ASTVผู้จัดการรายวัน-7 วันอันตรายปีใหม่ สรุป 6 วัน ตายแล้ว 325ราย บาดเจ็บ 3,453 ราย ศปถ.เตรียมวิเคราะห์ปัญหาพร้อมมาตรการแก้ไขเสนอครม. เพื่อหาทางป้องกัน ครม.เห็นชอบปี 54 รณรงค์สวมหมวกกันน็อก 100%
ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย ได้แถลงการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 ที่เป็นการรวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 3 ม.ค.2554 ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของการรณรงค์ในช่วง 7 วันระวังอันตรายว่า เกิดอุบัติเหตุ 346 ครั้ง เสียชีวิต 39 ราย มียอดผู้บาดเจ็บ 362 ราย
ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดของวันที่ 3 ม.ค. ได้แก่ เมาสุรา รองลงมา ขับรถเร็วเกินกำหนด พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้บาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัย ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ รองลงมา รถปิกอัพ โดยผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน
สำหรับจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ พิษณุโลก รองลงมา นครศรีธรรมราช จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ รองลงมา สงขลา จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช รองลงมา พิษณุโลก ทั้งนี้ จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ รวม 5 จังหวัด ชัยภูมิ นนทบุรี ยโสธร สระแก้ว และสุโขทัย
ส่วนอุบัติเหตุสะสม 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.2553-3 ม.ค.2554 เกิดอุบัติเหตุ 3,227 ครั้ง เสียชีวิต 325 ราย บาดเจ็บ 3,453 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสูด ได้แก่ เชียงราย 114 ครั้ง รองลงมา พิษณุโลก 109 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ ลพบุรี 13 คน รองลงมา นครราชสีมา และสุรินทร์ จังหวัดละ 11 คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 123 คน รองลงมา นครศรีธรรมราชและพิษณุโลก จังหวัดละ 117 คน
นายสรยุทธกล่าวว่า จากการดำเนินงานในช่วง 6 วันที่ผ่านมา จำนวนการเกิดอุบัติเหตุและผู้บาดเจ็บลดลง แต่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนเป็นคนในพื้นที่สูงกว่าร้อยละ 80 เนื่องจากผู้ใช้รถใช้ถนนขาดวินัยในการขับขี่ โดยอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากความประมาทของผู้ขับขี่ การขับรถด้วยความเร็วสูง และเมาสุรา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในคราวเดียวกันเป็นจำนวนมาก
"ศปถ.จะได้สรุปวิเคราะห์สาเหตุเชิงลึกของปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 พร้อมจัดทำข้อเสนอแนะแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป"นายสรยุทธกล่าว
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะเลขานุการ ศปถ. กล่าวว่า อยากขอเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนที่เดินทางกลับให้ขับรถอย่างมีสติ ไม่ประมาท ไม่ขับรถเร็ว เคารพกฎจราจร มีน้ำใจกับผู้ร่วมใช้เส้นทาง หากเดินทางในระยะไกลให้เตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม พักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่ทานยาที่มีฤทธิ์กดประสาทที่ทำให้เกิดอาการง่วงนอน รวมถึงตรวจสอบสภาพยานพาหนะให้พร้อมก่อนเดินทาง หากมีอาการอ่อนเพลียให้จอดพักตามสถานีบริการน้ำมันหรือจุดบริการตามเส้นทางก่อน
***"สุเทพ"เสียใจตัวเลขอุบัติเหตุยังสูง
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการและผู้อำนวยการ ศปถ. กล่าวถึงสถิติอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ในช่วง 7 วันอันตราย ว่า อุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ทุกคนหนักใจ ต้องพยายามช่วยกันรณรงค์อย่างเต็มที่ โดยรัฐบาลจะไม่หยุดรณรงค์เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนเพียงเท่านี้ แต่จะทำอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ตัวเลขจะลดลงจากปีที่แล้วแต่ก็น่าเสียใจ เพราะตัวเลขยังสูงอยู่
***ครม.รณรงค์ "สวมหมวกกันน็อก"
นายศุภชัย ใจสมทุร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.ได้เห็นชอบตามที่ศปถ. ได้เสนอให้ปี 2554 เป็นปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย 100% โดยขอให้หน่วยงานภาคราชการ องค์กรมหาชน รัฐวิสาหกิจและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีมาตรการเพื่อรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนกลุ่มเด็ก เยาวชน และกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงมหาดไทย ทำการรณรงค์
นอกจากนี้ ครม. ได้มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ทบทวนมาตรฐานหมวกนิรภัยให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย และให้กระทรวงสาธารณสุข จัดเก็บข้อมูลสถิติการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนที่เกี่ยวข้องกับการไม่สวมหมวกนิรภัย และสุดท้ายให้ศปถ. ร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนจัดให้มีกิจกรรมสนับสนุนโครงการปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย 100%
***เด็กขอของขวัญให้ผู้ใหญ่"เลิกเหล้า"
วันเดียวกันนี้ ก่อนการประชุมครม. เครือข่ายเด็กและเยาวชนงดเหล้าประมาณ 20 คน ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และสำนักงานส่งเสริมการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์ ในโครงการรักลูกเลิกเหล้าครอบครัวอบอุ่น พร้อมกับเชิญชวนให้บรรดาผู้ใหญ่ลดละเลิกการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อเป็นของขวัญในวันเด็กแห่งชาติในปีนี้ด้วย ในระหว่างนั้นเด็กๆ ได้ติดเข็มกลัดรณรงค์และมอบแผ่นเสียงจำลองขนาดใหญ่และร่วมกันร้องเพลงเก็บสุราให้นายกฯ ฟัง ซึ่งมีเนื้อหาสะท้อนให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหันมาสนใจปัญหาที่เกิดขึ้นจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้นายกฯ อารมณ์ดีก่อนขึ้นประชุมครม.
นางมาลัย มินศรี ผู้แทนจากสคล.กล่าวว่า ข้อมูลจากสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว พบว่า ครอบครัวไทยมีสมาชิกในครอบครัวบริโภคสุราหรือของมึนเมามากที่สุด โดยกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 62.9 ระบุว่า มีสมาชิกในครอบครัวดื่มสุราหรือของมึนเมาเป็นประจำ นอกจากนี้ ยังมีผลการวิจัยพบว่าเยาวชนร้อยละ 61.3 รู้สึกในด้านลบต่อการดื่มแอลกอฮอล์ของผู้ปกครอง และร้อย 86.3 คิดว่าการดื่มแอลกอฮอล์เป็นสิ่งไม่จำเป็นสำหรับผู้ใหญ่
ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย ได้แถลงการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 ที่เป็นการรวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 3 ม.ค.2554 ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของการรณรงค์ในช่วง 7 วันระวังอันตรายว่า เกิดอุบัติเหตุ 346 ครั้ง เสียชีวิต 39 ราย มียอดผู้บาดเจ็บ 362 ราย
ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดของวันที่ 3 ม.ค. ได้แก่ เมาสุรา รองลงมา ขับรถเร็วเกินกำหนด พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้บาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัย ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ รองลงมา รถปิกอัพ โดยผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน
สำหรับจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ พิษณุโลก รองลงมา นครศรีธรรมราช จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ รองลงมา สงขลา จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช รองลงมา พิษณุโลก ทั้งนี้ จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ รวม 5 จังหวัด ชัยภูมิ นนทบุรี ยโสธร สระแก้ว และสุโขทัย
ส่วนอุบัติเหตุสะสม 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.2553-3 ม.ค.2554 เกิดอุบัติเหตุ 3,227 ครั้ง เสียชีวิต 325 ราย บาดเจ็บ 3,453 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสูด ได้แก่ เชียงราย 114 ครั้ง รองลงมา พิษณุโลก 109 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ ลพบุรี 13 คน รองลงมา นครราชสีมา และสุรินทร์ จังหวัดละ 11 คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 123 คน รองลงมา นครศรีธรรมราชและพิษณุโลก จังหวัดละ 117 คน
นายสรยุทธกล่าวว่า จากการดำเนินงานในช่วง 6 วันที่ผ่านมา จำนวนการเกิดอุบัติเหตุและผู้บาดเจ็บลดลง แต่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนเป็นคนในพื้นที่สูงกว่าร้อยละ 80 เนื่องจากผู้ใช้รถใช้ถนนขาดวินัยในการขับขี่ โดยอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากความประมาทของผู้ขับขี่ การขับรถด้วยความเร็วสูง และเมาสุรา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในคราวเดียวกันเป็นจำนวนมาก
"ศปถ.จะได้สรุปวิเคราะห์สาเหตุเชิงลึกของปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 พร้อมจัดทำข้อเสนอแนะแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป"นายสรยุทธกล่าว
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะเลขานุการ ศปถ. กล่าวว่า อยากขอเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนที่เดินทางกลับให้ขับรถอย่างมีสติ ไม่ประมาท ไม่ขับรถเร็ว เคารพกฎจราจร มีน้ำใจกับผู้ร่วมใช้เส้นทาง หากเดินทางในระยะไกลให้เตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม พักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่ทานยาที่มีฤทธิ์กดประสาทที่ทำให้เกิดอาการง่วงนอน รวมถึงตรวจสอบสภาพยานพาหนะให้พร้อมก่อนเดินทาง หากมีอาการอ่อนเพลียให้จอดพักตามสถานีบริการน้ำมันหรือจุดบริการตามเส้นทางก่อน
***"สุเทพ"เสียใจตัวเลขอุบัติเหตุยังสูง
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการและผู้อำนวยการ ศปถ. กล่าวถึงสถิติอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ในช่วง 7 วันอันตราย ว่า อุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ทุกคนหนักใจ ต้องพยายามช่วยกันรณรงค์อย่างเต็มที่ โดยรัฐบาลจะไม่หยุดรณรงค์เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนเพียงเท่านี้ แต่จะทำอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ตัวเลขจะลดลงจากปีที่แล้วแต่ก็น่าเสียใจ เพราะตัวเลขยังสูงอยู่
***ครม.รณรงค์ "สวมหมวกกันน็อก"
นายศุภชัย ใจสมทุร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.ได้เห็นชอบตามที่ศปถ. ได้เสนอให้ปี 2554 เป็นปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย 100% โดยขอให้หน่วยงานภาคราชการ องค์กรมหาชน รัฐวิสาหกิจและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีมาตรการเพื่อรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนกลุ่มเด็ก เยาวชน และกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงมหาดไทย ทำการรณรงค์
นอกจากนี้ ครม. ได้มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ทบทวนมาตรฐานหมวกนิรภัยให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย และให้กระทรวงสาธารณสุข จัดเก็บข้อมูลสถิติการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนที่เกี่ยวข้องกับการไม่สวมหมวกนิรภัย และสุดท้ายให้ศปถ. ร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนจัดให้มีกิจกรรมสนับสนุนโครงการปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย 100%
***เด็กขอของขวัญให้ผู้ใหญ่"เลิกเหล้า"
วันเดียวกันนี้ ก่อนการประชุมครม. เครือข่ายเด็กและเยาวชนงดเหล้าประมาณ 20 คน ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และสำนักงานส่งเสริมการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์ ในโครงการรักลูกเลิกเหล้าครอบครัวอบอุ่น พร้อมกับเชิญชวนให้บรรดาผู้ใหญ่ลดละเลิกการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อเป็นของขวัญในวันเด็กแห่งชาติในปีนี้ด้วย ในระหว่างนั้นเด็กๆ ได้ติดเข็มกลัดรณรงค์และมอบแผ่นเสียงจำลองขนาดใหญ่และร่วมกันร้องเพลงเก็บสุราให้นายกฯ ฟัง ซึ่งมีเนื้อหาสะท้อนให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหันมาสนใจปัญหาที่เกิดขึ้นจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้นายกฯ อารมณ์ดีก่อนขึ้นประชุมครม.
นางมาลัย มินศรี ผู้แทนจากสคล.กล่าวว่า ข้อมูลจากสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว พบว่า ครอบครัวไทยมีสมาชิกในครอบครัวบริโภคสุราหรือของมึนเมามากที่สุด โดยกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 62.9 ระบุว่า มีสมาชิกในครอบครัวดื่มสุราหรือของมึนเมาเป็นประจำ นอกจากนี้ ยังมีผลการวิจัยพบว่าเยาวชนร้อยละ 61.3 รู้สึกในด้านลบต่อการดื่มแอลกอฮอล์ของผู้ปกครอง และร้อย 86.3 คิดว่าการดื่มแอลกอฮอล์เป็นสิ่งไม่จำเป็นสำหรับผู้ใหญ่