ASTVผู้จัดการรายวัน- ตลาดหลักทรัพย์ เตือนนักลงทุนระมัดระวัง เล่นหุ้น" เซอร์คิทอีเลคโทรนิคส์ ฯ" หลังผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน เหตุลูกหนี้การค้าและการสำรองหนี้เผื่อสงสัยจะสูญเต็มจำนวน เผยอยู่ระหว่างยื่นเอกสารการเป็นเจ้าหนี้ให้ทนายติดตามหนี้ ก่อนยื่นแจ้งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์เพื่อดำเนินการ มั่นใจสามารถดำเนินงานต่อไปได้หลังแผนฟื้นฟูผ่านความเห็นชอบจากศาลแล้ว ขณะงบปี 52 ขาดทุน 160 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 43% ผลจากรายได้จากการขายสินค้า ลดลงมากอย่างมีนัยสำคัญ เหตุวิกฤติเศรษฐกิจโลก
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท. ) แจ้งว่า บริษัท เซอร์คิทอีเลคโทรนิคส์อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ CIRKIT ซึ่งอยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด ( Non-Performing Group ) ได้นำส่งงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 52 ฉบับที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี มายังตลาดหลักทรัพย์ โดยผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัททำให้ตัวเลขผลการดำเนินงาน และฐานะการเงินของบริษัทที่ปรากฏในงบการเงินอาจไม่แสดงค่าที่แท้จริงของกิจการ
ตลาดหลักทรัพย์ ฯ จึงแจ้งให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทราบและพิจารณาความเห็นของผู้สอบบัญชีประกอบกับตัวเลขในงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงินอย่างระมัดระวัง
นายศิวะ งานทวี กรรมการ CIRKIT ชี้แจงว่าตามที่บริษัทได้นำส่งงบการเงินประจำปี 52 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินดังกล่าว บริษัทฯ ใคร่ขอเรียนชี้แจงดังนี้
1) ลูกหนี้การค้าและการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ เนื่องจากผู้สอบบัญชีไม่สามารถส่งหนังสือยืนยันยอดคงเหลือสำหรับลูกหนี้การค้ารายใหญ่ของบริษัทฯ เนื่องจากลูกค้าได้ย้ายที่อยู่และไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้มีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเต็มจำนวนแล้วในปี พ.ศ.2548 ขณะนี้ บริษัทฯ ได้ยื่นเอกสารการเป็นเจ้าหนี้ให้แก่ทนายแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการยื่นเอกสารต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพื่อดำเนินการต่อไป
2) ความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องของบริษัทฯ เพราะบริษัทฯ มีหนี้สินสูงกว่าทรัพย์สินรวมจำนวน 3,072.05 ล้านบาท ประกอบกับแผนฟื้นฟูกิจการฉบับแก้ไขได้ผ่านความเห็นชอบจากศาลล้มละลายกลางแล้ว บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการได้ และจะมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานอย่างเพียงพอ
สำหรับผลการดำเนินงานงวดสิ้นปี 52 สิ้นสุด 31 ธันวาคม 52 ว่าบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 160.01 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 117.17 ล้านบาท หรือขาดทุนเพิ่มขึ้น 42.84 ล้านบาท คิดเป็น 36.56% อันเป็นผลจากรายได้จากการขายสินค้า ลดลงมากอย่างมีนัยสำคัญ อันเป็นผลมาจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก ถึงแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่นลดลง ขณะที่บริษัทฯได้พยายามบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นก็ตาม โดยงวดนี้บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าจำนวน 17.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 581.30 ล้านบาท ขณะที่้ปี 51 มีรายได้ 26.33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 874.85 ล้านบาท ลดลงเป็นจำนวนเงิน 9.32 ล้านดลลาร์สหรัฐ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท. ) แจ้งว่า บริษัท เซอร์คิทอีเลคโทรนิคส์อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ CIRKIT ซึ่งอยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด ( Non-Performing Group ) ได้นำส่งงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 52 ฉบับที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี มายังตลาดหลักทรัพย์ โดยผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัททำให้ตัวเลขผลการดำเนินงาน และฐานะการเงินของบริษัทที่ปรากฏในงบการเงินอาจไม่แสดงค่าที่แท้จริงของกิจการ
ตลาดหลักทรัพย์ ฯ จึงแจ้งให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทราบและพิจารณาความเห็นของผู้สอบบัญชีประกอบกับตัวเลขในงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงินอย่างระมัดระวัง
นายศิวะ งานทวี กรรมการ CIRKIT ชี้แจงว่าตามที่บริษัทได้นำส่งงบการเงินประจำปี 52 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินดังกล่าว บริษัทฯ ใคร่ขอเรียนชี้แจงดังนี้
1) ลูกหนี้การค้าและการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ เนื่องจากผู้สอบบัญชีไม่สามารถส่งหนังสือยืนยันยอดคงเหลือสำหรับลูกหนี้การค้ารายใหญ่ของบริษัทฯ เนื่องจากลูกค้าได้ย้ายที่อยู่และไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้มีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเต็มจำนวนแล้วในปี พ.ศ.2548 ขณะนี้ บริษัทฯ ได้ยื่นเอกสารการเป็นเจ้าหนี้ให้แก่ทนายแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการยื่นเอกสารต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพื่อดำเนินการต่อไป
2) ความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องของบริษัทฯ เพราะบริษัทฯ มีหนี้สินสูงกว่าทรัพย์สินรวมจำนวน 3,072.05 ล้านบาท ประกอบกับแผนฟื้นฟูกิจการฉบับแก้ไขได้ผ่านความเห็นชอบจากศาลล้มละลายกลางแล้ว บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการได้ และจะมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานอย่างเพียงพอ
สำหรับผลการดำเนินงานงวดสิ้นปี 52 สิ้นสุด 31 ธันวาคม 52 ว่าบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 160.01 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 117.17 ล้านบาท หรือขาดทุนเพิ่มขึ้น 42.84 ล้านบาท คิดเป็น 36.56% อันเป็นผลจากรายได้จากการขายสินค้า ลดลงมากอย่างมีนัยสำคัญ อันเป็นผลมาจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก ถึงแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่นลดลง ขณะที่บริษัทฯได้พยายามบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นก็ตาม โดยงวดนี้บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าจำนวน 17.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 581.30 ล้านบาท ขณะที่้ปี 51 มีรายได้ 26.33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 874.85 ล้านบาท ลดลงเป็นจำนวนเงิน 9.32 ล้านดลลาร์สหรัฐ
