ASTVผู้จัดการรายวัน/ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจขอนแก่นยังมืดแปดด้าน “ไทกร”จี้ “อภิสิทธิ์” สงสัยมีกลุ่มทหารแตงเกี่ยวข้อง ด้าน “พลต.อ.วิเชียร” คาดระเบิดห้องสมุด “ป๋าฯ เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยว “องคมนตรี”ปัดเชื่อมโยง “แดง"”สั่งคุมเข้มบ้านพักป๋าในโคราช ด้านเด็จพี่อ้างเหตุบึ้มจากฝีมือคนมีสี
วานนี้ (9 ม.ค.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเหตุระเบิดห้องสมุดโรงเรียนเปรม ติณสูลานนท์ ที่ จ.ขอนแก่นว่า เบื้องต้นน่าจะเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับองคมนตรี ขณะนี้ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน ต้องใช้นิติวิทยาศาสตร์เป็นหลักในการสืบสวนและปราบปราม แม้ว่ายังไม่พบตัวผู้กระทำผิดวันนี้ แต่ถ้าเก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้ เข้าไปสู่ข้อมูลศูนย์ข้อมูลวัตถุระเบิด ในศูนย์ปฏิบัติการและบริหารเหตุการณ์ร้ายแรง (ศปร.ตร.) ที่เราตั้งไว้ ก็จะสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ เหมือนกับการเก็บลายนิ้วมือ เก็บดีเอ็นเอ
ผู้สื่อข่าวถามว่าเบื้องต้นเกี่ยวกับการประเด็นการป่วนเมืองหรือเชื่อมโยงกับผู้ชุมนุมด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่าไม่ใช่ เมื่อถามว่ามีการวางแผนรับมือการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงอย่างไรบ้าง พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ตนได้ให้นโยบายไปแล้ว โดยย้ำชัดเจนว่าหลังยกเลิกการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตำรวจจะต้องเป็นกลไกหลักของรัฐบาล ที่จะดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ที่สำคัญต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่มี 2 มาตรฐาน ใช้กฎหมายให้เป็นเรื่องมืออย่างมีประสิทธิภาพ และมีการวางกำลังเต็มที่
**พท.ชี้บึ้มโรงเรียน"ป๋า" ฝีมือคนมีสี
ขณะที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค พท. แถลงว่า เป็นการระเบิดต่อเนื่องครั้งที่ 3 แล้ว โดยการระเบิดครั้งนี้คณะทำงานของพรรค พท.เห็นว่า น่าจะมีนัยยะการเมือง เพราะ จ.ขอนแก่นเป็นเมืองหลวงคนเสื้อแดง แม้มีทหารรักษาการอยู่ด้านหน้าโรงเรียนและมีครูเวรอยู่ด้วย แต่ยังมีคนกล้าวางระเบิดห้องสมุดอย่างรุนแรง ซึ่งพรรคได้รับข้อมูลว่าน่าจะเป็นการวางระเบิดสร้างสถานการณ์และเชื่อมโยงกับกลุ่มคนมีสีที่เชื่อมโยงกับการตั้งกองพลทหารม้าที่ 3 (พล.ม.3) ที่กำลังจะพิจารณาอยู่ในชั้นสภากลาโหมขณะนี้ จึงมองว่าเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลทางทหารและตำรวจต้องตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามเรื่องนี้โดยเฉพาะเพื่อหาคนผิดมาลงโทษให้ได้
"เรื่องนี้น่าจะเกี่ยวกับการของบประมาณไปตั้ง พล.ม.3 เพราะว่าสถานการณ์ จ.ขอนแก่นเป็นถิ่นคนเสื้อแดงจำนวนมาก อาจต้องตั้งกอง พล.ม.3 โดยผมมองว่าเรื่องนี้เป็นการทำลักษณะที่หวังผลทางการเมืองและน่าจะหวังเรื่องงบประมาณด้วย จึงอยากให้นายกฯช่วยพิจารณาเรื่องนี้และตรวจสอบติดตามเป็นพิเศษด้วย "นายพร้อมพงศ์กล่าว
**ตร.ขอนแก่นมืดแปดด้าน
วันเดียวกันพ.ต.อ.คัชชา ธาตุศาสตร์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ชุด EOD และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.น้ำพอง ได้เข้าตรวจจุดที่เกิดเหตุ ภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใดใดได้ เพราะหวั่นจะเสียรูปคดี อย่างไรก็ตามทางสำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 ได้ จัดชุดกำลังกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้ายกับชาวบ้าน ทั้งยังได้ดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาข้อมูลที่เชื่อว่าอาจจะเป็นประโยชน์ต่อการติดตามหาตัวผู้ต้องสงสัยแล้วเช่นกัน
นายไทกร พลสุวรรณ ประธานชมรมไทยเป็นหนึ่งเดียว ไดด้กล่าวว่า หลังเกิดเหตุภาคประชาชนในสนามของชมรมได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุและดูสถานที่จริงเพื่อที่จะนำมาพูดคุยกันว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากอะไร ซึ่งจากการพูดคุยกับชาวชุมชนและข้าราชการในพื้นที่ต่างระบุตรงกันว่าคนร้ายนั้นน่าจะมีมากกว่า 1 คน และลอบเดินเข้ามาทางด้านหลังฝั่งสนามฟุตบอลของโรงเรียนเนื่องจากเป็นพื้นที่โล่งและไม่มีตำรวจหรือทหารรักษาการ ซึ่งถึงแม้ว่าขณะเกิดเหตุนั้นด้านหน้าโรงเรียนบริเวณป้อมยามจะมีทหารรักษาการจาก กองพันทหารม้าที่ 14 ค่ายเปรมติณสูลานนท์ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับ มารักษาการถึง 5 นาย
นอกจากนี้ ยังคงมีครูเวร นักการภารโรงรวมไปถึงสายตรวจตำบลอยู่ใกล้จุดที่เกิดเหตุ แต่ก็ไม่มีผู้ใดพบเห็นสิ่งผิดปกติจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น จึงมีคำถามขึ้นว่าเมื่อมีการวางกำลังคุ้มกันหนาแน่นขนาดนั้นทำไมจึงมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้ ซึ่งเชื่อได้ว่าน่าที่จะมีคนในรู้เห็นจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างแน่นอน
ดังนั้น รัฐบาลโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะต้องทบทวนถึงมาตรฐานการทำงานด้านข่าวสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ โดยเฉพาะในระดับบัญชาการและปฎิบัติการอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน ที่ไม่แต่เฉพาะในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพียงอย่างเดียว เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นถึง 3 ครั้งแล้ว ไม่ครบขวบปีด้วยซ้ำ
แต่ตำรวจยังคงไม่สามารถที่จะจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ทำให้เชื่อว่าคนในน่าที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องอีกทั้งระเบิดที่ใช้นั้นชนิดแสวงเครื่อง ประเภททำลายขั้นรุนแรงไดนาไมท์หรือไม่ก็ทีเอ็นที ซึ่งบุคคลธรรมดาทั่วไปนั้นไม่สามารถที่จะจัดหามาได้ และการเกิดเหตุครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างแน่นอนโดยเฉพาะการกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อเรียกร้องต่อเนื่องมาหลังจากการเสร็จสิ้นการชุมนุม
นายไทกร กล่าวต่อว่า การลอบวางระเบิดโรงเรียนเปรมติณสูลานนท์ อยู่ในแผนการก่อความไม่สงบของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่วันนี้มีการย้ายศูนย์บัญชาการกลางมาอยู่ที่ อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหารสำหรับเป็นพื้นที่บัญชาการและเตรียมการที่สร้างความไม่สงบในพื้นที่ 5 จังหวัดประกอบด้วย ขอนแก่น,อุบลราชธานี,อุดรธานี,นครราชสีมาและมุกดาหาร
ไม่ว่าจะเป็นการลอบวางระเบิดหรือการาเผาทำลาย ป้ายรถเมล์ สถานีขนส่ง โรงเรียน สถานที่ราชการหรือแม้ในจุดที่มีผู้คนพลุกพล่าน โดยมีนายทหารระดับ พล.ท. 4 นายเป็นผู้ออกคำสั่งและมีแกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นผู้ให้การสนับสนุน
** ตร.คุมเข้มบ้านพัก"ป๋าเปรม"โคราช
ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จัดกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณบ้านไร้กังวล บ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว วันที่ 9 มกราคม โดยมีการตั้งจุดตรวจสกัดถนนหน้าบ้านพักของ พล.อ.เปรมตลอด 24 ชั่วโมง ค้นยานพาหนะทุกคันที่จะสัญจรผ่านไป-มา เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีลักลอบเข้ามาก่อเหตุวุ่นวาย หลังจากที่เกิดเหตุการณ์คนร้ายไม่ทราบกลุ่มได้ลอบวางระเบิดห้องสมุดโรงเรียนเปรม ติณสูลานนท์ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เวลาประมาณ 03.00 น. เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา.
วานนี้ (9 ม.ค.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเหตุระเบิดห้องสมุดโรงเรียนเปรม ติณสูลานนท์ ที่ จ.ขอนแก่นว่า เบื้องต้นน่าจะเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับองคมนตรี ขณะนี้ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน ต้องใช้นิติวิทยาศาสตร์เป็นหลักในการสืบสวนและปราบปราม แม้ว่ายังไม่พบตัวผู้กระทำผิดวันนี้ แต่ถ้าเก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้ เข้าไปสู่ข้อมูลศูนย์ข้อมูลวัตถุระเบิด ในศูนย์ปฏิบัติการและบริหารเหตุการณ์ร้ายแรง (ศปร.ตร.) ที่เราตั้งไว้ ก็จะสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ เหมือนกับการเก็บลายนิ้วมือ เก็บดีเอ็นเอ
ผู้สื่อข่าวถามว่าเบื้องต้นเกี่ยวกับการประเด็นการป่วนเมืองหรือเชื่อมโยงกับผู้ชุมนุมด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่าไม่ใช่ เมื่อถามว่ามีการวางแผนรับมือการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงอย่างไรบ้าง พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ตนได้ให้นโยบายไปแล้ว โดยย้ำชัดเจนว่าหลังยกเลิกการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตำรวจจะต้องเป็นกลไกหลักของรัฐบาล ที่จะดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ที่สำคัญต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่มี 2 มาตรฐาน ใช้กฎหมายให้เป็นเรื่องมืออย่างมีประสิทธิภาพ และมีการวางกำลังเต็มที่
**พท.ชี้บึ้มโรงเรียน"ป๋า" ฝีมือคนมีสี
ขณะที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค พท. แถลงว่า เป็นการระเบิดต่อเนื่องครั้งที่ 3 แล้ว โดยการระเบิดครั้งนี้คณะทำงานของพรรค พท.เห็นว่า น่าจะมีนัยยะการเมือง เพราะ จ.ขอนแก่นเป็นเมืองหลวงคนเสื้อแดง แม้มีทหารรักษาการอยู่ด้านหน้าโรงเรียนและมีครูเวรอยู่ด้วย แต่ยังมีคนกล้าวางระเบิดห้องสมุดอย่างรุนแรง ซึ่งพรรคได้รับข้อมูลว่าน่าจะเป็นการวางระเบิดสร้างสถานการณ์และเชื่อมโยงกับกลุ่มคนมีสีที่เชื่อมโยงกับการตั้งกองพลทหารม้าที่ 3 (พล.ม.3) ที่กำลังจะพิจารณาอยู่ในชั้นสภากลาโหมขณะนี้ จึงมองว่าเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลทางทหารและตำรวจต้องตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามเรื่องนี้โดยเฉพาะเพื่อหาคนผิดมาลงโทษให้ได้
"เรื่องนี้น่าจะเกี่ยวกับการของบประมาณไปตั้ง พล.ม.3 เพราะว่าสถานการณ์ จ.ขอนแก่นเป็นถิ่นคนเสื้อแดงจำนวนมาก อาจต้องตั้งกอง พล.ม.3 โดยผมมองว่าเรื่องนี้เป็นการทำลักษณะที่หวังผลทางการเมืองและน่าจะหวังเรื่องงบประมาณด้วย จึงอยากให้นายกฯช่วยพิจารณาเรื่องนี้และตรวจสอบติดตามเป็นพิเศษด้วย "นายพร้อมพงศ์กล่าว
**ตร.ขอนแก่นมืดแปดด้าน
วันเดียวกันพ.ต.อ.คัชชา ธาตุศาสตร์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ชุด EOD และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.น้ำพอง ได้เข้าตรวจจุดที่เกิดเหตุ ภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใดใดได้ เพราะหวั่นจะเสียรูปคดี อย่างไรก็ตามทางสำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 ได้ จัดชุดกำลังกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้ายกับชาวบ้าน ทั้งยังได้ดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาข้อมูลที่เชื่อว่าอาจจะเป็นประโยชน์ต่อการติดตามหาตัวผู้ต้องสงสัยแล้วเช่นกัน
นายไทกร พลสุวรรณ ประธานชมรมไทยเป็นหนึ่งเดียว ไดด้กล่าวว่า หลังเกิดเหตุภาคประชาชนในสนามของชมรมได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุและดูสถานที่จริงเพื่อที่จะนำมาพูดคุยกันว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากอะไร ซึ่งจากการพูดคุยกับชาวชุมชนและข้าราชการในพื้นที่ต่างระบุตรงกันว่าคนร้ายนั้นน่าจะมีมากกว่า 1 คน และลอบเดินเข้ามาทางด้านหลังฝั่งสนามฟุตบอลของโรงเรียนเนื่องจากเป็นพื้นที่โล่งและไม่มีตำรวจหรือทหารรักษาการ ซึ่งถึงแม้ว่าขณะเกิดเหตุนั้นด้านหน้าโรงเรียนบริเวณป้อมยามจะมีทหารรักษาการจาก กองพันทหารม้าที่ 14 ค่ายเปรมติณสูลานนท์ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับ มารักษาการถึง 5 นาย
นอกจากนี้ ยังคงมีครูเวร นักการภารโรงรวมไปถึงสายตรวจตำบลอยู่ใกล้จุดที่เกิดเหตุ แต่ก็ไม่มีผู้ใดพบเห็นสิ่งผิดปกติจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น จึงมีคำถามขึ้นว่าเมื่อมีการวางกำลังคุ้มกันหนาแน่นขนาดนั้นทำไมจึงมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้ ซึ่งเชื่อได้ว่าน่าที่จะมีคนในรู้เห็นจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างแน่นอน
ดังนั้น รัฐบาลโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะต้องทบทวนถึงมาตรฐานการทำงานด้านข่าวสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ โดยเฉพาะในระดับบัญชาการและปฎิบัติการอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน ที่ไม่แต่เฉพาะในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพียงอย่างเดียว เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นถึง 3 ครั้งแล้ว ไม่ครบขวบปีด้วยซ้ำ
แต่ตำรวจยังคงไม่สามารถที่จะจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ทำให้เชื่อว่าคนในน่าที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องอีกทั้งระเบิดที่ใช้นั้นชนิดแสวงเครื่อง ประเภททำลายขั้นรุนแรงไดนาไมท์หรือไม่ก็ทีเอ็นที ซึ่งบุคคลธรรมดาทั่วไปนั้นไม่สามารถที่จะจัดหามาได้ และการเกิดเหตุครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างแน่นอนโดยเฉพาะการกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อเรียกร้องต่อเนื่องมาหลังจากการเสร็จสิ้นการชุมนุม
นายไทกร กล่าวต่อว่า การลอบวางระเบิดโรงเรียนเปรมติณสูลานนท์ อยู่ในแผนการก่อความไม่สงบของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่วันนี้มีการย้ายศูนย์บัญชาการกลางมาอยู่ที่ อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหารสำหรับเป็นพื้นที่บัญชาการและเตรียมการที่สร้างความไม่สงบในพื้นที่ 5 จังหวัดประกอบด้วย ขอนแก่น,อุบลราชธานี,อุดรธานี,นครราชสีมาและมุกดาหาร
ไม่ว่าจะเป็นการลอบวางระเบิดหรือการาเผาทำลาย ป้ายรถเมล์ สถานีขนส่ง โรงเรียน สถานที่ราชการหรือแม้ในจุดที่มีผู้คนพลุกพล่าน โดยมีนายทหารระดับ พล.ท. 4 นายเป็นผู้ออกคำสั่งและมีแกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นผู้ให้การสนับสนุน
** ตร.คุมเข้มบ้านพัก"ป๋าเปรม"โคราช
ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จัดกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณบ้านไร้กังวล บ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว วันที่ 9 มกราคม โดยมีการตั้งจุดตรวจสกัดถนนหน้าบ้านพักของ พล.อ.เปรมตลอด 24 ชั่วโมง ค้นยานพาหนะทุกคันที่จะสัญจรผ่านไป-มา เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีลักลอบเข้ามาก่อเหตุวุ่นวาย หลังจากที่เกิดเหตุการณ์คนร้ายไม่ทราบกลุ่มได้ลอบวางระเบิดห้องสมุดโรงเรียนเปรม ติณสูลานนท์ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เวลาประมาณ 03.00 น. เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา.