xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นปันผลทางเลือกลงทุน ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงงานวิจัยล่าสุดว่า สำหรับผู้ลงทุนที่กำลังมองหาช่องทางการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินในธนาคาร และพร้อมที่จะรับความเสี่ยงจากการลงทุนที่มากขึ้นนั้น การลงทุนระยะยาวในหุ้นปันผลเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม ทั้งในด้านผลตอบแทนต่อเนื่องและสม่ำเสมอ และโอกาสการทำกำไรจากส่วนต่างราคา โดยตลท.ในปัจจุบันมีหุ้นปันผลที่มีการจ่ายปันผลต่อเนื่องและสม่ำเสมอให้เลือกลงทุนมากถึง 160 หลักทรัพย์ ซึ่งให้อัตราปันผลตอบแทน เฉลี่ยในปี 2553 เท่ากับ 8.18% มากกว่าดอกเบี้ยฝากประจำ 1 ปีถึงเกือบ 7 เท่า

1. หุ้นปันผลทางเลือกที่น่าสนใจในยามที่เงินฝากให้ผลตอบแทนที่แท้จริงติดลบ

ถึงแม้ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินมีแนวโน้มจะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นอีกใน อนาคตเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้น อย่างไรก็ตามอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังคงมีค่าติดลบ แต่การลงทุนในตลาดหุ้นเพราะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาทั้งSet และ Mai ให้ผลตอบแทนในรูปเงินปันผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 3.46% และ 3.95% ตามลำดับ สูงกว่าการฝากเงินในธนาคารซึ่งมีค่าเฉลี่ยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน อยู่ที่ 2.15% ทำให้การลงทุนระยะยาวในหุ้นปันผลเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม

2. หุ้นของบริษัทจดทะเบียนใดถือได้ว่าเป็นหุ้นปันผล (Dividend Stock)

การพิจารณาว่าหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนหนึ่งๆ จะได้ชื่อว่าเป็นหุ้นปันผลนั้น บริษัทจดทะเบียนควรมีประวัติการจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่องและให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ ประกอบด้วย

ปัจจัยที่ 1 - หุ้นปันผลกับผลตอบแทนการลงทุนที่ต่อเนื่องในจำนวนนี้มี 262 บริษัท ที่จ่ายปันผลต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปีล่าสุดติดต่อกันจนถึงปัจจุบัน คิดเป็น 48.43% โดยมีอยู่ถึง 149 บริษัทที่จ่ายปันผลตลอดทุกปีที่จดทะเบียนในช่วง 10 ปีล่าสุด

ปัจจัยที่ 2 - หุ้นปันผลกับผลตอบแทนการลงทุนที่ต่อเนื่องและสม่ำเสมอ นอกจากผู้ลงทุนควรจะได้รับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องจากหุ้นปันผลแล้ว ผู้ลงทุนควรได้รับมูลค่าเงินปันผลหรืออัตราเงินปันผลตอบแทนที่สม่ำเสมอด้วย เพื่อลดความเสี่ยงจากการที่อัตราผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

3. หุ้นปันผลกับราคาที่ผันผวนน้อย

เมื่อพิจารณาความผันผวนของราคาหุ้นจากค่าเบต้า (Beta) ซึ่งเป็นค่าสถิติที่สามารถใช้วัดความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเปรียบเทียบกับความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ สำหรับหุ้นปันผลทั้ง 160 หุ้นนั้น มีความผันผวนของราคาหุ้นน้อยกว่าราคาของหุ้นอื่นๆในตลาด เห็นได้จากค่าเบต้า ณ สิ้นปี 2553 พบว่าหุ้นปันผลส่วนใหญ่ จำนวน 121 หุ้น คิดเป็น 75.63% ของหุ้นปันผลทั้งหมดมีค่าเบต้าอยู่ในช่วง 0 ถึง 1 แสดงว่า ราคาของหุ้นปันผลส่วนใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ

4. หุ้นปันผลกับผลตอบแทนรวม อัตราเงินปันผลตอบแทนและกำไรจากส่วนต่างราคา

ผู้ลงทุนบางส่วนมีความเข้าใจว่าโอกาสการทำกำไรส่วนต่างราคาจากการลงทุนในหุ้นปันผลนั้นมีน้อย เนื่องจากราคาของหุ้นปันผลมีความเคลื่อนไหวน้อยกว่าหุ้นอื่นๆ ความจริงผู้ลงทุนยังมีโอกาสทำกำไรในระยะยาวจากส่วนต่างราคาของหุ้นปันผลด้วย

5. หุ้นปันผลกับโอกาสการจ่ายปันผลในอนาคต

ผู้ลงทุนสามารถคาดการณ์ได้ว่าบริษัทจะมีการจ่ายปันผลในอนาคตได้ ในเบื้องต้นสิ่งบ่งชี้ว่าหุ้นปันผลจะมีการจ่ายปันผลในอนาคตก็คือแนวโน้มการจ่ายปันผลในอดีต นอกจากนี้ยังมีเครื่องมืออีกมากในรูปของอัตราส่วนทางการเงิน (Financial Ratio) ต่างๆ ที่ผู้ลงทุนสามารถดูข้อมูลในอดีต เพื่อประกอบการพิจารณาว่าหุ้นปันผลจะสามารถจ่ายปันผล ในอนาคตได้ต่อไปหรือไม่ โดยพิจารณาจาก

• อัตราส่วนทางการเงินที่บ่งชี้ความสามารถในการทำกำไรจากเงินลงทุนของผู้ถือหุ้น เช่น กำไรต่อหุ้น (Earning per Share - EPS) และอัตราส่วนผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (Return on Equity - ROE)

• อัตราส่วนทางการเงินที่บ่งชี้สภาพคล่องทางการเงินและความสามารถชำระหนี้ให้เจ้าหนี้และจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น เช่น กระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) และ อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt to Equity Ratio)

• อัตราการจ่ายเงินปันผล (Payout Ratio) หุ้นที่จะสามารถจ่ายปันผลได้อย่างสม่ำเสมอควรมีอัตราการจ่ายปันผลที่ไม่สูง จนเกินไป เพราะถ้าบริษัทตัดสินใจนำกำไรสะสมทั้งหมดมาจ่ายปันผล นั่นย่อมหมายความว่าบริษัทไม่ได้ใช้กำไรสะสม เหล่านั้นไปในการขยายกิจการ และโอกาสที่จะธุรกิจจะเติบโตก็ย่อมมีน้อยลงเช่นกัน

จากข้อมูลในอดีตสะท้อนให้เห็นว่าในสถานการณ์ปัจจุบันที่ผลตอบแทนจากการฝากเงินในธนาคารอยู่ใน ระดับต่ำ หุ้นปันผลถือเป็นทางเลือกในการลงทุนที่ให้อัตราเงินปันผลตอบแทนเฉลี่ยที่สูงกว่า และยังมีโอกาสการทำกำไรจากส่วนต่างราคาตามแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจอีกด้วย อย่างไรก็ ตามผู้ลงทุนควรจะต้องศึกษาข้อมูลการลงทุนในหุ้น ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่า หากผู้ลงทุนพร้อมที่จะลงทุนในหุ้นปันผลแล้วควรเริ่มต้นจากการจัดสรรเงินออมที่พร้อมจะลงทุนในระยะยาว แล้วศึกษาข้อมูลพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัว
กำลังโหลดความคิดเห็น