xs
xsm
sm
md
lg

NGO 9 จว.เหนือล่างปรับวิธีขับเคลื่อน ประกาศเลิกชุมนุม-หันตั้งองค์กรปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ในการเสวนาNGO กลุ่ม 9 ยอดได้มีข้อสรุปว่า อีก 2 ปีจะไม่มีการชุมนุมบนถนนแล้ว
พิจิตร -เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ลงมติปรับวิถีการขับเคลื่อนเรียกร้อง ประกาศอีก 2 ปีต่อจากนี้เลิกชุมนุมบนท้องถนน หันสร้างองค์กรเครือข่ายผ่านเวที-สภา ปชช. สร้างความปรองดองในสังคมไทย-ทำดีถวายในหลวง พร้อมเดินหน้าสร้างสังคมเกษตรปลอดสาร

นายสุรพงษ์ พรมเท้า ผู้ประสานงานกลุ่มองค์การพัฒนาเอกชน (NGO) หรือเครือข่ายภาคประชาสังคมภาคเหนือตอนล่าง 9 จังหวัด หรือ “NGO กลุ่ม 9 ยอด” ที่ประกอบด้วย พิษณุโลก, สุโขทัย, อุตรดิตถ์, อุทัยธานี, นครสวรรค์, ตาก, พิจิตร, กำแพงเพชร, เพชรบูรณ์ ได้เปิดเผยว่า กลุ่มแกนนำทั้ง 9 จังหวัดรวม 70 คนได้ร่วมประชุมเสวนาทางวิชาการที่โรงแรมรัตนาปาร์คจังหวัดพิษณุโลก เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีนายชัยวัฒน์ ถิระพันธ์ ประธานสถาบันเพื่อการเรียนรู้และพัฒนาประชาสังคม เป็นผู้บรรยายให้ความรู้การสร้างเครือข่าย

สาระสำคัญในการประชุมครั้งนี้ คือ ในระยะเวลา 2 ปีต่อจากนี้ คือ ตั้งแต่ปี 2554-2555 กลุ่ม NGO เหล่านี้ จะปรับเปลี่ยนรูปแบบและขบวนการต่อสู้ทางความคิดและการดำเนินงานที่เป็นอิสระภายใต้กฎหมายและรัฐธรรมนูญ จะไม่เน้นการประท้วงหรือขับเคลื่อนความต้องการบนท้องถนน หรือถือป้ายประท้วง เพราะที่ผ่านมาประชาธิปไตยรวมถึงงบประมาณ หรือ โครงการ รวมทั้งการต่อต้านในสิ่งต่างๆด้วยการได้มาจากการชุมนุมประท้วง หรือ กดดันรัฐบาลบนท้องถนนเป็นสิ่งที่ได้มาโดยขาดสติและมิได้เน้นลงรายละเอียด ซึ่งเป็นการได้มาแล้วไม่ยั่งยืนเหมือนดั่งรัฐธรรมนูญหลายฉบับที่ได้มาจากการชุมนุมประท้วง

ดังนั้น เครือข่าย NGO กลุ่ม 9 ยอด จึงระดมสมองและมีบทสรุปว่า ต่อไปนี้จะเน้นการสร้างองค์กรประชาชนเพื่อแสดงความคิดเห็นความต้องการผ่านระบบการประชุมอย่างสร้างสรรค์และนำเสนอสู่รัฐบาลโดยกลุ่ม NGO 9 จังหวัดนี้จะไปสร้างความรู้แก่สมาชิกที่มีอยู่หลายหมื่นคนให้ได้เข้าใจและจะสร้างสภาประชาชนจากสภากาแฟ, สภาชาวนา, สภาเด็ก, สภาผู้สูงอายุ และอีกหลากหลายให้เน้นการเสวนาจนตกผลึกความคิดความต้องการแล้วถ่ายทอดเป็นโครงการสู่รัฐบาลและผู้มีส่วนร่วม ให้ดำเนินการแก้ไข

แนวทางนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างความปรองดองสมานฉันท์ และการสร้างความสงบเรียบร้อยขึ้นภายในประเทศให้ทั่วโลกรู้ว่าคนไทยและ NGO เป็นผู้เจริญแล้วทางการศึกษาและความคิด เพื่อเป็นหนึ่งในการทำความดีถวายในหลวงให้สบายพระราชหฤทัยอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีการมองปัญหาใกล้ตัวด้านสุขภาพว่าจะหันหน้ามาทำโครงการเสริมสร้างสุขภาพให้แก่ประชาชนให้หันมาให้ความสำคัญกับเกษตรปลอดสาร ปลอดภัยจากสารพิษ เหตุเพราะ 9 จังหวัดดังกล่าวมีกลุ่มเกษตรกรที่ล้วนเป็นผู้ผลิตอาหารแหล่งใหญ่ของประเทศไทย โดยมีการผนึกกำลังความคิดว่าจะต้องปลดปล่อยเกษตรกรให้ออกจากบ่วงของนายทุนที่พันธนาการทั้งด้านการผลิต, การตลาด, การแปรรูป, การค้าส่งค้าปลีก ให้เกิดการแบ่งปันตามธรรมชาติ รวมถึงให้เกษตรกรทุกคนได้เข้าถึงแหล่งความรู้ทางวิชาการและใช้ธรรมชาติเป็นพืชอาหารและมีการแบ่งปันตามวิถีไทย โดยยึดแนวเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงเป็นที่ตั้งอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น