ASTVผู้จัดการรายวัน- ศอ.รส. ยอมรับข่าวเตือนระวังลอบสังหารนายกฯมีจริง ตำรวจทหารอารักขาเข้ม นครบาล รับมี 5-6 กลุ่มหมายสังหารนายกฯและบุคคลสำคัญ “หมอพรทิพย์” ตั้งชุดเคลื่อนที่เร็ว รับมือเหตุรุนแรง ส่วนเหตุยิงเอ็ม 79 ฟันธงต้องการก่อกวนสร้างสถานการณ์ทางการเมือง
วานนี้( 17 มี.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดงประกาศจะเอาเลือด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มาล้างเท้า ว่า ข่าวที่เกี่ยวกับการลอบสังหารหรือการลอบทำร้ายนายกรัฐมนตรี นั้นมีมาตลอดก็เป็นเหตุผลที่ต้องมาพักที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ โดยเราก็ต้องระมัดระวังตลอดเวลา เพราะฝ่ายข่าวได้เตือนนายกรัฐมนตรีมาตลอด
เมื่อถามว่าแหล่งข่าวที่เตือนมานั้นเชื่อถือได้หรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า จากหน่วยงานทั้งหลายที่ทำหน้าที่ด้านการข่าวก็เตือนมา นายกรัฐมนตรี เองก็พยายามระมัดระวังและเหตุการณ์ขณะนี้แกนนำผู้ชุมนุมเริ่มแตกคอกันและกลุ่มที่นิยมความรุนแรงเริ่มมีบทบาทในการนำมากขึ้น เราก็กังวลว่าเหตุการณ์รุนแรงมีโอกาสจะเกิดขึ้นได้
**นายกฯไม่พูดข่าวลอบสังหาร**
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังเดินทางกลับจากงานพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.อ.สมเพียร เกสมญา ผกก.บันนังสตา จ.ยะลา ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ถึงการเสนอให้เปลี่ยนตัวแกนนำคนเสื้อแดง โดยมาเป็นแกนนำแนวฮาร์ดคอร์แทน และจะทำให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้นหรือไม่ ว่า "ยังไม่ทราบเลยครับ"
เมื่อถามอีกว่านายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯและกรรมการ ศอ.รส.ระบุว่ามีกระแสข่าวว่าจะมีการลอบสังหารบุคคลสำคัญในบ้านเมือง ปรากฏว่า นายอภิสิทธิ์ ไม่ตอบคำถามนี้ และเดินขึ้นรถทันที โดยขบวนรถของนายกรัฐมนตรี มุ่งหน้าไปยังกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์
**อารักขาเข้มนายกฯ**
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในที่บริเวณ กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก(ขส.ทบ.)ปรากฏว่ามีการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ(หน่วยล่วงหน้า) มาดูแล และสังเกตการณ์ตามจุดต่างๆก่อนที่จะเข้าไปยังสนามบินขส.ทบ. อาทิ บริเวณปั๊มปตท. สะพานใหม่ ฝั่งตรงข้ามทางเข้ากองทัพอากาศ และบริเวณปั๊มเอ็นจีวี ภายในกองทัพอากาศ หน้าทางเข้าสนามบิน โดยเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าบริเวณดังกล่าวทั้งก่อนไป หลังกลับจาก จ.สงขลา รวมทั้งบริเวณภายในสนามบินก็ยังมีเจ้าหน้าที่ทหารในชุดพรางพร้อมปืน M 16 ยืนดูแลนายอภิสิทธิ์ อยู่เป็นระยะๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจะเป็นคนละชุดกับเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยนายอภิสิทธิ์ ที่มีอยู่ตามปกติ
**ตร.รับมี 5-6 กลุ่มหมายชีวิตนายกฯ**
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงกรณี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯและกรรมการ ศอ.รส.ระบุว่า มีกระแสข่าวว่าจะมีการลอบสังหารนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และบุคคลสำคัญในบ้านเมืองว่า หน่วยข่าวกรองภายในประเทศได้มีการแจ้งเตือนมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาลเหมือนกัน ทางเจ้าหน้าที่มีแผนรองรับการดูแลรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญไว้แล้วตั้งแต่การออกตรวจพิเศษ การดูจุดสูงข่ม การยิงอาวุธวิถีโค้ง และมาตรการรักษาความปลอดภัยในด้านอื่นๆทางเจ้าหน้าที่มีแผนรองรับไว้หมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการระบุกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่จะลอบสังหารนายกหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้มีการจับตากลุ่มผู้ต้องสงสัยประมาณ 5-6 กลุ่ม ที่เคยก่อเหตุและสร้างสถานการณ์ความรุนแรงป่วนบ้านเมืองในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ไม่สามารถเปิดเผยได้
สำหรับการเฝ้าระวังติดตามกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่คอยสร้างสถานการณ์ต่างๆ เจ้าหน้าที่ติดตามอย่างใกล้ชิด และคอยดูแลแจ้งทุกหน่วยให้เพิ่มความเข้มในการตรวจพื้นที่ในช่วงเวลากลางคืน โดยมีการตั้งจุดตรวจทั้งสิ้น 24 จุด ทั่ว กทม. ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่พื้นที่ชั้นใน จำนวน 6 จุด พื้นที่ชั้นกลาง จำนวน 10 จุด และพื้นที่ชั้นนอก จำนวน 8 จุด โดยเน้นตรวจบุคคล ยานพาหนะ สิ่งแปลกปลอมต่างๆที่สามารถก่อเหตุได้ และคอยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เพิ่มสายตรวจเพื่อมาเสริมในการดูแลป้องกันเหตุต่างๆ และจัดให้มีชุดเคลื่อนที่เร็ว อีก 400 นาย มาดูแลหากเกิดเหตุ
**“หมอพรทิพย์”ตั้งชุดรับมือเหตุรุนแรง**
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า ได้จัดชุดเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็วจำนวน 3 ชุดๆ ละ 10 คน ประกอบด้วย แพทย์ และเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ ที่จะรับมือกับเหตุรุนแรงต่างๆ หากเกิดขึ้นกับการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง โดยชุดเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็วมีศักยภาพในการตรวจลายนิ้วมือ ดีเอ็นเอ เขม่าดินปืน และระเบิด และพร้อมปฏิบัติการตรวจสถานที่เกิดเหตุในจุดต่างๆ ได้ภายใน 15 นาที
จากการตรวจสอบของสถาบัน เป็นการตรวจโดยใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง และได้เตรียมพร้อมห้องแล็บตลอด 24 ชั่วโมง ในการตรวจพิสูจน์ทั้งดีเอ็นเอและสารชนิดต่างๆ
สำหรับการตรวจเอ็ม 79 สถาบันจะใช้เครื่องสแกนนิ่งอิเล็กตรอน ไมโครสโคป ในการตรวจสารประกอบที่มีอนุภาคเล็กๆ ได้ และการตรวจเอ็ม 79 เป็นการตรวจในลักษณะของเครื่องยิง ไม่เหมือนตรวจระเบิด
**ยิงM 79 หวังสถานการณ์รุนแรง**
พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 เปิดเผยความคืบหน้าเหตุคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่ ที่กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 พัน1 รอ.) ว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน จากการตรวจสอบของกลุ่มงานเก็บกู้วัตถุระเบิด กองบังคับการปฎิบัติการพิเศษ พบแนววิถีก่อเหตุมาจากบนทางด่วนโทลล์เวย์ โดยใช้วิธีการชะลอรถให้ช้าลงก่อนยิงระเบิดเข้าไป
ดังนั้น จึงตัดประเด็นที่ว่าคนร้ายยิงระเบิดมาจากตึกสูง ซึ่งสั่งการฝ่ายสืบสวนตรวจสอบรถยนต์ทุกคันที่วิ่งอยู่บนทางโทลล์เวย์ ช่วงเวลาประมาณ 13.00-13.30 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ใกล้เคียงกับเวลาเกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ด่านเก็บเงินทางด่วนโทลล์เวย์เพื่อตรวจสอบทะเบียนรถ ในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวอีกว่า ส่วนเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 ในบ้านนายวรสิทธิ เกียรติทวีอนันต์ นักธุรกิจส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายในซอยลาดพร้าว 23 ท้องที่ สน.พหลโยธินนั้น พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นพวกป่วนเมือง โดยยิงระเบิดวิถีโค้งมาในลักษณะที่ไม่เจาะจงเป้าหมาย ซึ่งตัดประเด็นที่ว่าคนร้ายมีเจตนายิงระเบิดเข้าไปที่บ้านของนายอักขราทร จุฬารัตน์ ประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งอยู่ในซอยลาดพร้าว 25 แน่นอน ซึ่งขณะนี้ได้ตรวจสอบจุดต้องสงสัยทั้งหมด 3 จุด ซึ่งมีทั้งตึกสูงในบริเวณดังกล่าวและพื้นที่ว่างในละแวกนั้นด้วย เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินได้ว่าคนร้ายมีกี่คน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าเชื่อว่าเป็นการยิงแบบสุ่มเพื่อให้ตกไปยังบ้านชุมชน ไม่ได้หวังผลยิงไปยังเป้าหมาย เป็นการก่อกวนเพื่อสร้างสถานการณ์ทางการเมืองมากกว่า
วานนี้( 17 มี.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดงประกาศจะเอาเลือด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มาล้างเท้า ว่า ข่าวที่เกี่ยวกับการลอบสังหารหรือการลอบทำร้ายนายกรัฐมนตรี นั้นมีมาตลอดก็เป็นเหตุผลที่ต้องมาพักที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ โดยเราก็ต้องระมัดระวังตลอดเวลา เพราะฝ่ายข่าวได้เตือนนายกรัฐมนตรีมาตลอด
เมื่อถามว่าแหล่งข่าวที่เตือนมานั้นเชื่อถือได้หรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า จากหน่วยงานทั้งหลายที่ทำหน้าที่ด้านการข่าวก็เตือนมา นายกรัฐมนตรี เองก็พยายามระมัดระวังและเหตุการณ์ขณะนี้แกนนำผู้ชุมนุมเริ่มแตกคอกันและกลุ่มที่นิยมความรุนแรงเริ่มมีบทบาทในการนำมากขึ้น เราก็กังวลว่าเหตุการณ์รุนแรงมีโอกาสจะเกิดขึ้นได้
**นายกฯไม่พูดข่าวลอบสังหาร**
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังเดินทางกลับจากงานพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.อ.สมเพียร เกสมญา ผกก.บันนังสตา จ.ยะลา ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ถึงการเสนอให้เปลี่ยนตัวแกนนำคนเสื้อแดง โดยมาเป็นแกนนำแนวฮาร์ดคอร์แทน และจะทำให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้นหรือไม่ ว่า "ยังไม่ทราบเลยครับ"
เมื่อถามอีกว่านายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯและกรรมการ ศอ.รส.ระบุว่ามีกระแสข่าวว่าจะมีการลอบสังหารบุคคลสำคัญในบ้านเมือง ปรากฏว่า นายอภิสิทธิ์ ไม่ตอบคำถามนี้ และเดินขึ้นรถทันที โดยขบวนรถของนายกรัฐมนตรี มุ่งหน้าไปยังกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์
**อารักขาเข้มนายกฯ**
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในที่บริเวณ กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก(ขส.ทบ.)ปรากฏว่ามีการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ(หน่วยล่วงหน้า) มาดูแล และสังเกตการณ์ตามจุดต่างๆก่อนที่จะเข้าไปยังสนามบินขส.ทบ. อาทิ บริเวณปั๊มปตท. สะพานใหม่ ฝั่งตรงข้ามทางเข้ากองทัพอากาศ และบริเวณปั๊มเอ็นจีวี ภายในกองทัพอากาศ หน้าทางเข้าสนามบิน โดยเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าบริเวณดังกล่าวทั้งก่อนไป หลังกลับจาก จ.สงขลา รวมทั้งบริเวณภายในสนามบินก็ยังมีเจ้าหน้าที่ทหารในชุดพรางพร้อมปืน M 16 ยืนดูแลนายอภิสิทธิ์ อยู่เป็นระยะๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจะเป็นคนละชุดกับเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยนายอภิสิทธิ์ ที่มีอยู่ตามปกติ
**ตร.รับมี 5-6 กลุ่มหมายชีวิตนายกฯ**
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงกรณี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯและกรรมการ ศอ.รส.ระบุว่า มีกระแสข่าวว่าจะมีการลอบสังหารนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และบุคคลสำคัญในบ้านเมืองว่า หน่วยข่าวกรองภายในประเทศได้มีการแจ้งเตือนมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาลเหมือนกัน ทางเจ้าหน้าที่มีแผนรองรับการดูแลรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญไว้แล้วตั้งแต่การออกตรวจพิเศษ การดูจุดสูงข่ม การยิงอาวุธวิถีโค้ง และมาตรการรักษาความปลอดภัยในด้านอื่นๆทางเจ้าหน้าที่มีแผนรองรับไว้หมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการระบุกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่จะลอบสังหารนายกหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้มีการจับตากลุ่มผู้ต้องสงสัยประมาณ 5-6 กลุ่ม ที่เคยก่อเหตุและสร้างสถานการณ์ความรุนแรงป่วนบ้านเมืองในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ไม่สามารถเปิดเผยได้
สำหรับการเฝ้าระวังติดตามกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่คอยสร้างสถานการณ์ต่างๆ เจ้าหน้าที่ติดตามอย่างใกล้ชิด และคอยดูแลแจ้งทุกหน่วยให้เพิ่มความเข้มในการตรวจพื้นที่ในช่วงเวลากลางคืน โดยมีการตั้งจุดตรวจทั้งสิ้น 24 จุด ทั่ว กทม. ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่พื้นที่ชั้นใน จำนวน 6 จุด พื้นที่ชั้นกลาง จำนวน 10 จุด และพื้นที่ชั้นนอก จำนวน 8 จุด โดยเน้นตรวจบุคคล ยานพาหนะ สิ่งแปลกปลอมต่างๆที่สามารถก่อเหตุได้ และคอยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เพิ่มสายตรวจเพื่อมาเสริมในการดูแลป้องกันเหตุต่างๆ และจัดให้มีชุดเคลื่อนที่เร็ว อีก 400 นาย มาดูแลหากเกิดเหตุ
**“หมอพรทิพย์”ตั้งชุดรับมือเหตุรุนแรง**
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า ได้จัดชุดเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็วจำนวน 3 ชุดๆ ละ 10 คน ประกอบด้วย แพทย์ และเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ ที่จะรับมือกับเหตุรุนแรงต่างๆ หากเกิดขึ้นกับการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง โดยชุดเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็วมีศักยภาพในการตรวจลายนิ้วมือ ดีเอ็นเอ เขม่าดินปืน และระเบิด และพร้อมปฏิบัติการตรวจสถานที่เกิดเหตุในจุดต่างๆ ได้ภายใน 15 นาที
จากการตรวจสอบของสถาบัน เป็นการตรวจโดยใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง และได้เตรียมพร้อมห้องแล็บตลอด 24 ชั่วโมง ในการตรวจพิสูจน์ทั้งดีเอ็นเอและสารชนิดต่างๆ
สำหรับการตรวจเอ็ม 79 สถาบันจะใช้เครื่องสแกนนิ่งอิเล็กตรอน ไมโครสโคป ในการตรวจสารประกอบที่มีอนุภาคเล็กๆ ได้ และการตรวจเอ็ม 79 เป็นการตรวจในลักษณะของเครื่องยิง ไม่เหมือนตรวจระเบิด
**ยิงM 79 หวังสถานการณ์รุนแรง**
พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 เปิดเผยความคืบหน้าเหตุคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่ ที่กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 พัน1 รอ.) ว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน จากการตรวจสอบของกลุ่มงานเก็บกู้วัตถุระเบิด กองบังคับการปฎิบัติการพิเศษ พบแนววิถีก่อเหตุมาจากบนทางด่วนโทลล์เวย์ โดยใช้วิธีการชะลอรถให้ช้าลงก่อนยิงระเบิดเข้าไป
ดังนั้น จึงตัดประเด็นที่ว่าคนร้ายยิงระเบิดมาจากตึกสูง ซึ่งสั่งการฝ่ายสืบสวนตรวจสอบรถยนต์ทุกคันที่วิ่งอยู่บนทางโทลล์เวย์ ช่วงเวลาประมาณ 13.00-13.30 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ใกล้เคียงกับเวลาเกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ด่านเก็บเงินทางด่วนโทลล์เวย์เพื่อตรวจสอบทะเบียนรถ ในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวอีกว่า ส่วนเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 ในบ้านนายวรสิทธิ เกียรติทวีอนันต์ นักธุรกิจส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายในซอยลาดพร้าว 23 ท้องที่ สน.พหลโยธินนั้น พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นพวกป่วนเมือง โดยยิงระเบิดวิถีโค้งมาในลักษณะที่ไม่เจาะจงเป้าหมาย ซึ่งตัดประเด็นที่ว่าคนร้ายมีเจตนายิงระเบิดเข้าไปที่บ้านของนายอักขราทร จุฬารัตน์ ประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งอยู่ในซอยลาดพร้าว 25 แน่นอน ซึ่งขณะนี้ได้ตรวจสอบจุดต้องสงสัยทั้งหมด 3 จุด ซึ่งมีทั้งตึกสูงในบริเวณดังกล่าวและพื้นที่ว่างในละแวกนั้นด้วย เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินได้ว่าคนร้ายมีกี่คน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าเชื่อว่าเป็นการยิงแบบสุ่มเพื่อให้ตกไปยังบ้านชุมชน ไม่ได้หวังผลยิงไปยังเป้าหมาย เป็นการก่อกวนเพื่อสร้างสถานการณ์ทางการเมืองมากกว่า