“อรรคพล” ลุย ปรับโครงสร้าง สสปน. คล้อยตามแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี เน้น ทำงานแบบบูรณาการเป็นหนึ่งเดียว ดันอุตสาหกรรมไมซ์ทั้งระบบทั้ง M,I,C,E และโดเมสติกไมซ์ พร้อมประชาสัมพันธ์รวมศูนย์ ต่างจากอดีตที่แยกส่วนกันทำงาน คาด 3 เดือน พร้อมทั้งระบบ ด้านงบประมาณปี 54 ตั้งขอ 1.4 พันล้านบาท ตามตัวเลขตลาดไมซ์ที่คาดว่าจะเติบโต 20-25% ปีหน้า
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างการทำงานขององค์กรเพื่อให้การทำงานมีความคล่องตัว มีความเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น คาดว่า จะนำเสนอคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด) ภายในเดือนมี.ค.นี้ เพื่อเตรียมประกาศใช้ภายใน 3 เดือนนับจากนี้
โครงสร้างใหม่จะสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี ของ สสปน. ที่ดำเนินการอยู่ขณะนี้ด้วย
รูปแบบการทำงานของโครงสร้างใหม่ จะเน้นทำงานให้มีเป้าหมายรวมกัน ไม่แยกตลาดกันเด็ดขาดเหมือนที่ผ่านมา กล่าว คือ มิตติ้ง อินเซนทีฟ , คอนเวนชั่น และเอ็กซิบิชั่น (MICE) พร้อมแต่งตั้งตัวแทนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยจะมองหาคนไทยในต่างประเทศให้เป็นตัวแทนของ สสปน. เพราะเห็นว่า คนไทยที่อยู่ต่างประเทศ จะมีความเข้าใจทั้ง 2 ภาษาคือ ภาษาไทย และ ภาษาถิ่นในต่างประเทศ
ทำให้การสื่อสารกับคนในถิ่นหรือในประเทศนั้นๆ ให้เข้าใจได้ดี เพราะเชื่อว่าคนไทยจะสนับสนุนคนไทยด้วยกัน เป็นการสร้างมิติในการแนะนำประเทศไทยอีกหนึ่งรูปแบบใหม่
“การทำงานของ สสปน.ตามโครงสร้างใหม่ เราจะผลักดันภาพลักษณ์องค์กรให้เป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมธุรกิจไมซ์ให้แก่ภาคเอกชน เสมือนเป็นการช่วยเหลือหรือเปิดตลาดให้แก่เอกชนมากกว่าที่จะเป็นหน่วยงามที่ควบคุมอุตสาหกรรมไมซ์ทั้งระบบ โดยสสปน.เน้นทำงานร่วมกับเอกชน ทั้ง สมาคมการแสดงสินค้า(ไทย) สมาคมโรงแรมไทย และ สมาคมส่งเสริมประชุมนานาชาติ(ไทย)”
นายอรรคพล กล่าว
นายอรรคพล กล่าวต่อว่า โครงสร้างใหม่ของ สสปน. เอ็กซิบิชั่น(E) จะมีอยู่ใน คอนเวนชั่นด้วย เพราะจากข้อมูลที่ศึกษามาพบว่า การจัดงานยุคสัมยนี้ จะมีทั้งเอ็กซิบิชั่น และ คอนเวนชั่นอยู่ภายใต้งานเดียวกัน ส่วน โดเมสติกไมซ์ ก็จะนำมารวมอยู่ในการทำงานด้วย เพราะล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(กพร.) ระบุว่า
ให้นำผลงานส่งเสริมโดเมสติกไมซ์มาเป็นตัวชี้วัดและประเมินผลงาน(เคพีไอ) ด้วย
ด้านงบประมาณ เมื่อบูรณาการการทำงาน MICE ร่วม กัน จะเกิดการประหยัดการใช้งบประมาณ เพราะ จะมีฝ่ายประชาสัมพันธ์องค์กรเป็นหนึ่งเดียวไม่แยกเป็นแต่ละหน่วยงานเหมือนในอดีต
สำหรับงบประมาณปี 2554 สสปน. เสนอขอไปที่วงเงิน 1,400 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2553 ราว 20% ตามสัดส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยวไมซ์ ที่ตั้งเป้าหมายปีหน้าจะเติบโต 20-25% จากปีนี้ด้วยเช่นกัน
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างการทำงานขององค์กรเพื่อให้การทำงานมีความคล่องตัว มีความเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น คาดว่า จะนำเสนอคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด) ภายในเดือนมี.ค.นี้ เพื่อเตรียมประกาศใช้ภายใน 3 เดือนนับจากนี้
โครงสร้างใหม่จะสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี ของ สสปน. ที่ดำเนินการอยู่ขณะนี้ด้วย
รูปแบบการทำงานของโครงสร้างใหม่ จะเน้นทำงานให้มีเป้าหมายรวมกัน ไม่แยกตลาดกันเด็ดขาดเหมือนที่ผ่านมา กล่าว คือ มิตติ้ง อินเซนทีฟ , คอนเวนชั่น และเอ็กซิบิชั่น (MICE) พร้อมแต่งตั้งตัวแทนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยจะมองหาคนไทยในต่างประเทศให้เป็นตัวแทนของ สสปน. เพราะเห็นว่า คนไทยที่อยู่ต่างประเทศ จะมีความเข้าใจทั้ง 2 ภาษาคือ ภาษาไทย และ ภาษาถิ่นในต่างประเทศ
ทำให้การสื่อสารกับคนในถิ่นหรือในประเทศนั้นๆ ให้เข้าใจได้ดี เพราะเชื่อว่าคนไทยจะสนับสนุนคนไทยด้วยกัน เป็นการสร้างมิติในการแนะนำประเทศไทยอีกหนึ่งรูปแบบใหม่
“การทำงานของ สสปน.ตามโครงสร้างใหม่ เราจะผลักดันภาพลักษณ์องค์กรให้เป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมธุรกิจไมซ์ให้แก่ภาคเอกชน เสมือนเป็นการช่วยเหลือหรือเปิดตลาดให้แก่เอกชนมากกว่าที่จะเป็นหน่วยงามที่ควบคุมอุตสาหกรรมไมซ์ทั้งระบบ โดยสสปน.เน้นทำงานร่วมกับเอกชน ทั้ง สมาคมการแสดงสินค้า(ไทย) สมาคมโรงแรมไทย และ สมาคมส่งเสริมประชุมนานาชาติ(ไทย)”
นายอรรคพล กล่าว
นายอรรคพล กล่าวต่อว่า โครงสร้างใหม่ของ สสปน. เอ็กซิบิชั่น(E) จะมีอยู่ใน คอนเวนชั่นด้วย เพราะจากข้อมูลที่ศึกษามาพบว่า การจัดงานยุคสัมยนี้ จะมีทั้งเอ็กซิบิชั่น และ คอนเวนชั่นอยู่ภายใต้งานเดียวกัน ส่วน โดเมสติกไมซ์ ก็จะนำมารวมอยู่ในการทำงานด้วย เพราะล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(กพร.) ระบุว่า
ให้นำผลงานส่งเสริมโดเมสติกไมซ์มาเป็นตัวชี้วัดและประเมินผลงาน(เคพีไอ) ด้วย
ด้านงบประมาณ เมื่อบูรณาการการทำงาน MICE ร่วม กัน จะเกิดการประหยัดการใช้งบประมาณ เพราะ จะมีฝ่ายประชาสัมพันธ์องค์กรเป็นหนึ่งเดียวไม่แยกเป็นแต่ละหน่วยงานเหมือนในอดีต
สำหรับงบประมาณปี 2554 สสปน. เสนอขอไปที่วงเงิน 1,400 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2553 ราว 20% ตามสัดส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยวไมซ์ ที่ตั้งเป้าหมายปีหน้าจะเติบโต 20-25% จากปีนี้ด้วยเช่นกัน