ASTVผู้จัดการรายวัน - กลุ่ม 40 ส.ว. จี้ “วิระยา ชวกุล” คืนเครื่องราชย์ฯ หลังสมคบ “นช.แม้ว” แฉไม่ได้เข้าวังนานแล้ว พร้อมออกโรง แถลงห่วงสถานการณ์บ้านเมือง "สมชาย" ยันมีข่าววินาศกรรมจริงวอนรัฐจัดรถส่งผู้ชุมนุมกลับบ้าน จี้เร่งตามเหตุปาบึ้ม ยันพร้อมหนุนอภิปรายไม่ลงมติ หากสถานการณ์คลี่คลาย "อนุศักดิ์" เตือนพราหมณ์จุ่มเลือดระวังติดโรค แนะแพทยสภาสอบหมอแวมไพร์ เหมาะหรือไม่ "วรินทร์" จวก พระชุมนุม ทำพิธีข่มดวงวิญญาณ สาดเลือดใส่ทหาร ผิดวินัย ใช้เดรัจฉานวิชา มอมเมาประชาชน จี้มหาเถรสอบ
วานนี้ (17 มี.ค.) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา กลุ่ม 40 ส.ว. นำโดย นายสมชาย แสวงการ นายวรินทร์ เทียมจรัส นายอนุศักดิ์ คงมาลัย ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต ส.ว.สรรหา น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ร่วมกันแถลงข่าวแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมือง
ม.ร.ว.ปรียนันทนา กล่าวถึง ความเหมาะสมกรณีที่ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่า เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า เดิมพระราชทานแด่กับพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายใน จึงมีจารึกบนดวงตราว่าเราจะทำนุบำรุงวงศ์ตระกูลของเราให้เจริญ ต่อมาได้ขยายพระราชทานแด่สตรีสามัญผู้บำเพ็ญประโยชน์ด้วย เมื่อท่านผู้หญิงวิริยา ชวกุล เลือกที่จะขึ้นเวทีสนับสนุนพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวอย่างโจ่งแจ้งแล้ว ควรจะถวายคืนเครื่องราชฯและเลิกอ้างพระองค์ท่านได้แล้วเพราะไม่ได้เข้าไปในวังนานแล้ว
ด้านานายสมชาย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ที่ผ่านมาพบเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างระมัดระวัง ไม่ให้เกิดเหตุร้ายกับผู้ชุมนุม ซึ่งทางกลุ่ม 40 ส.ว.อยากให้เฝ้าระวังกลุ่มที่นิยมความรุนแรง ที่อาจสร้างสถานการณ์ ซึ่งตนได้ประสานกับหน่วยงานด้านการข่าวของรัฐหลายหน่วย ยังคงยืนยันข้อมูลที่จะมีกลุ่มก่อเหตุวินาศกรรม อย่างการวางเพลิง การวางระเบิดบ้านบุคคลสำคัญ และหน่วยงานราชการต่างๆ ขณะนี้ทราบว่าทางกลุ่มผู้ชุมนุมอีก 4 พันคน ได้ทยอยเดินทางกลับบ้าน เหลืออีก 1 หมื่นคนเศษ ดังนั้นอยากให้รัฐบาลจัดรถ พร้อมน้ำ อาหารส่งผู้ชุมนุมเหล่านี้กลับบ้านด้วย
ทั้งนี้ อยากให้รัฐบาลเร่งรัดการติดตามขยายผลคดีก่อวินาศกรรมที่ผ่านมา ทั้งคดีการขว้างระเบิดเข้าใส่ธนาคารกรุงเทพ สาขาต่างๆ การยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (พัน1 ร.1 รอ.) บ้านนักธุรกิจที่อยู่ใกล้บ้านนายอักขราธร จุฬารัตน์ ประธานศาลปกครองสูงสุด ที่ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบรอยเท้าคอมแบทใกล้ที่เกิดเหตุ เพราะขณะนี้ตำรวจดำเนินการล่าช้าเกินไป
น.ส.สุมล ในฐานะกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาล ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ถือว่าแกนนำทำเกินไป เพราะได้ใช้อาวุธชีวภาพที่ร้ายแรง คือเลือด ที่สามารถแพร่เชื้อได้ ถ้าไม่มีการล้างเชื้อแล้วจะเกิดอะไรกับคนกรุงเทพฯ ถ้าจับกุมแกนนำทุกอย่างก็จะคลี่คลายลง
นายอนุศักดิ์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข กล่าวว่า กรณีที่กลุ่มเสื้อแดงนำเลือดไปเทบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อบีบให้รัฐบาลประกาศยุบสภาว่า เลือดถือเป็นสารอินทรีย์ที่มีชีวิต การนำไปฉีดรวมกันแล้วเก็บไว้นาน 3 - 4 ชั่วโมง จะกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค อาทิ เชื้อไวรัส เชื้อเอชไอวี กามโรค การนำไปเทแบบนั้นมีโอกาสเกิดการแพร่ระบาดเชื้อสูง ซึ่งตนเห็นว่ามีการทำพิธีทางพราหมณ์ ผู้ที่ทำพิธีอาจติดเชื้อได้โดยเฉพาะหากมีบาดแผลบนผิวหนัง เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ขณะที่ผิวหนังทั่วไปแม้จะติดเชื้อยาก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสติดเชื้อ ซึ่งตนรู้สึกเป็นห่วง สำหรับกลุ่มบุคลากรวิชาชีพแพทย์และพยาบาลที่ไปทำหน้าที่เจาะเลือดให้ผู้ ชุมนุมนั้น ตนขอให้แพทย์สภาดำเนินการสอบสวนว่าพฤติกรรมดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่ ถึงแม้กรอบจริยธรรมจะทำอะไรไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เพิ่งเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่มาตรการทางสังคมก็ควรเข้ามาตรวจสอบด้วย
ด้านนายวรินทร์ กล่าวว่า ในฐานะกรรมาธิการศิลปะและวัฒนธรรม เห็นว่า การที่พระภิกษุออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ไม่ใช่กิจของสงฆ์ และยังผิดวินัย เช่น พูดว่าจะยึดเมียนายกฯมาถวายพระ รวมถึงการทำพิธีที่เป็นปรปักษ์กับรัฐ ข่ม ดวงวิญญาณเจ้าผู้ครองนคร หรือไปจับเลือดหรือสิ่งสกปรก ถือว่าไม่ควรทำอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการนำเลือดไปสาดใส่ทหาร จึงขอให้มหาเถรสมาคมออกมาสอบสวนและดำเนินการทางวินัย เพราะถือว่าเป็นเดรัจฉานวิชา เดรัจฉานคาถา การนำเลือดมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ถือเป็นการมอมเมาประชาชน ไม่ใช่สิ่งที่ชาวพุทธต้องทำ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรวจสอบว่าเป้าหมายต้องการอะไร ใครเป็นคนสั่ง ที่บอกว่า ต้องเอาเลือดล้างแผ่น ความจริงต้องเป็นเลือดชั่วมาล้างแผ่นดิน คนดีเขาไม่ทำ ซึ่งเป็นการดึงศักดิ์ศรีของมนุษย์ให้ต่ำลง
วานนี้ (17 มี.ค.) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา กลุ่ม 40 ส.ว. นำโดย นายสมชาย แสวงการ นายวรินทร์ เทียมจรัส นายอนุศักดิ์ คงมาลัย ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต ส.ว.สรรหา น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ร่วมกันแถลงข่าวแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมือง
ม.ร.ว.ปรียนันทนา กล่าวถึง ความเหมาะสมกรณีที่ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่า เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า เดิมพระราชทานแด่กับพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายใน จึงมีจารึกบนดวงตราว่าเราจะทำนุบำรุงวงศ์ตระกูลของเราให้เจริญ ต่อมาได้ขยายพระราชทานแด่สตรีสามัญผู้บำเพ็ญประโยชน์ด้วย เมื่อท่านผู้หญิงวิริยา ชวกุล เลือกที่จะขึ้นเวทีสนับสนุนพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวอย่างโจ่งแจ้งแล้ว ควรจะถวายคืนเครื่องราชฯและเลิกอ้างพระองค์ท่านได้แล้วเพราะไม่ได้เข้าไปในวังนานแล้ว
ด้านานายสมชาย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ที่ผ่านมาพบเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างระมัดระวัง ไม่ให้เกิดเหตุร้ายกับผู้ชุมนุม ซึ่งทางกลุ่ม 40 ส.ว.อยากให้เฝ้าระวังกลุ่มที่นิยมความรุนแรง ที่อาจสร้างสถานการณ์ ซึ่งตนได้ประสานกับหน่วยงานด้านการข่าวของรัฐหลายหน่วย ยังคงยืนยันข้อมูลที่จะมีกลุ่มก่อเหตุวินาศกรรม อย่างการวางเพลิง การวางระเบิดบ้านบุคคลสำคัญ และหน่วยงานราชการต่างๆ ขณะนี้ทราบว่าทางกลุ่มผู้ชุมนุมอีก 4 พันคน ได้ทยอยเดินทางกลับบ้าน เหลืออีก 1 หมื่นคนเศษ ดังนั้นอยากให้รัฐบาลจัดรถ พร้อมน้ำ อาหารส่งผู้ชุมนุมเหล่านี้กลับบ้านด้วย
ทั้งนี้ อยากให้รัฐบาลเร่งรัดการติดตามขยายผลคดีก่อวินาศกรรมที่ผ่านมา ทั้งคดีการขว้างระเบิดเข้าใส่ธนาคารกรุงเทพ สาขาต่างๆ การยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (พัน1 ร.1 รอ.) บ้านนักธุรกิจที่อยู่ใกล้บ้านนายอักขราธร จุฬารัตน์ ประธานศาลปกครองสูงสุด ที่ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบรอยเท้าคอมแบทใกล้ที่เกิดเหตุ เพราะขณะนี้ตำรวจดำเนินการล่าช้าเกินไป
น.ส.สุมล ในฐานะกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาล ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ถือว่าแกนนำทำเกินไป เพราะได้ใช้อาวุธชีวภาพที่ร้ายแรง คือเลือด ที่สามารถแพร่เชื้อได้ ถ้าไม่มีการล้างเชื้อแล้วจะเกิดอะไรกับคนกรุงเทพฯ ถ้าจับกุมแกนนำทุกอย่างก็จะคลี่คลายลง
นายอนุศักดิ์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข กล่าวว่า กรณีที่กลุ่มเสื้อแดงนำเลือดไปเทบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อบีบให้รัฐบาลประกาศยุบสภาว่า เลือดถือเป็นสารอินทรีย์ที่มีชีวิต การนำไปฉีดรวมกันแล้วเก็บไว้นาน 3 - 4 ชั่วโมง จะกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค อาทิ เชื้อไวรัส เชื้อเอชไอวี กามโรค การนำไปเทแบบนั้นมีโอกาสเกิดการแพร่ระบาดเชื้อสูง ซึ่งตนเห็นว่ามีการทำพิธีทางพราหมณ์ ผู้ที่ทำพิธีอาจติดเชื้อได้โดยเฉพาะหากมีบาดแผลบนผิวหนัง เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ขณะที่ผิวหนังทั่วไปแม้จะติดเชื้อยาก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสติดเชื้อ ซึ่งตนรู้สึกเป็นห่วง สำหรับกลุ่มบุคลากรวิชาชีพแพทย์และพยาบาลที่ไปทำหน้าที่เจาะเลือดให้ผู้ ชุมนุมนั้น ตนขอให้แพทย์สภาดำเนินการสอบสวนว่าพฤติกรรมดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่ ถึงแม้กรอบจริยธรรมจะทำอะไรไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เพิ่งเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่มาตรการทางสังคมก็ควรเข้ามาตรวจสอบด้วย
ด้านนายวรินทร์ กล่าวว่า ในฐานะกรรมาธิการศิลปะและวัฒนธรรม เห็นว่า การที่พระภิกษุออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ไม่ใช่กิจของสงฆ์ และยังผิดวินัย เช่น พูดว่าจะยึดเมียนายกฯมาถวายพระ รวมถึงการทำพิธีที่เป็นปรปักษ์กับรัฐ ข่ม ดวงวิญญาณเจ้าผู้ครองนคร หรือไปจับเลือดหรือสิ่งสกปรก ถือว่าไม่ควรทำอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการนำเลือดไปสาดใส่ทหาร จึงขอให้มหาเถรสมาคมออกมาสอบสวนและดำเนินการทางวินัย เพราะถือว่าเป็นเดรัจฉานวิชา เดรัจฉานคาถา การนำเลือดมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ถือเป็นการมอมเมาประชาชน ไม่ใช่สิ่งที่ชาวพุทธต้องทำ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรวจสอบว่าเป้าหมายต้องการอะไร ใครเป็นคนสั่ง ที่บอกว่า ต้องเอาเลือดล้างแผ่น ความจริงต้องเป็นเลือดชั่วมาล้างแผ่นดิน คนดีเขาไม่ทำ ซึ่งเป็นการดึงศักดิ์ศรีของมนุษย์ให้ต่ำลง