ยิ่งนับวัน เรายิ่งเห็น “ธาตุแท้-ตัวตน” ที่แท้จริงของคุณทักษิณ ชินวัตร มากยิ่งขึ้น ว่าเป็นคนเช่นไร!
การระดมให้กลุ่ม “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)” และ “กลุ่มเสื้อแดง” เดินหน้าเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมประท้วงให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ “ประกาศยุบสภา” ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 10 กว่าวัน จนเคลื่อนขบวนใหญ่อีกครั้ง เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา ด้วยการนำขบวนสมาชิกคนเสื้อแดงมีจำนวนมากถึงสี่หมื่นกว่าคนผ่านถนนสายหลักๆ ของกรุงเทพฯ ประมาณ 9 เส้นทาง ระยะทาง 50 กว่ากิโลเมตร
การเคลื่อนขบวนของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวันเสาร์ ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าดูอลังการยิ่งใหญ่เอาเรื่องทีเดียว เนื่องด้วยหัวขบวนเริ่มเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก แต่ปลายแถวขบวนยังอยู่ที่เวทีชุมนุมสะพานผ่านฟ้าลีลาศ
จากภาพที่เห็นในจอโทรทัศน์และสื่อต่างๆ นั้น “คนเสื้อแดง” เต็มถนนขบวนยาวเหยียด และบางเส้นทางขบวนได้ปิดเส้นทางถนนทั้งสองฟากจนเกิดการปะทะกันบ้างของกลุ่มประชาชนที่ต้องสัญจรไปมากับกลุ่มเสื้อแดง
เป้าหมายสำคัญของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ต้องการแสดงความขอบคุณชาวกรุงเทพมหานคร ด้วยการแจกดอกไม้ “ดอกไม้หลากสี” ตลอดเส้นทาง พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณพี่น้องชาวกรุงเทพฯ จากแกนนำและได้รับการตอบรับจากประชาชนเช่นเดียวกัน
แต่เป้าหมายจริงๆ แล้ว น่าจะเป็นการโชว์พลังของกลุ่มเสื้อแดง ทั้งต่อคนไทยและโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อคุณทักษิณ ตลอดจนคาดการณ์ว่าจะเกิดการสร้างแนวร่วมจากพี่น้องชาว กทม. ให้เข้ามาร่วมสมทบกับการขับเคลื่อนบนท้องถนน เพื่อให้เกิดความอลังการยิ่งใหญ่ แต่ก็มิได้เป็นเช่นนั้นไม่ มีเพียงประชาชนบางเส้นทางที่ร่วมสมทบบ้างอย่างประปราย พร้อมกับ “ป้ายสนับสนุน” และแน่นอน “ป้ายต่อต้าน!”
ขอย้ำว่า “การชุมนุม” และ “การเคลื่อนขบวน” เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมานั้น น่าจะวิเคราะห์ได้ว่า เพื่อเป็นการโชว์พลังของกลุ่มเสื้อแดงที่มีจำนวนมากที่ต้องการกดดันรัฐบาล แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ตระหนักรับรู้กันว่า เป้าหมายที่แท้จริงนั้นคือ “สนับสนุนคุณทักษิณ” เพื่อให้ได้อำนาจกลับคืนมา เนื่องด้วยการชุมนุมจะมีทั้ง “ป้ายชื่อ” และ “รูปภาพคุณทักษิณ” ที่เป็นสัญลักษณ์ “ผู้นำ” ของทั้ง “นปช.-เสื้อแดง”
เป้าหมายสอดคล้องกันที่สุด ของทั้ง “กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง” และ “พ.ต.ท.ทักษิณ” คือ “การโชว์สมรรถนะ-โชว์พลังมวลชน” ว่ามีประชาชนนับหมื่นนับแสนคนสนับสนุนทั้งคุณทักษิณและกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเป้าหมายที่แท้จริง แน่นอน “เพื่อคุณทักษิณ!”
ดังนั้น เป้าหมายที่สอดคล้องทั้งสองฝ่ายนั้น ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา และล่าสุด 10 กว่าวันที่ผ่านมา น่าจะ “แฮปปี้” กันทั้งสองฝ่าย ที่ไม่ต้องวิเคราะห์เลยว่าคุณทักษิณแฮปปี้ที่สุด ที่ถูกกล่อมว่า มีคนไทยสนับสนุนเรือนแสนคน จนยอม “ปล่อยก๊อกสอง-ท่อน้ำเลี้ยง” แก่กลุ่มแกนนำ นปช. และเสื้อแดงในการระดมผู้คนมาร่วมชุมนุมเพิ่มเติมต่อไปอีก
ส่วน “กลุ่มแกนนำ นปช.” นั้น แทบไม่ต้องกล่าวถึง “ความอิ่มเอม” ที่ได้รับการตอบสนองอย่างเต็มพิกัด ในการระดมกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งจากต่างจังหวัดและในกรุงเทพมหานคร ที่ความจริงนั้นเป็น “ระบบยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว” ตลอดจน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จากพรรคเพื่อไทยที่ถูกสั่งให้ระดมพี่น้องประชาชนทั้งจากภาคเหนือและภาคอีสานอย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่า 1 ส.ส.ต่อประชาชน 1,000 คน
จากการที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเปิดเผยว่า “เงิน” เป็นปัจจัยสำคัญที่แน่นอนคุณทักษิณ จะต้องส่งท่อน้ำเลี้ยงอย่างน้อยวันละไม่ต่ำกว่า 10-15 ล้านบาท หรืออาจจะมากกว่านั้น ส่วนกลุ่มนายทุนอื่นๆ นั้น ไม่น่าเชื่อว่า จะมีการระดมได้มากมายนัก
หรือแม้กระทั่ง “พ่อใหญ่จิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่เดินทางออกจากโรงพยาบาลแล้วขึ้นเวทีร่วมต้อนรับ “กลุ่มเสื้อแดง” ที่เดินทางกลับจากการเดินสายตามถนนหลัก 9 เส้นทาง ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร บนเวทีที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ในฐานะประธานพรรคเพื่อไทย ซึ่งแสดงตัวตนอย่างชัดเจนว่า “เพื่อคุณทักษิณ” และเสื้อแดงด้วยการใส่เสื้อแดง
ทั้งนี้ ถามว่า “การระดม-การชุมนุม-การขึ้นเวที” ของบรรดากลุ่มแกนนำ และแม้กระทั่ง พ่อใหญ่จิ๋วนั้นมี “ค่าใช้จ่าย” หรือไม่ ก็ต้องตอบว่า “มีแน่นอน!” ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นนั้น เป็น “การแสดง” แทบทั้งสิ้น พร้อมทั้งต่างมี “ค่าตัว” ทั้งหมด หรือแม้กระทั่ง ถามว่า “ผู้จ่าย” คือ คุณทักษิณ นั้นก็ “อิ่มเอม” กับ “ความอิ่มเอม” ของ “กลุ่มนักแสดง” ทั้งหมดเช่นเดียวกัน
จริงๆ แล้ว ทั้ง “การโชว์พลัง” ที่ต่างฝ่ายต่างได้ พร้อมทั้ง “ไม่เสียหน้า!” ของทุกฝ่าย ถือว่า “ชนะ-ชนะ : Win-Win” ด้วยกันทุกฝ่าย แต่ต้องยอมรับความจริงว่า “ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น ไม่มีการชนะทุกฝ่ายทั้งหมด ต้องมีผู้เสียหายผู้แพ้อยู่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง” ซึ่งก็คือ “ประชาชน-ประเทศชาติ” ที่ต้องประสบปัญหารถติด พร้อมทั้ง “การเตือนภัย” จากสังคมนานาชาติให้ระวังตัวเมื่อมาท่องเที่ยวประเทศไทย
ประเด็นคำถามที่ยังคงค้างคาใจเราคนไทยทุกคนถึง “ความยืดเยื้อ” ของการชุมนุมในครั้งนี้ พร้อมทั้ง “จำนวน” ของกลุ่มผู้ชุมนุมว่ามีมากน้อยและยาวนานเท่าใด
เท่าที่ประมวลและประเมินข้อมูลล่าสุด จากจำนวนของกลุ่มผู้ชุมนุมน่าจะถูกกำหนดให้ยืนระยะกันได้สูงถึงหลัก 4 หมื่นถึง 5 หมื่นคน และเมื่อใดที่มีระดมให้ฮึกเหิม 7-10 วันครั้ง ต้องสามารถระดมให้มากถึงหลัก 8 หมื่น ถึงแสนคน ดังนั้น คำตอบจึงอยู่ในตัวของมันเองว่า “ยืดเยื้อ” แน่นอน
ส่วนคำถามที่ว่าจะยืดเยื้อเพียงไหนนั้น น่าเชื่อว่า ช่วงสงกรานต์จะมีจำนวนน้อยหรืออาจเลิกราระยะหนึ่ง และน่าจะกลับมารวมตัวกันใหม่หลังเทศกาลสงกรานต์ อย่างช้าช่วงต้นเดือนพฤษภาคม
ทั้งนี้ทั้งนั้น ต่างมีการวิพากษ์วิจารณ์และเชื่อมั่นว่า “คุณทักษิณเล่นไม่เลิกแน่!” เนื่องด้วยคุณทักษิณมี “อุปนิสัยใจคอ” และ “พฤติกรรม” ที่ “อาฆาต-เคียดแค้น-พยาบาท” และเชื่อมั่นว่า “เงินเนรมิต-เงินซื้อได้ทุกอย่าง!”
เพราะฉะนั้น ต่างฟันธงเลยว่า การชุมนุมของกลุ่ม นปช.และเสื้อแดงนั้น “เลิกยาก!” และจะถูกกำหนดให้ปั่นป่วนเช่นนี้ตลอดไปจนกว่า “เป้าหมาย” ของคุณทักษิณและคณะบรรลุ ซึ่งนั่นก็คือ “อำนาจ-ผลประโยชน์” อีกครั้งหนึ่ง เพื่อปรับเปลี่ยนสารพัดกฎหมายที่ก่อความเสียหายให้แก่ตนเองและคณะ ซึ่งมิใช่ “หลักการ-อุดมการณ์ประชาธิปไตย” แต่อย่างใด
ในขณะเดียวกัน ก็น่าสงสัยเช่นเดียวกันว่า “กลุ่มแกนนำ นปช.-เสื้อแดง” ปรารถนาที่จะให้เกิดการยุติการชุมนุมหรือไม่ ก็ต้องตอบว่า “ไม่น่าเป็นไปได้” เช่นเดียวกัน เพราะถ้าปล่อยให้การชุมนุมยืดเยื้อยาวนาน “รายได้” ก็จะไหลรินเป็นรายได้ก้อนโตอย่างต่อเนื่อง ถามว่า “แล้วเรื่องอะไรจะเลิก-แล้วเรื่องอะไรจะขาดรายได้?”
ถ้าจะว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว คงไม่ต้องสงสัยเลยว่า “กระเป๋าคุณทักษิณถูกล้วงมาหลายปีแล้ว!” และ “เหตุการณ์การชุมนุมตลอดระยะเวลา 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ มีหลายคนรวยรับเละนับ 10-100 ล้านบาทไปเรียบร้อย!”
และก็ถามต่อว่า “คุณทักษิณรู้หรือไม่?” ก็ต้องตอบว่า “รู้ดี!” แต่ที่รู้ทั้งรู้ ว่า “เลี้ยงช้างก็ต้องกินขี้ช้าง!” แต่ก็ต้องยอม เพื่อสร้างความปั่นป่วนและระบายความแค้น แต่ที่สำคัญที่สุดคือ “วลีเด็ด” ของคุณทักษิณที่ปรารภหลายครั้งกับผู้ไปเยี่ยมเยียนว่า “ถ้ากูอยู่อย่างสงบสุขไม่ได้ พวกมึงก็อย่าอยู่กันอย่างสงบสุขเลย!”
เพราะฉะนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น เปรียบเสมือนเป็น “การแสดงโรงใหญ่” จนเลยเถิดเรียกได้ว่า “ลิเก!” ได้เช่นเดียวกัน โดยนำเนื้อเรื่องเกี่ยวกับ “อำมาตย์-ไพร่” ที่นำมาสนองอารมณ์กับบรรยากาศและความรู้สึกของพี่น้องประชาชนระดับรากหญ้าที่ยากจน ทั้งในชนบทและในเมืองหลวงที่นิยมชมชอบดูละครจักรๆ วงศ์ๆ
และที่สำคัญที่สุด คือ “ความมั่งคั่ง” ที่เงินในกระเป๋าอู้ฟู่ของกลุ่มผู้แสดงหลักที่ปรารถนาความยืดเยื้อ ส่วนคุณทักษิณนั้น “มั่งคั่ง-สะใจ” ที่มี “กลุ่มผู้แสดงชำระแค้นแทนตน” และ “กระเป๋าฉีก!”
ซึ่งนี่คือ “ธาตุแท้” ของคุณทักษิณ!
การระดมให้กลุ่ม “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)” และ “กลุ่มเสื้อแดง” เดินหน้าเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมประท้วงให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ “ประกาศยุบสภา” ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 10 กว่าวัน จนเคลื่อนขบวนใหญ่อีกครั้ง เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา ด้วยการนำขบวนสมาชิกคนเสื้อแดงมีจำนวนมากถึงสี่หมื่นกว่าคนผ่านถนนสายหลักๆ ของกรุงเทพฯ ประมาณ 9 เส้นทาง ระยะทาง 50 กว่ากิโลเมตร
การเคลื่อนขบวนของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวันเสาร์ ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าดูอลังการยิ่งใหญ่เอาเรื่องทีเดียว เนื่องด้วยหัวขบวนเริ่มเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก แต่ปลายแถวขบวนยังอยู่ที่เวทีชุมนุมสะพานผ่านฟ้าลีลาศ
จากภาพที่เห็นในจอโทรทัศน์และสื่อต่างๆ นั้น “คนเสื้อแดง” เต็มถนนขบวนยาวเหยียด และบางเส้นทางขบวนได้ปิดเส้นทางถนนทั้งสองฟากจนเกิดการปะทะกันบ้างของกลุ่มประชาชนที่ต้องสัญจรไปมากับกลุ่มเสื้อแดง
เป้าหมายสำคัญของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ต้องการแสดงความขอบคุณชาวกรุงเทพมหานคร ด้วยการแจกดอกไม้ “ดอกไม้หลากสี” ตลอดเส้นทาง พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณพี่น้องชาวกรุงเทพฯ จากแกนนำและได้รับการตอบรับจากประชาชนเช่นเดียวกัน
แต่เป้าหมายจริงๆ แล้ว น่าจะเป็นการโชว์พลังของกลุ่มเสื้อแดง ทั้งต่อคนไทยและโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อคุณทักษิณ ตลอดจนคาดการณ์ว่าจะเกิดการสร้างแนวร่วมจากพี่น้องชาว กทม. ให้เข้ามาร่วมสมทบกับการขับเคลื่อนบนท้องถนน เพื่อให้เกิดความอลังการยิ่งใหญ่ แต่ก็มิได้เป็นเช่นนั้นไม่ มีเพียงประชาชนบางเส้นทางที่ร่วมสมทบบ้างอย่างประปราย พร้อมกับ “ป้ายสนับสนุน” และแน่นอน “ป้ายต่อต้าน!”
ขอย้ำว่า “การชุมนุม” และ “การเคลื่อนขบวน” เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมานั้น น่าจะวิเคราะห์ได้ว่า เพื่อเป็นการโชว์พลังของกลุ่มเสื้อแดงที่มีจำนวนมากที่ต้องการกดดันรัฐบาล แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ตระหนักรับรู้กันว่า เป้าหมายที่แท้จริงนั้นคือ “สนับสนุนคุณทักษิณ” เพื่อให้ได้อำนาจกลับคืนมา เนื่องด้วยการชุมนุมจะมีทั้ง “ป้ายชื่อ” และ “รูปภาพคุณทักษิณ” ที่เป็นสัญลักษณ์ “ผู้นำ” ของทั้ง “นปช.-เสื้อแดง”
เป้าหมายสอดคล้องกันที่สุด ของทั้ง “กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง” และ “พ.ต.ท.ทักษิณ” คือ “การโชว์สมรรถนะ-โชว์พลังมวลชน” ว่ามีประชาชนนับหมื่นนับแสนคนสนับสนุนทั้งคุณทักษิณและกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเป้าหมายที่แท้จริง แน่นอน “เพื่อคุณทักษิณ!”
ดังนั้น เป้าหมายที่สอดคล้องทั้งสองฝ่ายนั้น ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา และล่าสุด 10 กว่าวันที่ผ่านมา น่าจะ “แฮปปี้” กันทั้งสองฝ่าย ที่ไม่ต้องวิเคราะห์เลยว่าคุณทักษิณแฮปปี้ที่สุด ที่ถูกกล่อมว่า มีคนไทยสนับสนุนเรือนแสนคน จนยอม “ปล่อยก๊อกสอง-ท่อน้ำเลี้ยง” แก่กลุ่มแกนนำ นปช. และเสื้อแดงในการระดมผู้คนมาร่วมชุมนุมเพิ่มเติมต่อไปอีก
ส่วน “กลุ่มแกนนำ นปช.” นั้น แทบไม่ต้องกล่าวถึง “ความอิ่มเอม” ที่ได้รับการตอบสนองอย่างเต็มพิกัด ในการระดมกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งจากต่างจังหวัดและในกรุงเทพมหานคร ที่ความจริงนั้นเป็น “ระบบยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว” ตลอดจน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จากพรรคเพื่อไทยที่ถูกสั่งให้ระดมพี่น้องประชาชนทั้งจากภาคเหนือและภาคอีสานอย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่า 1 ส.ส.ต่อประชาชน 1,000 คน
จากการที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเปิดเผยว่า “เงิน” เป็นปัจจัยสำคัญที่แน่นอนคุณทักษิณ จะต้องส่งท่อน้ำเลี้ยงอย่างน้อยวันละไม่ต่ำกว่า 10-15 ล้านบาท หรืออาจจะมากกว่านั้น ส่วนกลุ่มนายทุนอื่นๆ นั้น ไม่น่าเชื่อว่า จะมีการระดมได้มากมายนัก
หรือแม้กระทั่ง “พ่อใหญ่จิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่เดินทางออกจากโรงพยาบาลแล้วขึ้นเวทีร่วมต้อนรับ “กลุ่มเสื้อแดง” ที่เดินทางกลับจากการเดินสายตามถนนหลัก 9 เส้นทาง ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร บนเวทีที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ในฐานะประธานพรรคเพื่อไทย ซึ่งแสดงตัวตนอย่างชัดเจนว่า “เพื่อคุณทักษิณ” และเสื้อแดงด้วยการใส่เสื้อแดง
ทั้งนี้ ถามว่า “การระดม-การชุมนุม-การขึ้นเวที” ของบรรดากลุ่มแกนนำ และแม้กระทั่ง พ่อใหญ่จิ๋วนั้นมี “ค่าใช้จ่าย” หรือไม่ ก็ต้องตอบว่า “มีแน่นอน!” ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นนั้น เป็น “การแสดง” แทบทั้งสิ้น พร้อมทั้งต่างมี “ค่าตัว” ทั้งหมด หรือแม้กระทั่ง ถามว่า “ผู้จ่าย” คือ คุณทักษิณ นั้นก็ “อิ่มเอม” กับ “ความอิ่มเอม” ของ “กลุ่มนักแสดง” ทั้งหมดเช่นเดียวกัน
จริงๆ แล้ว ทั้ง “การโชว์พลัง” ที่ต่างฝ่ายต่างได้ พร้อมทั้ง “ไม่เสียหน้า!” ของทุกฝ่าย ถือว่า “ชนะ-ชนะ : Win-Win” ด้วยกันทุกฝ่าย แต่ต้องยอมรับความจริงว่า “ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น ไม่มีการชนะทุกฝ่ายทั้งหมด ต้องมีผู้เสียหายผู้แพ้อยู่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง” ซึ่งก็คือ “ประชาชน-ประเทศชาติ” ที่ต้องประสบปัญหารถติด พร้อมทั้ง “การเตือนภัย” จากสังคมนานาชาติให้ระวังตัวเมื่อมาท่องเที่ยวประเทศไทย
ประเด็นคำถามที่ยังคงค้างคาใจเราคนไทยทุกคนถึง “ความยืดเยื้อ” ของการชุมนุมในครั้งนี้ พร้อมทั้ง “จำนวน” ของกลุ่มผู้ชุมนุมว่ามีมากน้อยและยาวนานเท่าใด
เท่าที่ประมวลและประเมินข้อมูลล่าสุด จากจำนวนของกลุ่มผู้ชุมนุมน่าจะถูกกำหนดให้ยืนระยะกันได้สูงถึงหลัก 4 หมื่นถึง 5 หมื่นคน และเมื่อใดที่มีระดมให้ฮึกเหิม 7-10 วันครั้ง ต้องสามารถระดมให้มากถึงหลัก 8 หมื่น ถึงแสนคน ดังนั้น คำตอบจึงอยู่ในตัวของมันเองว่า “ยืดเยื้อ” แน่นอน
ส่วนคำถามที่ว่าจะยืดเยื้อเพียงไหนนั้น น่าเชื่อว่า ช่วงสงกรานต์จะมีจำนวนน้อยหรืออาจเลิกราระยะหนึ่ง และน่าจะกลับมารวมตัวกันใหม่หลังเทศกาลสงกรานต์ อย่างช้าช่วงต้นเดือนพฤษภาคม
ทั้งนี้ทั้งนั้น ต่างมีการวิพากษ์วิจารณ์และเชื่อมั่นว่า “คุณทักษิณเล่นไม่เลิกแน่!” เนื่องด้วยคุณทักษิณมี “อุปนิสัยใจคอ” และ “พฤติกรรม” ที่ “อาฆาต-เคียดแค้น-พยาบาท” และเชื่อมั่นว่า “เงินเนรมิต-เงินซื้อได้ทุกอย่าง!”
เพราะฉะนั้น ต่างฟันธงเลยว่า การชุมนุมของกลุ่ม นปช.และเสื้อแดงนั้น “เลิกยาก!” และจะถูกกำหนดให้ปั่นป่วนเช่นนี้ตลอดไปจนกว่า “เป้าหมาย” ของคุณทักษิณและคณะบรรลุ ซึ่งนั่นก็คือ “อำนาจ-ผลประโยชน์” อีกครั้งหนึ่ง เพื่อปรับเปลี่ยนสารพัดกฎหมายที่ก่อความเสียหายให้แก่ตนเองและคณะ ซึ่งมิใช่ “หลักการ-อุดมการณ์ประชาธิปไตย” แต่อย่างใด
ในขณะเดียวกัน ก็น่าสงสัยเช่นเดียวกันว่า “กลุ่มแกนนำ นปช.-เสื้อแดง” ปรารถนาที่จะให้เกิดการยุติการชุมนุมหรือไม่ ก็ต้องตอบว่า “ไม่น่าเป็นไปได้” เช่นเดียวกัน เพราะถ้าปล่อยให้การชุมนุมยืดเยื้อยาวนาน “รายได้” ก็จะไหลรินเป็นรายได้ก้อนโตอย่างต่อเนื่อง ถามว่า “แล้วเรื่องอะไรจะเลิก-แล้วเรื่องอะไรจะขาดรายได้?”
ถ้าจะว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว คงไม่ต้องสงสัยเลยว่า “กระเป๋าคุณทักษิณถูกล้วงมาหลายปีแล้ว!” และ “เหตุการณ์การชุมนุมตลอดระยะเวลา 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ มีหลายคนรวยรับเละนับ 10-100 ล้านบาทไปเรียบร้อย!”
และก็ถามต่อว่า “คุณทักษิณรู้หรือไม่?” ก็ต้องตอบว่า “รู้ดี!” แต่ที่รู้ทั้งรู้ ว่า “เลี้ยงช้างก็ต้องกินขี้ช้าง!” แต่ก็ต้องยอม เพื่อสร้างความปั่นป่วนและระบายความแค้น แต่ที่สำคัญที่สุดคือ “วลีเด็ด” ของคุณทักษิณที่ปรารภหลายครั้งกับผู้ไปเยี่ยมเยียนว่า “ถ้ากูอยู่อย่างสงบสุขไม่ได้ พวกมึงก็อย่าอยู่กันอย่างสงบสุขเลย!”
เพราะฉะนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น เปรียบเสมือนเป็น “การแสดงโรงใหญ่” จนเลยเถิดเรียกได้ว่า “ลิเก!” ได้เช่นเดียวกัน โดยนำเนื้อเรื่องเกี่ยวกับ “อำมาตย์-ไพร่” ที่นำมาสนองอารมณ์กับบรรยากาศและความรู้สึกของพี่น้องประชาชนระดับรากหญ้าที่ยากจน ทั้งในชนบทและในเมืองหลวงที่นิยมชมชอบดูละครจักรๆ วงศ์ๆ
และที่สำคัญที่สุด คือ “ความมั่งคั่ง” ที่เงินในกระเป๋าอู้ฟู่ของกลุ่มผู้แสดงหลักที่ปรารถนาความยืดเยื้อ ส่วนคุณทักษิณนั้น “มั่งคั่ง-สะใจ” ที่มี “กลุ่มผู้แสดงชำระแค้นแทนตน” และ “กระเป๋าฉีก!”
ซึ่งนี่คือ “ธาตุแท้” ของคุณทักษิณ!