแล้ว แต่ยังนั่งงัวเงีย บางคน ไม่ยอมลุก นอนต่อ มาวันนี้ ทุกคนตื่นหมด พร้อมทำงานหมด เพราะเขาเห็นแล้วว่าเราเอาจริง ทำงานจริง อาจจะเป็นคนดุๆ นิดนึง เจ้าระบบ แต่ก็ไม่มีอะไร"บรรยงค์บอก
บรรยงค์เล่าว่า ปีแรกผมประกาศชัด การทำงานต้อง 3 ประสาน เราเป็นตัวตั้ง มีเอกชน มีสถาบันการศึกษามาร่วม และให้เน้นการให้เกียรติคน ผลงานอะไรที่เกิดขึ้นให้เป็นผลงานเขา อย่าเอาเป็นของเรา จากเดิมเราต้องวิ่งหาหน่วยงานต่างๆ มาวันนี้หน่วยงานต่างๆ วิ่งมาหาเรา เราไม่ทำแล้วส่งหนังสือไปมา กว่าจะรู้เรื่องผ่านไป 15 วัน ตอนนี้เอาอะไรคุยได้ทันที แล้วเรื่องที่ต้องดึงสถาบันการศึกษาเข้ามา เพราะเราไม่รู้ทุกเรื่อง ก็อย่าอวดดี รู้ทุกเรื่อง เราต้องฟัง อย่างเรื่องโลจิสติกส์ เราไปบอกคนอื่นให้ลดต้นทุน แต่ของเรา เรื่องเดียว วิ่ง 3-4 ชั้น เราปรับหมด ปรับจนได้รางวัล
เมื่อเล่ามาถึงจุดนี้ บรรยงค์ จึงเริ่มตอบคำถามที่ว่า จะป้องกันแชมป์ได้ยังไง "ผมว่าทำให้ได้รางวัลง่ายกว่า ที่จะรักษารางวัลไว้"
อย่างไรก็ตาม บรรยงค์บอกอีกว่า ยังไม่หมดหนทางซ่ะทีเดียว เพราะแผนงานที่จะทำในปีนี้ เรียกว่าจะเกิดปรากฎการณ์ "อัศจรรย์วงการข้าราชการไทย" เลยทีเดียว
"ผมเคยถูกถามบริการยังไงให้ได้ใจประชาชน ผมตอบไปว่าผมไม่มีทฤษฎี บริหารตามธรรมชาติ ผมเป็นลูกพ่อค้า ทอนตังค์เป็นก่อนคิดเลขเป็นด้วยซ้ำ ถูกสอนมาอย่างนี้ ฉะนั้น หลัก ถ้าอยากได้ใจประชาชน ก็ต้องให้ใจเขา งานบริการก็เหมือนกัน เราอยากได้แบบไหน ประชาชนก็อยากได้แบบนั้น"
ทั้งนี้ บรรยงค์ ได้ยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ ว่า เช่นคนอยากได้หนังสือรับรอง 1 ฉบับ ทำยังไงได้บ้าง ขับรถมา เข้ามาขอ แต่มันคงไม่ได้เลย มาถึงไม่รู้ไปไหน ต้องทำให้เขารู้ มีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำ ขอแล้ว ต้องบอกเวลาเสร็จ ไม่ใช่รอไม่รู้จุดหมาย ระหว่างรอ มีที่ให้นั่ง มีกาแฟให้กิน มีหนังสือพิมพ์ให้อ่าน เป็นหลักธรรมชาติ หรือมาขอหนังสือรับรองแล้ว อยากยื่นงบดุล งบการเงิน จะทำทีเดียวเลยได้มั้ย พอได้โจทย์ ก็แก้โจทย์ได้ งานบริการ มันมีอะไรให้คิดเยอะ หรือตอนนี้ทุกบ้านมีอินเทอร์เน็ตใช้ อยากได้หนังสือรับรอง ดูที่บ้านก็ได้ ดูแล้วไปจ่ายเงินที่ ATM เรามีทางเลือกให้ จะมารับเอง หรือจะให้เราส่ง EMS หรืออยากให้ส่งด่วนก็มีมอเตอร์ไซต์ไปส่งให้ เป็นสิ่งที่เราทำมาเมื่อปีที่แล้ว
ส่วนในปีนี้ บรรยงค์บอกว่า งานเดิมคงต้องต่อยอด งานใหม่ก็มีแนวทางใหม่ๆ โดยงานที่สร้างปรากฎการณ์สะท้านวงการราชการไทยเมื่อปีที่แล้ว ก็คือ การบูรณาการ 3 หน่วยงานจดทะเบียนธุรกิจ ขอ 1 ได้ถึง 3 ได้เลขนิติบุคคล ได้เลขบัญชีนายจ้าง และเลขประจำตัวผู้เสียภาษี เท่ากับว่า เราแค่ 1 คน แต่ทำแทน 3 คน ทำแทนสำนักงานประกันสังคม ทำแทนกรมสรรพากร ปีนี้จะถึงเป้าหมายสูงสุดทั้ง 3 หน่วยงานจะใช้เลขเดียวกัน คาดว่ากลางปีนี้น่าจะเสร็จ ตอนนี้เราต้องหาทางเคลียร์เลขเดิมจะแก้ไขยังไง แต่ของใหม่ไม่ยาก ทำได้เลย
นอกจากนี้ จะจับมือธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศ มีสาขากว่า 7 พันแห่ง ออกหนังสือรับรองผ่านแบงก์ แปลว่ากรมฯ จะมีสำนักงานหรือเอ้าท์เล็ตอีกกว่า 7 พันแห่งในพริบตา อยากได้หนังสือรับรองอะไร ไปแบงก์ จ่ายเงิน รอรับได้เลย แล้ววันเกิดกรมฯ 13 ม.ค.นี้ ก็จะลงนามกับแบงก์ก่อน 6 แบงก์ มีกรุงเทพ กรุงไทย กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ ธนชาติ และออมสิน มีสาขาทั้งประเทศ 4,400 สาขา ส่วนเรื่องการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ไอซีที เป็นประธานพิจารณา ขอให้ประกาศให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าออกสิ่งพิมพ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ถ้ามีกติกาตรงนี้ออกมา ก็จะเริ่มให้บริการได้เลย
สำหรับการจดทะเบียนธุรกิจ จะปรับให้มีการจดทะเบียนข้ามเขตได้ เดิมไม่ได้ เราได้ขอแก้กฎหมายไปแล้ว แต่เรารอไม่ได้ จะทำเลย ทำเชิงรุก นำร่องก่อน 4 จังหวัด อย่างที่ชลบุรี ธุรกิจ 70% อยู่ที่พัทยา แปลว่าอะไร อยากจดทะเบียนต้องมาชลบุรี สมุย ก็เหมือนกัน ต้องมาสุราษฎร์ธานี หัวหิน ต้องมาประจวบคีรีขันธ์ แม่สอดต้องมาที่ตาก ต่อไปจดทะเบียนในพื้นที่ได้เลย เรากำลังไปตั้งศูนย์ กลางปีนี้จะเสร็จ
ก่อนจบการสนทนา บรรยงค์ทิ้งท้ายไว้ว่า "หน้าที่ของกรมฯ นี้ ชัดอยู่แล้ว ต้องบริการธุรกิจ ดังนั้น ต้องติดต่อง่าย บริการง่าย ทำให้ธุรกิจเดินหน้า เราไม่ต้องไปทำกำไรให้เขาๆ ทำเอง แต่เราต้องทำให้เขาทำธุรกิจง่าย มีหลักแค่นี้จริงๆ"
กำลังโหลดความคิดเห็น