ASTVผู้จัดการรายวัน- "มาร์ค" ขอดูสถานการณ์ ก่อนเดินทางไปบรูไน-บาห์เรน 29-31 มี.ค.นี้ ยืนยันยึดแนวทาง สงบ สันติ ไม่ยุบสภา เตรียมประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ที่ เพชรบุรี-ประจวบฯ คุมการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขง เย้ย"แม้ว-เสื้อแดง" ยื่นเงื่อนไขยุบสภา สุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นขอเงิน 3 หมื่นล้านคืน "สัณฐาน" ห่วงยังมีระเบิดอีกหลายลูก
เมื่อเช้าวานนี้ (26 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมที่ ศอ.รส.เพื่อเตรียมการไปเยือนบรูไนดารุสซาลาม และราชอาณาจักรบาห์เรนอย่างเป็นทางการ ในช่วงวันที่ 29 - 31 มี.ค.นี้ โดยวันที่ 29 มี.ค.นายอภิสิทธิ์ จะออกเดินทางเวลา 06.30น. ไปเยือนบรูไนฯ และกลับประเทศไทย เวลา17.35 น.
ส่วนวันที่30-31มี.ค. เวลา 07.10น.ออกเดินทางไปเยือนราชอาณาจักรบาห์เรน และกลับประเทศไทยวันที่ 31 มี.ค. เวลา 21.20 น.
**"มาร์ค"ยังไม่ล้มแผนเดินทางตปท.
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการเดินทางไปเยือนทั้งสองประเทศดังกล่าวว่า ขณะนี้ยังยืนยันว่าจะเดินทางไป แต่จะดูสถานการณ์ตามความเหมาะสม ซึ่งทั้ง 2 ประเทศนี้ ก็มีความสำคัญ อย่าง ประเทศบรูไน ได้มีการเลื่อนมาหลายครั้ง และบาห์เรน ก็มีความจำเป็นต้องไปพูดคุย ทั้งแง่ของเศรษฐกิจ และขอความสนับสนุนเกี่ยวกับโอไอซี ใน 2 ประเทศด้วย ในชั้นนี้ยังยืนยันที่จะเดินทางไป โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้รักษาการแทน
ต่อมานายอภิสิทธิ์ เรียกประชุมด้านเศรษฐกิจกลุ่มย่อยกับนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกฯ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ต่อมาเมื่อ เวลา 14.20 น. นายอภิสิทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ที่บริเวณแหล่งสมาคมนายทหาร กรมทหาราบที่ 11 รักษาพระองค์ โดยก่อนหน้าที่นายอภิสิทธิ์จะให้สัมภาษณ์นั้น ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า การที่นายกฯ ออกมาให้สัมภาษณ์ในที่กลางแจ้ง ไม่กลัวว่าจะมีหน่วยสไนเปอร์ (SNIPTER) หรือหน่วยซุ่มยิงจากเขมร มาลอบทำร้ายหรือ นายอภิสิทธิ์ ก็แหงนหน้าขึ้นไปมองรอบๆ ตัว ก่อนที่จะตอบทีเล่นทีจริงว่า "ไม่เป็นไร มีศิริโชคยืนอยู่"
**ตรวจพื้นที่จัดประชุมลุ่มน้ำโขง
หลังจากเสร็จสิ้นการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนแล้ว นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงในฐานะ ผอ.ศอ.รส. นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายศิริโชค โสภาได้เดินทางด้วยเครื่องเฮลิคอปเตอร์ แบล็คฮอค ออกเดินทางจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ไปหัวหิน จ.ประจวบคิรีขันธ์ เพื่อตรวจพื้นที่ ที่จะจัดการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 1 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-5 เม.ย.นี้ ก่อนที่จะประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯในพื้นที่ดังกล่าว
แหล่งข่าวด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่ที่จะประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงในการรองรับการประชุมครั้งนี้ ประกอบไปด้วย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี 5 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลชะอำ, ดอนขุนห้วย, ขาใหญ่, สามพระยา และไร่ใหม่พัฒนา สำหรับพื้นที่ในอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประกอบด้วย 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลหัวหิน, หินเหล็กไฟ ,หนองแก และ ทับใต้ เป็นเป็นพื้นที่ความมั่นคง
** "มาร์ค"ยึด สงบ สันติ ไม่ยุบสภา
ส่วนกรณี ที่กลุ่มเสื้อแดง ติดคัตเอาต์ สันติ สงบ ยุบสภา คือทางออกของประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นั่นคือความคิดของนปช. แต่แนวทางในเรื่องสันติวิธีของตนนั้น มีคนจำนวนมากที่บอกไม่ให้ตนยุบสภา ซึ่งตนก็บอกไปว่า ทุกอย่างอยู่ที่เหตุและผล เพราะความสงบ สันติ นั้นทุกคนก็เห็นด้วย ส่วนทางออกทางการเมืองก็ต้องเอาเหตุผลมาว่ากัน
**ยอมรับห่วงสถานการณ์ 27 มี.ค.
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดง ยังไม่เปิดเผยจุดที่จะเคลื่อนไหวในการชุมนุมใหญ่วันเสาร์ที่ 27 มี.ค.นี้ ว่าก็เป็นห่วง แต่เรายังไม่ทราบจริงๆว่าแนวทางเขาเป็นอย่างไร เพราะมีการแถลงและเปลี่ยนแปลงอยู่ ตอนแรกบอกว่าจะมีการเคลื่อน แต่ตอนนี้ก็มารวมที่สะพานผ่านฟ้า การจะดำเนินการอะไรเราอยากให้แจ้ง เพื่อประโยชน์ในการดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุนมด้วย และในแง่ของการที่จะทำให้พี่น้องประชาชน สามารถที่จะวางแผนการเดินทางได้
"ผมตระหนักดีว่า ประชาชนจำนวนมากที่เดือดร้อน ก็เหมือนเรียกร้องที่จะให้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด แต่อยากทำความเข้าใจว่า เป้าหมายสุดท้ายของรัฐบาลก็คือ ความสงบสุข ฉะนั้นทุกอย่างต้องมีความรัดกุม ระมัดระวังพอสมควร เพราะว่าเหตุการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ยังมีหลายจุดที่บ่งบอกว่า มันมีคนฉกฉวยสถานการณ์ในการสร้างความรุนแรงอยู่" นายกรัฐมนตรีกล่าว
**ชี้เงื่อนไขเจรจาเปลี่ยนไปเรื่อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเจรจาหรือไม่ เพราะเห็นมีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระบุว่าขอเงิน 3 หมื่นล้านที่ถูกยึดไปนั้นคืน แล้วจะมีการเจรจา ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงก๋บอกว่า จะเจรจากับนายกฯเท่านั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวย้อนว่า หรือครับ นึกว่าเป็นเรื่องยุบสภา ทำไมกลายเป็นเรื่อง 3 หมื่นล้านไปได้
"นี่คือปัญหาไงครับ ที่ผมพูดมาตั้งแค่ต้นว่าในที่สุดข้อเรียกร้องที่บอกว่าเป็นข้อเรียกร้องเดียว หรือข้อเรียกร้องสุดท้ายมันจริงหรือไม่ อย่างท่าน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ท่านไม่พูดถึงว่าจะเจรจากับผม ท่านก็เลยไปอีก แต่ในกรอบที่เป็นจุดยืนรัฐบาลก็คือ ถ้าทุกอย่างจบลงในเรื่องการยุบสภา แล้วจะมาพูดคุยกันว่าจะเดินไปสู่การยุบสภาอย่างไร เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าทุกอย่างจบลง ก็คุยกันได้ อันนี้ก็เป็นข้อเสนอเหมือนเดิม ซึ่งผมได้ทราบจากนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่า ยังมีหลายฝ่ายที่พยายามทำหน้าที่เป็นตัวกลางติดต่อกันไปมา ก็ยังมีการติดต่อกันอยู่" นายกฯกล่าว และว่า ถ้าคุยกันได้ และเรื่องทั้งหลายจบหมด ตนก็ยินดีที่จะไปคุย แต่ถ้ามายื่นเงื่อนไขว่า ยุบสภาก่อนแล้วค่อยมาคุย อย่างนี้ไม่ต้องมาคุย เพราะถ้ายุบสภาแล้ว ก็ไม่รู้จะคุยอะไรกัน
**มั่นใจดูแลการประชุมนานาชาติได้
เมื่อถามว่าขณะนี้การก่อวินาศกรรมยังเกิดเหตุรายวัน จะส่งผลกระทบกับการเป็นเจ้าภาพประชุมระดับนานาชาติหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในชั้นนี้จะเห็นว่าในการประชุมไอพียู มีประเทศเข้าร่วม 120 กว่าประเทศ แสดงให้เห็นว่า เขายังมองว่าเราสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆได้ ซึ่งการประชุมไอพียู เป็นการประชุมที่มีความหมายสำหรับทุกประเทศที่ใช้ระบบรัฐสภา ระบอบประชาธิปไตย ตนเคยคุยกับผู้จัดเขาไว้ เขาก็สนับสนุนการที่ประเทศไทย สภาไทย เป็นเจ้าภาพได้
**"นพเหล่"ปัด"แม้ว"ขอคืน 3 หมื่นล.
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขอเงินคืน 3 หมื่นล้าน แล้วจะยอมเจรจาว่า เป็นการเล่นการเมืองของนายอภิสิทธิ์ ที่ต้องการดิสเครดิต พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งตนขอปฎิเสธโดยสิ้นเชิง เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยยื่นเงื่อนไขใดๆ ในการเจรจา แม้จะถูกยึดทรัพย์ แต่ก็ไม่เคยนำความเจ็บปวดของตัวเองมาเป็นเงื่อนไขในการเรียกร้องของคนเสื้อแดง และไม่มีเหตุผลที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวจะเอาประโยชน์ส่วนตัวมาเป็นข้อเรียกร้องด้วย นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่า การเจรจากับรัฐบาลไม่ใช่หน้าที่ของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นหน้าที่ของคนเสื้อแดง
** ข้องใจ"ไอ้ตู่"รู้ล่วงหน้าจะมีบึ้ม
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจความพร้อมในการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงฯ ว่า ตนจะปรึกษากับครม.ในวันอังคารนี้ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในการจัดการประชุม และให้ความมั่นใจกับผู้นำจากประเทศต่างๆ จึงจะมีการพิจารณาประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนรายละเอียดจะหารือกันอีกครั้ง แต่มั่นใจว่าจะไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน
ส่วนจะต่ออายุ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ที่กรุงเทพฯ หลังวันที่ 30 มี.ค.หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ยังอยู่อีกไกล ยังไม่มีการพิจารณา
ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ระบุว่าคืนวันที่ 26 มี.ค. จะมีเหตุการณ์ระเบิด และใส่ร้ายเสื้อแดง นายสุเทพกล่าวว่า ทำไมเขาพูดอย่างนั้น ถ้าอย่างนั้น คืนนี้พวกตนก็ไม่ได้นอน เรียนย้ำว่ากังวลใจมากเรื่องนี้ เรารู้มาตลอดจากการข่าวว่ามันมีแผนการที่จะทำอย่างนี้ ตนพยายามวางมาตรการในการป้องกัน
"คนที่มีความรัก และหวังดีต่อประเทศ คิดจะต่อสู้ในทางการเมือง ไม่ควรจะทำเรื่องนี้ ที่กล่าวหารัฐบาล ผมอยากเรียนว่ามันไม่มีเหตุผลเลย ลองใครมาเป็นรัฐบาลในขณะนี้ก็ต้องคิดเหมือนผม คิดเหมือนท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เรามีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย เราอดทน เราอดกลั้น เราแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุรุนแรงในบ้านเมือง ฉะนั้น รัฐบาลไม่เหตุผลเลยที่จะก่อเหตุด้วยตัวเอง และรัฐบาลนี้สำนึกอยู่เสมอว่า เราเป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย การแก้ไขปัญหาบ้านเมืองต้องอยู่บนหลักพื้นฐานของกฎหมายอย่างเคร่งครัด" นายสุเทพกล่าว และว่ารู้สึกสงสัยอยู่ว่าทำไมนายจตุพรจึงพูดล่วงหน้าได้อย่างนั้น
**มาร์คแวะเยี่ยมครอบครัวที่หัวหิน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าการเดินทางไปตรวจความพร้อมของนายอภิสิทธิ์ในครั้งนี้ ได้ออกเดินทางไปตั้งแต่เวลา 14.40 น.(26มี.ค) และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้วมีแต่เพียงนายสุเทพ กับนายสาทิตย์ เดินทางกลับมาเท่านั้น โดยไม่มีนายอภสิทธิ์ เดินทางกลับมาด้วย ซึ่งคาดว่านายอภิสิทธิ์จะแวะพักผ่อนกับครอบครัว ที่เวลานี้พักผ่อน อยู่ที่ อ.หัวหิน และรวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ ที่จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค ที่ อ.หัวหิน ด้วย
**"สัณฐาน"เผยมีระเบิดอีกหลายลูกล
พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. กล่าวถึงกรณีคนร้ายนำลูกระเบิดเอ็ม 67 ไปวางไว้ด้านหน้ารั้วสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดา ท้องที่ สน.พหลโยธินว่า จากผลการตรวจสอบคดีคนร้ายใช้วัตถุระเบิดขว้างใส่สถานที่ราชการสำคัญ ทั้งในพื้นที่ กทม. และจ.นนทบุรี ส่วนใหญ่ทราบว่า เป็นระเบิดชนิดเดียวกันคือ เอ็ม 67 และมีการขูดลบหมายเลขทะเบียนประจำลูกระเบิดออกด้วย เพื่อให้ยากต่อการสืบหาแหล่งที่มา
"คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของพวกป่วนเมือง ที่ไม่ใช่คนสีเขียว หรือสีกากี แต่เป็นพวกสีดำมากกว่า เนื่องจากจิตใจดำ และคับแคบ หากจับกุมตัวได้จะต้องตีให้เข็ด เพราะถือว่าทำให้บ้านเมืองวอดวาย เศรษฐกิจของประเทศได้รับความเสียหายอย่างมาก "
ทั้งนี้ ได้กำชับให้ผู้กำกับการทั้งนครบาล เร่งประสานกับผู้บริหารสถานที่ราชการทุกแห่ง ให้สั่งการ รปภ.ประจำสถานที่นั้นๆ ช่วยเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบให้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่การข่าวรายงานเข้ามาแล้วว่า มีลูกระเบิดชนิดดังกล่าวทะลักเข้ามาในพื้นที่ กทม.อีกหลายลูก
ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงอ้างว่า เป็นฝีมือของฝ่ายรัฐบาลสร้างสถานการณ์เองนั้น ขอยืนยันว่าคนของรัฐบาลไม่มีทางทำแบบนี้แน่นอน เพราะเท่าที่ดูข้อมูลของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ ไม่ว่าจะเป็นคดีที่พยายามยิงอาร์พีจี ถล่มกระทรวงกลาโหม หรือคดีปาระเบิดใส่ธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อยสีลม ก็ตาม ปรากฏว่าคนร้ายเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองทั้งนั้น แต่ไม่ใช่คนของขั้วรัฐบาลเลย
**เชื่อโจรใต้เด็กรามฯไม่ร่วมนปช.
พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า นายสะแปอิง บาซอ แกนนำผู้ก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และแนวร่วมมาเคลื่อนไหว ที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อร่วมกับนปช.ว่าตนสั่งการให้ตรวจสอบอยู่ ได้รับข่าวสารจากในพื้นที่ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่า คนร้ายที่ก่อเหตุป่วนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้มาเคลื่อนไหวหรือไม่ ซึ่งรอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวสืบสวนก่อน โดยที่ผ่านมา ไม่เคยปรากฏว่าแนวร่วมในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาร่วมก่อเหตุ ร่วมมือ หรือเคลื่อนไหวที่ หน้าม.รามฯ ซึ่งไม่เคยพบว่ากลุ่มพวกนี้มาเคลื่อนไหวที่อื่น นอกเหนือจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนเชื่อมั่นอย่างนั้น เพราะเขาไม่คุ้นเคยเรื่องเครื่องมือ สิ่งแวดล้อม แต่เรื่องนี้ขอตรวจสอบก่อน
**“ไพร่แดง” แจ้งไม่ดาวกระจาย
พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าชุดในการเจรจากับกลุ่มคนเสื้อแดง ได้มีการพูดคุยกับแกนนำในเบื้องต้นเกี่ยวกับกำหนดการเดิมที่จะมีการเคลื่อนไหวแบบดาวกระจายไปทั่วกรุงเทพฯ ในวันที่ 27 มี.ค.นี้ ได้ข้อสรุปว่า จะไม่มีการดาวกระจายไปตามจุดต่างๆ ดังเช่น วันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่จะเป็นการนัดชุมนุมใหญ่เท่านั้น โดยการเคลื่อนไหวจะใช้เพียงวิธีเชิญชวนกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาร่วมชุมนุมร่วมกัน ที่เวทีใหญ่สะพานผ่านฟ้า
เมื่อเช้าวานนี้ (26 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมที่ ศอ.รส.เพื่อเตรียมการไปเยือนบรูไนดารุสซาลาม และราชอาณาจักรบาห์เรนอย่างเป็นทางการ ในช่วงวันที่ 29 - 31 มี.ค.นี้ โดยวันที่ 29 มี.ค.นายอภิสิทธิ์ จะออกเดินทางเวลา 06.30น. ไปเยือนบรูไนฯ และกลับประเทศไทย เวลา17.35 น.
ส่วนวันที่30-31มี.ค. เวลา 07.10น.ออกเดินทางไปเยือนราชอาณาจักรบาห์เรน และกลับประเทศไทยวันที่ 31 มี.ค. เวลา 21.20 น.
**"มาร์ค"ยังไม่ล้มแผนเดินทางตปท.
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการเดินทางไปเยือนทั้งสองประเทศดังกล่าวว่า ขณะนี้ยังยืนยันว่าจะเดินทางไป แต่จะดูสถานการณ์ตามความเหมาะสม ซึ่งทั้ง 2 ประเทศนี้ ก็มีความสำคัญ อย่าง ประเทศบรูไน ได้มีการเลื่อนมาหลายครั้ง และบาห์เรน ก็มีความจำเป็นต้องไปพูดคุย ทั้งแง่ของเศรษฐกิจ และขอความสนับสนุนเกี่ยวกับโอไอซี ใน 2 ประเทศด้วย ในชั้นนี้ยังยืนยันที่จะเดินทางไป โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้รักษาการแทน
ต่อมานายอภิสิทธิ์ เรียกประชุมด้านเศรษฐกิจกลุ่มย่อยกับนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกฯ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ต่อมาเมื่อ เวลา 14.20 น. นายอภิสิทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ที่บริเวณแหล่งสมาคมนายทหาร กรมทหาราบที่ 11 รักษาพระองค์ โดยก่อนหน้าที่นายอภิสิทธิ์จะให้สัมภาษณ์นั้น ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า การที่นายกฯ ออกมาให้สัมภาษณ์ในที่กลางแจ้ง ไม่กลัวว่าจะมีหน่วยสไนเปอร์ (SNIPTER) หรือหน่วยซุ่มยิงจากเขมร มาลอบทำร้ายหรือ นายอภิสิทธิ์ ก็แหงนหน้าขึ้นไปมองรอบๆ ตัว ก่อนที่จะตอบทีเล่นทีจริงว่า "ไม่เป็นไร มีศิริโชคยืนอยู่"
**ตรวจพื้นที่จัดประชุมลุ่มน้ำโขง
หลังจากเสร็จสิ้นการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนแล้ว นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงในฐานะ ผอ.ศอ.รส. นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายศิริโชค โสภาได้เดินทางด้วยเครื่องเฮลิคอปเตอร์ แบล็คฮอค ออกเดินทางจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ไปหัวหิน จ.ประจวบคิรีขันธ์ เพื่อตรวจพื้นที่ ที่จะจัดการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 1 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-5 เม.ย.นี้ ก่อนที่จะประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯในพื้นที่ดังกล่าว
แหล่งข่าวด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่ที่จะประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงในการรองรับการประชุมครั้งนี้ ประกอบไปด้วย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี 5 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลชะอำ, ดอนขุนห้วย, ขาใหญ่, สามพระยา และไร่ใหม่พัฒนา สำหรับพื้นที่ในอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประกอบด้วย 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลหัวหิน, หินเหล็กไฟ ,หนองแก และ ทับใต้ เป็นเป็นพื้นที่ความมั่นคง
** "มาร์ค"ยึด สงบ สันติ ไม่ยุบสภา
ส่วนกรณี ที่กลุ่มเสื้อแดง ติดคัตเอาต์ สันติ สงบ ยุบสภา คือทางออกของประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นั่นคือความคิดของนปช. แต่แนวทางในเรื่องสันติวิธีของตนนั้น มีคนจำนวนมากที่บอกไม่ให้ตนยุบสภา ซึ่งตนก็บอกไปว่า ทุกอย่างอยู่ที่เหตุและผล เพราะความสงบ สันติ นั้นทุกคนก็เห็นด้วย ส่วนทางออกทางการเมืองก็ต้องเอาเหตุผลมาว่ากัน
**ยอมรับห่วงสถานการณ์ 27 มี.ค.
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดง ยังไม่เปิดเผยจุดที่จะเคลื่อนไหวในการชุมนุมใหญ่วันเสาร์ที่ 27 มี.ค.นี้ ว่าก็เป็นห่วง แต่เรายังไม่ทราบจริงๆว่าแนวทางเขาเป็นอย่างไร เพราะมีการแถลงและเปลี่ยนแปลงอยู่ ตอนแรกบอกว่าจะมีการเคลื่อน แต่ตอนนี้ก็มารวมที่สะพานผ่านฟ้า การจะดำเนินการอะไรเราอยากให้แจ้ง เพื่อประโยชน์ในการดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุนมด้วย และในแง่ของการที่จะทำให้พี่น้องประชาชน สามารถที่จะวางแผนการเดินทางได้
"ผมตระหนักดีว่า ประชาชนจำนวนมากที่เดือดร้อน ก็เหมือนเรียกร้องที่จะให้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด แต่อยากทำความเข้าใจว่า เป้าหมายสุดท้ายของรัฐบาลก็คือ ความสงบสุข ฉะนั้นทุกอย่างต้องมีความรัดกุม ระมัดระวังพอสมควร เพราะว่าเหตุการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ยังมีหลายจุดที่บ่งบอกว่า มันมีคนฉกฉวยสถานการณ์ในการสร้างความรุนแรงอยู่" นายกรัฐมนตรีกล่าว
**ชี้เงื่อนไขเจรจาเปลี่ยนไปเรื่อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเจรจาหรือไม่ เพราะเห็นมีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระบุว่าขอเงิน 3 หมื่นล้านที่ถูกยึดไปนั้นคืน แล้วจะมีการเจรจา ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงก๋บอกว่า จะเจรจากับนายกฯเท่านั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวย้อนว่า หรือครับ นึกว่าเป็นเรื่องยุบสภา ทำไมกลายเป็นเรื่อง 3 หมื่นล้านไปได้
"นี่คือปัญหาไงครับ ที่ผมพูดมาตั้งแค่ต้นว่าในที่สุดข้อเรียกร้องที่บอกว่าเป็นข้อเรียกร้องเดียว หรือข้อเรียกร้องสุดท้ายมันจริงหรือไม่ อย่างท่าน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ท่านไม่พูดถึงว่าจะเจรจากับผม ท่านก็เลยไปอีก แต่ในกรอบที่เป็นจุดยืนรัฐบาลก็คือ ถ้าทุกอย่างจบลงในเรื่องการยุบสภา แล้วจะมาพูดคุยกันว่าจะเดินไปสู่การยุบสภาอย่างไร เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าทุกอย่างจบลง ก็คุยกันได้ อันนี้ก็เป็นข้อเสนอเหมือนเดิม ซึ่งผมได้ทราบจากนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่า ยังมีหลายฝ่ายที่พยายามทำหน้าที่เป็นตัวกลางติดต่อกันไปมา ก็ยังมีการติดต่อกันอยู่" นายกฯกล่าว และว่า ถ้าคุยกันได้ และเรื่องทั้งหลายจบหมด ตนก็ยินดีที่จะไปคุย แต่ถ้ามายื่นเงื่อนไขว่า ยุบสภาก่อนแล้วค่อยมาคุย อย่างนี้ไม่ต้องมาคุย เพราะถ้ายุบสภาแล้ว ก็ไม่รู้จะคุยอะไรกัน
**มั่นใจดูแลการประชุมนานาชาติได้
เมื่อถามว่าขณะนี้การก่อวินาศกรรมยังเกิดเหตุรายวัน จะส่งผลกระทบกับการเป็นเจ้าภาพประชุมระดับนานาชาติหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในชั้นนี้จะเห็นว่าในการประชุมไอพียู มีประเทศเข้าร่วม 120 กว่าประเทศ แสดงให้เห็นว่า เขายังมองว่าเราสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆได้ ซึ่งการประชุมไอพียู เป็นการประชุมที่มีความหมายสำหรับทุกประเทศที่ใช้ระบบรัฐสภา ระบอบประชาธิปไตย ตนเคยคุยกับผู้จัดเขาไว้ เขาก็สนับสนุนการที่ประเทศไทย สภาไทย เป็นเจ้าภาพได้
**"นพเหล่"ปัด"แม้ว"ขอคืน 3 หมื่นล.
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขอเงินคืน 3 หมื่นล้าน แล้วจะยอมเจรจาว่า เป็นการเล่นการเมืองของนายอภิสิทธิ์ ที่ต้องการดิสเครดิต พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งตนขอปฎิเสธโดยสิ้นเชิง เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยยื่นเงื่อนไขใดๆ ในการเจรจา แม้จะถูกยึดทรัพย์ แต่ก็ไม่เคยนำความเจ็บปวดของตัวเองมาเป็นเงื่อนไขในการเรียกร้องของคนเสื้อแดง และไม่มีเหตุผลที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวจะเอาประโยชน์ส่วนตัวมาเป็นข้อเรียกร้องด้วย นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่า การเจรจากับรัฐบาลไม่ใช่หน้าที่ของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นหน้าที่ของคนเสื้อแดง
** ข้องใจ"ไอ้ตู่"รู้ล่วงหน้าจะมีบึ้ม
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจความพร้อมในการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงฯ ว่า ตนจะปรึกษากับครม.ในวันอังคารนี้ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในการจัดการประชุม และให้ความมั่นใจกับผู้นำจากประเทศต่างๆ จึงจะมีการพิจารณาประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนรายละเอียดจะหารือกันอีกครั้ง แต่มั่นใจว่าจะไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน
ส่วนจะต่ออายุ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ที่กรุงเทพฯ หลังวันที่ 30 มี.ค.หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ยังอยู่อีกไกล ยังไม่มีการพิจารณา
ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ระบุว่าคืนวันที่ 26 มี.ค. จะมีเหตุการณ์ระเบิด และใส่ร้ายเสื้อแดง นายสุเทพกล่าวว่า ทำไมเขาพูดอย่างนั้น ถ้าอย่างนั้น คืนนี้พวกตนก็ไม่ได้นอน เรียนย้ำว่ากังวลใจมากเรื่องนี้ เรารู้มาตลอดจากการข่าวว่ามันมีแผนการที่จะทำอย่างนี้ ตนพยายามวางมาตรการในการป้องกัน
"คนที่มีความรัก และหวังดีต่อประเทศ คิดจะต่อสู้ในทางการเมือง ไม่ควรจะทำเรื่องนี้ ที่กล่าวหารัฐบาล ผมอยากเรียนว่ามันไม่มีเหตุผลเลย ลองใครมาเป็นรัฐบาลในขณะนี้ก็ต้องคิดเหมือนผม คิดเหมือนท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เรามีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย เราอดทน เราอดกลั้น เราแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุรุนแรงในบ้านเมือง ฉะนั้น รัฐบาลไม่เหตุผลเลยที่จะก่อเหตุด้วยตัวเอง และรัฐบาลนี้สำนึกอยู่เสมอว่า เราเป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย การแก้ไขปัญหาบ้านเมืองต้องอยู่บนหลักพื้นฐานของกฎหมายอย่างเคร่งครัด" นายสุเทพกล่าว และว่ารู้สึกสงสัยอยู่ว่าทำไมนายจตุพรจึงพูดล่วงหน้าได้อย่างนั้น
**มาร์คแวะเยี่ยมครอบครัวที่หัวหิน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าการเดินทางไปตรวจความพร้อมของนายอภิสิทธิ์ในครั้งนี้ ได้ออกเดินทางไปตั้งแต่เวลา 14.40 น.(26มี.ค) และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้วมีแต่เพียงนายสุเทพ กับนายสาทิตย์ เดินทางกลับมาเท่านั้น โดยไม่มีนายอภสิทธิ์ เดินทางกลับมาด้วย ซึ่งคาดว่านายอภิสิทธิ์จะแวะพักผ่อนกับครอบครัว ที่เวลานี้พักผ่อน อยู่ที่ อ.หัวหิน และรวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ ที่จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค ที่ อ.หัวหิน ด้วย
**"สัณฐาน"เผยมีระเบิดอีกหลายลูกล
พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. กล่าวถึงกรณีคนร้ายนำลูกระเบิดเอ็ม 67 ไปวางไว้ด้านหน้ารั้วสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดา ท้องที่ สน.พหลโยธินว่า จากผลการตรวจสอบคดีคนร้ายใช้วัตถุระเบิดขว้างใส่สถานที่ราชการสำคัญ ทั้งในพื้นที่ กทม. และจ.นนทบุรี ส่วนใหญ่ทราบว่า เป็นระเบิดชนิดเดียวกันคือ เอ็ม 67 และมีการขูดลบหมายเลขทะเบียนประจำลูกระเบิดออกด้วย เพื่อให้ยากต่อการสืบหาแหล่งที่มา
"คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของพวกป่วนเมือง ที่ไม่ใช่คนสีเขียว หรือสีกากี แต่เป็นพวกสีดำมากกว่า เนื่องจากจิตใจดำ และคับแคบ หากจับกุมตัวได้จะต้องตีให้เข็ด เพราะถือว่าทำให้บ้านเมืองวอดวาย เศรษฐกิจของประเทศได้รับความเสียหายอย่างมาก "
ทั้งนี้ ได้กำชับให้ผู้กำกับการทั้งนครบาล เร่งประสานกับผู้บริหารสถานที่ราชการทุกแห่ง ให้สั่งการ รปภ.ประจำสถานที่นั้นๆ ช่วยเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบให้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่การข่าวรายงานเข้ามาแล้วว่า มีลูกระเบิดชนิดดังกล่าวทะลักเข้ามาในพื้นที่ กทม.อีกหลายลูก
ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงอ้างว่า เป็นฝีมือของฝ่ายรัฐบาลสร้างสถานการณ์เองนั้น ขอยืนยันว่าคนของรัฐบาลไม่มีทางทำแบบนี้แน่นอน เพราะเท่าที่ดูข้อมูลของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ ไม่ว่าจะเป็นคดีที่พยายามยิงอาร์พีจี ถล่มกระทรวงกลาโหม หรือคดีปาระเบิดใส่ธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อยสีลม ก็ตาม ปรากฏว่าคนร้ายเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองทั้งนั้น แต่ไม่ใช่คนของขั้วรัฐบาลเลย
**เชื่อโจรใต้เด็กรามฯไม่ร่วมนปช.
พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า นายสะแปอิง บาซอ แกนนำผู้ก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และแนวร่วมมาเคลื่อนไหว ที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อร่วมกับนปช.ว่าตนสั่งการให้ตรวจสอบอยู่ ได้รับข่าวสารจากในพื้นที่ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่า คนร้ายที่ก่อเหตุป่วนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้มาเคลื่อนไหวหรือไม่ ซึ่งรอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวสืบสวนก่อน โดยที่ผ่านมา ไม่เคยปรากฏว่าแนวร่วมในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาร่วมก่อเหตุ ร่วมมือ หรือเคลื่อนไหวที่ หน้าม.รามฯ ซึ่งไม่เคยพบว่ากลุ่มพวกนี้มาเคลื่อนไหวที่อื่น นอกเหนือจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนเชื่อมั่นอย่างนั้น เพราะเขาไม่คุ้นเคยเรื่องเครื่องมือ สิ่งแวดล้อม แต่เรื่องนี้ขอตรวจสอบก่อน
**“ไพร่แดง” แจ้งไม่ดาวกระจาย
พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าชุดในการเจรจากับกลุ่มคนเสื้อแดง ได้มีการพูดคุยกับแกนนำในเบื้องต้นเกี่ยวกับกำหนดการเดิมที่จะมีการเคลื่อนไหวแบบดาวกระจายไปทั่วกรุงเทพฯ ในวันที่ 27 มี.ค.นี้ ได้ข้อสรุปว่า จะไม่มีการดาวกระจายไปตามจุดต่างๆ ดังเช่น วันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่จะเป็นการนัดชุมนุมใหญ่เท่านั้น โดยการเคลื่อนไหวจะใช้เพียงวิธีเชิญชวนกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาร่วมชุมนุมร่วมกัน ที่เวทีใหญ่สะพานผ่านฟ้า