กระบี่ - ผู้ว่าฯกระบี่ สั่งหน่วยงานราชการคุมเข้มสถานที่ราชการสำคัญ รวมทั้งติดตามข่าวสารต่อเนื่อง พร้อมรายงานเหตุการณ์ในพื้นที่ทุกระยะป้องกันกลุ่มคนเสื้อแดงบุกยึดสถานที่ราชการในการตัดสินคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท
วันนี้ (26 ก.พ.) นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากการที่ทางศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้อ่านคำพิศากตัดสินคดียึดทรัพย์ จำนวน 76000 ล้านบาท ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในส่วนของจังหวัดกระบี่ ถึงแม้จะไม่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายของกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรี หรือกลุ่มคนเสื้อแดงในการก่อความไม่สงบขึ้น ทั้งบุกยึดสถานที่ราชการ หรือก่อให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่
เพื่อความปลอดภัย ตนได้มีการสั่งการให้ทางหน่วยงานราชการ ทั้งฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัคร อปพร.ร่วมสังเกตการณ์ เฝ้าระวังสถานที่ราชการ เช่น ศาลจังหวัดกระบี่ ศาลากลางจังหวัดกระบี่ สถานีตำรวจ โรงพยาบาล ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ท่าเทียบเรือ ย่านธุรกิจ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เป็นการป้องกันเหตุไว้ก่อน โดยสถานที่ราชการทุกแห่งจะมีกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ อส. อปพร. ประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองดังกล่าว ทางจังหวัดกระบี่ได้สั่งการณ์เจ้าหน้าที่ ทุกหน่วยงานราชการ รวมทั้งภาคเอกชน ประชนชน ต้องติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาหากพบเหตุที่ไม่พึงประสงค์ รายงานมายังจังหวัดกระบี่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความไม่ประมาท ทางจังหวัดกระบี่จำเป็นที่จะต้องดูแลพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง หรือการบุกยึดสถานที่ราชการที่สำคัญเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนและภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังจังหวัดกระบี่อย่างต่อเนื่อง
“จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเคลื่อนไหวแต่อย่างใด”
วันนี้ (26 ก.พ.) นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากการที่ทางศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้อ่านคำพิศากตัดสินคดียึดทรัพย์ จำนวน 76000 ล้านบาท ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในส่วนของจังหวัดกระบี่ ถึงแม้จะไม่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายของกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรี หรือกลุ่มคนเสื้อแดงในการก่อความไม่สงบขึ้น ทั้งบุกยึดสถานที่ราชการ หรือก่อให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่
เพื่อความปลอดภัย ตนได้มีการสั่งการให้ทางหน่วยงานราชการ ทั้งฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัคร อปพร.ร่วมสังเกตการณ์ เฝ้าระวังสถานที่ราชการ เช่น ศาลจังหวัดกระบี่ ศาลากลางจังหวัดกระบี่ สถานีตำรวจ โรงพยาบาล ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ท่าเทียบเรือ ย่านธุรกิจ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เป็นการป้องกันเหตุไว้ก่อน โดยสถานที่ราชการทุกแห่งจะมีกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ อส. อปพร. ประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองดังกล่าว ทางจังหวัดกระบี่ได้สั่งการณ์เจ้าหน้าที่ ทุกหน่วยงานราชการ รวมทั้งภาคเอกชน ประชนชน ต้องติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาหากพบเหตุที่ไม่พึงประสงค์ รายงานมายังจังหวัดกระบี่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความไม่ประมาท ทางจังหวัดกระบี่จำเป็นที่จะต้องดูแลพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง หรือการบุกยึดสถานที่ราชการที่สำคัญเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนและภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังจังหวัดกระบี่อย่างต่อเนื่อง
“จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเคลื่อนไหวแต่อย่างใด”
