ASTVผู้จัดการรายวัน – “ธอมัสไอเดีย” เผย ดิจิตอลแบรนด์ดิ้งพุ่งแรง ไม่แพ้การซื้อสื่อบนออนไลน์ ช่วยกระตุ้นยอดขาย พร้อมโกอินเตอร์ง่ายขึ้น พบแบรนด์ไทยให้ความสำคัญสูง กลุ่มคอนซูเมอร์โปรดักส์เทงบใช้หนักสุด มั่นใจสิ้นปีรายได้เติบโตแน่ 20% เท่าปีก่อน
นางสาวอุไรพร ชลสิริรุ่งสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ธอมัสไอเดีย จำกัด ผู้ให้บริการอินเตอร์แอคทีฟเอเจนซี่ในการวางกลยุทธ์บนสื่อออนไลน์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า ปัจจุบันสื่ออินเทอร์เน็ตหรือสื่อออนไลน์กำลังมีบทบาทที่สำคัญมาก ซึ่งในต่างประเทศได้นำเอาสื่อนี้มาใช้ประโยชน์ในการสร้างแบรนด์ในรูปแบบที่หลากหลาย โดยเฉพาะในเรื่องของดิจิตอลแบรนด์ดิ้งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดในการสร้างแบรนด์บนโลกไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดในขณะนี้
สำหรับดิจิตอลแบรนด์ดิ้ง หมายถึง แบรนด์สินค้าต่างๆที่สามารถมีชื่อเสียงได้ด้วยตัวของมันเองบนโลกไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็น อีเบย์, อเมซอน หรือกูเกิ้ล ส่งผลให้ต่างประเทศเล็งเห็นความสำคัญของการสร้างแบรนด์บนสื่ออินเทอร์เน็ตสูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่ใช้งบค่อนข้างสูงในการทำดิจิตอลแบรนด์ดิ้ง ไม่ว่าจะเป็น โคคาโคล่า, ไอบีเอ็ม, ไมโครซอฟท์ หรือ จีอี โนเกีย และแมคโดนัลด์
โดยรูปแบบของการทำดิจิตอลแบรนด์ดิ้งนั้น มีหลายรูปแบบ เช่น แบรนด์เอ็กซ์พีเรียนท์ กับการให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมและเข้ามาแชร์ในเว็บดังกล่าวในรูปแบบต่างๆ, แบรนด์โคปอเรท กับการทำให้เว็บไซต์องค์กรเป็นมากกว่าคำว่าเว็บไซต์ และแบรนด์อินเตอร์แรกทีฟ แคมเปญ กับการนำเอาแต่ละแคมเปญมาเล่นบนเว็บไซต์
นางสาวอุไรพร กล่าวต่อว่า จุดเด่นของการทำดิจิตอลแบรนด์ดิ้งนี้ พบว่า เป็นสื่อที่สามารถนำไปใช้หรือเข้าถึงผู้บริโภคได้ทั่วโลก ดังนั้นหากแบรนด์ไทยที่ต้องการบุกต่างประเทศ ควรให้ความสำคัญกับดิจิตอลแบรนด์ดิ้ง เพราะถือเป็นเครื่องมือที่ไม่ควรมองข้าม ลงทุนไม่สูงมากอีกทั้งเป็นสื่อที่มีความเป็นอินเตอร์แรกทีฟที่จะส่งผลต่อแบรนด์ทำให้ผู้บริโภคเกิดความผูกพันกับแบรนด์ ที่สำคัญเป็นสื่อที่ใช้วัดผลได้
อย่างไรก็ตามสำหรับประเทศไทยนั้น พบว่าเทรนด์การหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องของดิจิตอลแบรนด์ดิ้งมีมากขึ้นในปีนี้ จากปกติจะเน้นการซื้อโฆษณาบนสื่ออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งแนวโน้มในปีนี้พบว่า กลุ่มคอนซูเมอร์โปรดักส์หันมาเล่นเรื่องดิจิตอลแบรนด์ดิ้งมากขึ้น รวมไปถึงกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ และรถยนต์ ซึ่งปีนี้ยังพบด้วยว่า
กลุ่มสถาบันการเงินเป็นกลุ่มที่เข้ามาเล่นเรื่องดิจิตอลแบรนด์ดิ้งสูงขึ้นด้วย
ด้านนางสาวอารยา เช้ากระจ่าง กรรมการบริหารและที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท ธอมัสไอเดีย จำกัด กล่าวต่อว่า สำหรับลูกค้าของธอมัสไอเดีย จากปัจจุบันมีทั้งสิ้น 20 แบรนด์ มีทั้งอินเตอร์แบรนด์ 50% และโลคอลแบรนด์ 50% เท่ากัน พบว่าปีนี้โยกงบมาใช้ในส่วนของดิจิตอลแบรนด์ดิ้งสูงขึ้นตั้งแต่ 10-100% เชื่อว่าจะส่งผลให้สิ้นปีนี้บริษัทจะมีรายได้เติบโตขึ้นอีก 20% เช่นเดียวกับในปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน จากผลสำรวจของทางนีลสัน พบว่า ปี 2551 ประเทศไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ 16.1 ล้านคน ใช้เน็ตผ่านมือถือ 6.5 ล้านคน โดยส่วนใหญ่กว่า 52.3% จะเล่นเน็ตที่บ้าน ให้เวลาในการเล่นเน็ตมากสุดในช่วง 20.00-24.00น. โดยกิจกรรมที่เข้ามาใช้เน็ตสูงสุด คือ ค้นหาข้อมูล 29.7% อีเมลล์ 21.9% ติดตามข่าวสาร 9.3% และอีเลิร์นนิ่ง 8.0%ซึ่งปีนี้ทั้งปีมองว่าตัวเลขการซื้อสื่ออินเทอร์เนตจะอยู่ที่ 2% ของมูลค่าตลาดโฆษณารวม โดยในส่วนของดิจิตอลแบรนด์ดิ้งนั้น จะเป็นงบที่อยู่ในส่วนของโควปอเรท มากกว่ามาร์เก็ตติ้ง จึงไม่นับรวมกัน
นางสาวอุไรพร ชลสิริรุ่งสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ธอมัสไอเดีย จำกัด ผู้ให้บริการอินเตอร์แอคทีฟเอเจนซี่ในการวางกลยุทธ์บนสื่อออนไลน์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า ปัจจุบันสื่ออินเทอร์เน็ตหรือสื่อออนไลน์กำลังมีบทบาทที่สำคัญมาก ซึ่งในต่างประเทศได้นำเอาสื่อนี้มาใช้ประโยชน์ในการสร้างแบรนด์ในรูปแบบที่หลากหลาย โดยเฉพาะในเรื่องของดิจิตอลแบรนด์ดิ้งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดในการสร้างแบรนด์บนโลกไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดในขณะนี้
สำหรับดิจิตอลแบรนด์ดิ้ง หมายถึง แบรนด์สินค้าต่างๆที่สามารถมีชื่อเสียงได้ด้วยตัวของมันเองบนโลกไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็น อีเบย์, อเมซอน หรือกูเกิ้ล ส่งผลให้ต่างประเทศเล็งเห็นความสำคัญของการสร้างแบรนด์บนสื่ออินเทอร์เน็ตสูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่ใช้งบค่อนข้างสูงในการทำดิจิตอลแบรนด์ดิ้ง ไม่ว่าจะเป็น โคคาโคล่า, ไอบีเอ็ม, ไมโครซอฟท์ หรือ จีอี โนเกีย และแมคโดนัลด์
โดยรูปแบบของการทำดิจิตอลแบรนด์ดิ้งนั้น มีหลายรูปแบบ เช่น แบรนด์เอ็กซ์พีเรียนท์ กับการให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมและเข้ามาแชร์ในเว็บดังกล่าวในรูปแบบต่างๆ, แบรนด์โคปอเรท กับการทำให้เว็บไซต์องค์กรเป็นมากกว่าคำว่าเว็บไซต์ และแบรนด์อินเตอร์แรกทีฟ แคมเปญ กับการนำเอาแต่ละแคมเปญมาเล่นบนเว็บไซต์
นางสาวอุไรพร กล่าวต่อว่า จุดเด่นของการทำดิจิตอลแบรนด์ดิ้งนี้ พบว่า เป็นสื่อที่สามารถนำไปใช้หรือเข้าถึงผู้บริโภคได้ทั่วโลก ดังนั้นหากแบรนด์ไทยที่ต้องการบุกต่างประเทศ ควรให้ความสำคัญกับดิจิตอลแบรนด์ดิ้ง เพราะถือเป็นเครื่องมือที่ไม่ควรมองข้าม ลงทุนไม่สูงมากอีกทั้งเป็นสื่อที่มีความเป็นอินเตอร์แรกทีฟที่จะส่งผลต่อแบรนด์ทำให้ผู้บริโภคเกิดความผูกพันกับแบรนด์ ที่สำคัญเป็นสื่อที่ใช้วัดผลได้
อย่างไรก็ตามสำหรับประเทศไทยนั้น พบว่าเทรนด์การหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องของดิจิตอลแบรนด์ดิ้งมีมากขึ้นในปีนี้ จากปกติจะเน้นการซื้อโฆษณาบนสื่ออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งแนวโน้มในปีนี้พบว่า กลุ่มคอนซูเมอร์โปรดักส์หันมาเล่นเรื่องดิจิตอลแบรนด์ดิ้งมากขึ้น รวมไปถึงกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ และรถยนต์ ซึ่งปีนี้ยังพบด้วยว่า
กลุ่มสถาบันการเงินเป็นกลุ่มที่เข้ามาเล่นเรื่องดิจิตอลแบรนด์ดิ้งสูงขึ้นด้วย
ด้านนางสาวอารยา เช้ากระจ่าง กรรมการบริหารและที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท ธอมัสไอเดีย จำกัด กล่าวต่อว่า สำหรับลูกค้าของธอมัสไอเดีย จากปัจจุบันมีทั้งสิ้น 20 แบรนด์ มีทั้งอินเตอร์แบรนด์ 50% และโลคอลแบรนด์ 50% เท่ากัน พบว่าปีนี้โยกงบมาใช้ในส่วนของดิจิตอลแบรนด์ดิ้งสูงขึ้นตั้งแต่ 10-100% เชื่อว่าจะส่งผลให้สิ้นปีนี้บริษัทจะมีรายได้เติบโตขึ้นอีก 20% เช่นเดียวกับในปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน จากผลสำรวจของทางนีลสัน พบว่า ปี 2551 ประเทศไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ 16.1 ล้านคน ใช้เน็ตผ่านมือถือ 6.5 ล้านคน โดยส่วนใหญ่กว่า 52.3% จะเล่นเน็ตที่บ้าน ให้เวลาในการเล่นเน็ตมากสุดในช่วง 20.00-24.00น. โดยกิจกรรมที่เข้ามาใช้เน็ตสูงสุด คือ ค้นหาข้อมูล 29.7% อีเมลล์ 21.9% ติดตามข่าวสาร 9.3% และอีเลิร์นนิ่ง 8.0%ซึ่งปีนี้ทั้งปีมองว่าตัวเลขการซื้อสื่ออินเทอร์เนตจะอยู่ที่ 2% ของมูลค่าตลาดโฆษณารวม โดยในส่วนของดิจิตอลแบรนด์ดิ้งนั้น จะเป็นงบที่อยู่ในส่วนของโควปอเรท มากกว่ามาร์เก็ตติ้ง จึงไม่นับรวมกัน
