พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการเปิดสัมมนาทางวิชาการโครงการประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ ว่า โครงการนี้เป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่จะเร่งรัดมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยการดำเนินการร่วมกันระหว่างรัฐและเอกชนในการประชาสัมพันธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งจากต่างชาติและคนไทยให้ท่องเที่ยวในประเทศ
พล.ต.สนั่น กล่าวว่า การส่งเสริมการจัดสัมมนา จัดแสดงสินค้านานาชาติ หรืออุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) เป็นธุรกิจประเภทหนึ่งที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดินทางที่มีคุณภาพ ที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศปีละกว่า 50,000 ล้านบาท และมีอัตราการขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 20 ซึ่งรัฐบาลได้ส่งเสริมโครงการไทยเที่ยวไทยด้วยการลดหย่อนค่าธรรมเนียมและค่าบริการที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดให้มีการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการจัดประชุมสัมมนาที่บริษัทต่าง ๆ สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักภาษีได้ 2 เท่า และหลังจากที่ พ.ร.ก.การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ 400,000 ล้านบาทประกาศใช้ จะมีการนำเงินส่วนหนึ่งมาส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ด้วย
ด้าน ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานกรรมการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและการนิทรรศการ (สสปน.) กล่าวว่า ผลพวงจากพิษเศรษฐกิจโลกและการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 รวมทั้งปัญหาการเมืองในประเทศ ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไมซ์ ทำให้ สสปน.ต้องปรับเป้าหมายรายได้อุตสาหกรรมไมซ์ลดลงจาก 77,000 ล้านบาท เหลือประมาณ 50,000 ล้านบาท และได้ทำโครงการส่งเสริมจัดประชุมสัมมนาในประเทศมากขึ้น เช่น โครงการประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ รวมถึงโครงการปิดทองหลังพระ ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศประมาณ 25,000 ล้านบาท แต่ที่สำคัญจะทำให้ประชาชนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการมีรายได้เพิ่มขึ้น
พล.ต.สนั่น กล่าวว่า การส่งเสริมการจัดสัมมนา จัดแสดงสินค้านานาชาติ หรืออุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) เป็นธุรกิจประเภทหนึ่งที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดินทางที่มีคุณภาพ ที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศปีละกว่า 50,000 ล้านบาท และมีอัตราการขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 20 ซึ่งรัฐบาลได้ส่งเสริมโครงการไทยเที่ยวไทยด้วยการลดหย่อนค่าธรรมเนียมและค่าบริการที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดให้มีการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการจัดประชุมสัมมนาที่บริษัทต่าง ๆ สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักภาษีได้ 2 เท่า และหลังจากที่ พ.ร.ก.การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ 400,000 ล้านบาทประกาศใช้ จะมีการนำเงินส่วนหนึ่งมาส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ด้วย
ด้าน ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานกรรมการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและการนิทรรศการ (สสปน.) กล่าวว่า ผลพวงจากพิษเศรษฐกิจโลกและการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 รวมทั้งปัญหาการเมืองในประเทศ ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไมซ์ ทำให้ สสปน.ต้องปรับเป้าหมายรายได้อุตสาหกรรมไมซ์ลดลงจาก 77,000 ล้านบาท เหลือประมาณ 50,000 ล้านบาท และได้ทำโครงการส่งเสริมจัดประชุมสัมมนาในประเทศมากขึ้น เช่น โครงการประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ รวมถึงโครงการปิดทองหลังพระ ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศประมาณ 25,000 ล้านบาท แต่ที่สำคัญจะทำให้ประชาชนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการมีรายได้เพิ่มขึ้น