นายสมศักดิ์ ธนกิจวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมสโปร (1989) จำกัด (มหาชน) หรือ MP ซึ่งประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร และงานบริการติดตั้งระบบวิศวกรรม เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai)ประมาณเดือนมีนาคมหรือไตรมาส1/54 และคาดว่าจะกำหนดราคาเสนอขายหุ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรออนุมัติแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง)เพื่อเสนอขายหุ้นจำนวน 80 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 0.25 บาท จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)
สำหรับเงินระดมทุนที่ได้บริษัทจะนำเงินไปใช้เพื่อการขยายคลังจัดเก็บวัสดุ อุปกรณ์ จำนวน 10 ล้านบาท ที่จะมีส่วนช่วยในการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานของบริษัท อีกทั้งจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน เพื่อขยายงานด้านรับเหมาก่อสร้างด้วยเช่นกัน ซึ่งธุรกิจของบริษัทในปัจจุบัน ประกอบด้วย งานรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร และ งานบริการติดตั้งงานวิศวกรรมงานระบบภายในอาคาร
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 54 เพิ่มขึ้น 30-40% จากปี 53 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 200 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะเข้าประมูลงานเพิ่มอีก 200 ล้านบาท และคาดว่าได้งานประมาณ 80-90% นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเข้าประมูลงานใหม่ปีนี้อีก 1,000 ล้านบาทซึ่งคาดว่าจะชนะงานประมูลประมาณ 20-30% โดยบริษัทมีงานในมือ ณ สิ้นเดือนกันยายนอยู่ที่ 362 ล้านบาท และจะรักษาสัดส่วนการรับงานภาคเอกชนและรัฐอยู่ที่ระดับ 40% และ 60% ตามลำดับ
" ในช่วงแรกของการดำเนินธุรกิจเราให้บริการเฉพาะระบบวิศวกรรมภายในอาคาร เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบโทรคมนาคม ระบบสุขาภิบาล ฯลฯ แต่ในปัจจุบันเราเป็นผู้ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้าง และทำระบบภายในอาคาร ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มลูกค้ามีทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน งานก่อสร้างที่บริษัทเป็นผู้ดำเนินงานมีทั้งอาคารสูงเพื่อพักอาศัย โรงงานอุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน โรงแรม และอาคารเรียน " นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะพาบริษัท เมสโปรฯไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์)ต่อนักลงทุนใน 7 จังหวัดทั่วประเทศ คือ จังหวัดขอนแก่น เชียงใหม่ ชลบุรี พิษณุโลก กทม. นครราชสีมา และอำเภอหาดใหญ่ ซึ่งส่วนตัวมองว่าาธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในปีนี้จะอยู่ในทิศทางที่ดี ทำให้จะต้องมีการระดมทุนในการขยายกิจการ ซึ่งนอกจากบริษัท เมสโปร แล้วแอสเซท โปรฯ มีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในสองไตรมาสแรกปีนี้ไตรมาสละ 1 บริษัท
สำหรับเงินระดมทุนที่ได้บริษัทจะนำเงินไปใช้เพื่อการขยายคลังจัดเก็บวัสดุ อุปกรณ์ จำนวน 10 ล้านบาท ที่จะมีส่วนช่วยในการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานของบริษัท อีกทั้งจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน เพื่อขยายงานด้านรับเหมาก่อสร้างด้วยเช่นกัน ซึ่งธุรกิจของบริษัทในปัจจุบัน ประกอบด้วย งานรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร และ งานบริการติดตั้งงานวิศวกรรมงานระบบภายในอาคาร
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 54 เพิ่มขึ้น 30-40% จากปี 53 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 200 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะเข้าประมูลงานเพิ่มอีก 200 ล้านบาท และคาดว่าได้งานประมาณ 80-90% นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเข้าประมูลงานใหม่ปีนี้อีก 1,000 ล้านบาทซึ่งคาดว่าจะชนะงานประมูลประมาณ 20-30% โดยบริษัทมีงานในมือ ณ สิ้นเดือนกันยายนอยู่ที่ 362 ล้านบาท และจะรักษาสัดส่วนการรับงานภาคเอกชนและรัฐอยู่ที่ระดับ 40% และ 60% ตามลำดับ
" ในช่วงแรกของการดำเนินธุรกิจเราให้บริการเฉพาะระบบวิศวกรรมภายในอาคาร เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบโทรคมนาคม ระบบสุขาภิบาล ฯลฯ แต่ในปัจจุบันเราเป็นผู้ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้าง และทำระบบภายในอาคาร ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มลูกค้ามีทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน งานก่อสร้างที่บริษัทเป็นผู้ดำเนินงานมีทั้งอาคารสูงเพื่อพักอาศัย โรงงานอุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน โรงแรม และอาคารเรียน " นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะพาบริษัท เมสโปรฯไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์)ต่อนักลงทุนใน 7 จังหวัดทั่วประเทศ คือ จังหวัดขอนแก่น เชียงใหม่ ชลบุรี พิษณุโลก กทม. นครราชสีมา และอำเภอหาดใหญ่ ซึ่งส่วนตัวมองว่าาธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในปีนี้จะอยู่ในทิศทางที่ดี ทำให้จะต้องมีการระดมทุนในการขยายกิจการ ซึ่งนอกจากบริษัท เมสโปร แล้วแอสเซท โปรฯ มีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในสองไตรมาสแรกปีนี้ไตรมาสละ 1 บริษัท
