xs
xsm
sm
md
lg

ชง “มาร์ค”ทุ่ม 5 หมื่นล้านผันน้ำลง“ภูมิพล”หวังแก้แล้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตาก- เสนอโปรเจกต์ยักษ์ 50,000 ล้าน ผันน้ำแม่ยวม -แม่ตื่น ฟื้นศักยภาพเขื่อนภูมิพล แก้ไขปัญหาภัยแล้งในอนาคต หลังนายกฯขึ้นเหนือเห็นคาตา ปีนี้แล้งจัด มีน้ำต้นทุนเหนือเขื่อนให้ใช้แค่ 2,100 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น “อภิสิทธิ์”ย้ำปีนี้ห้ามลุ่มเจ้าพระยาทำนาปรังรอบ 2-รัฐไม่รับประกันให้ จี้ ก.เกษตรหาแหล่งน้ำขนาดกลางแก้ขัด

รายงานข่าวจากจังหวัดตาก แจ้งว่า ท่ามกลางการต่อต้านของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มีต่อรัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จนทำให้การลงพื้นที่ตรวจราชการในภาคเหนือของนายกรัฐมนตรี เป็นปัญหามาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งล่าสุดเมื่อ 16 มีนาคม ระหว่างที่กลุ่มคนเสื้อแดงรวมตัวชุมนุมประท้วงรัฐบาลที่กรุงเทพฯ นายอภิสิทธิ์ พร้อมคณะได้ยกทีมลงพื้นที่อุตรดิตถ์ – ตาก ดูปัญหาภัยแล้ง-ไฟป่า ตลอดจนปัญหาระดับน้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์ – เขื่อนภูมิพล เพื่อหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน ท่ามกลางชาวเมืองตากนับพันคนที่มารอต้อนรับ โดยไร้เงาคนเสื้อแดงตามป่วนแม้แต่คนเดียว

ระหว่างการตรวจระดับน้ำเหนือเขื่อนภูมิพลของคณะนายกฯ นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้มีบัญชาในการแก้ไขปัญหา 2 มาตรการ คือ ระยะสั้นให้เกษตรกรท้ายเขื่อนตั้งแต่จังหวัดตาก – ลุ่มเจ้าพระยา งดปลูกข้าวนาปรังรอบ 2 และรัฐบาลจะชดเชยเงินให้แทน

ส่วนระยะยาวคือการหาแหล่งน้ำมาเพิ่มเติมให้เขื่อนภูมิพล โดยมีการพูดถึงการผันน้ำจากแม่น้ำยวม ระยะทางประมาณ 70 กม.มาลงยังเขื่อนภูมิพล ด้วยงบประมาณกว่า 50,000 ล้านบาท พร้อมหาแนวทางผันน้ำจากแม่น้ำแม่ตื่นมาลงเขื่อนเช่นกัน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และการขาดแคลนน้ำในอนาคต

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า จากการบินตรวจสอบสภาพแหล่งเก็บน้ำตั้งแต่พิษณุโลก พบว่าลดลงไปมากเนื่องจากเกษตรกรมีการทำข้าวนาปรังรอบ 2 ซึ่งรัฐบาลก็ไม่สนับสนุนรวมทั้งไม่รับประกันราคาข้าว โดยให้กระทรวงเกษตรฯ เข้าไปดูแลหาทางจูงใจให้เกษตรกรหันไปประกอบอาชีพอื่น เพื่อให้มีรายได้ทดแทน รวมทั้งให้กระทรวงเกษตรฯไปหาแหล่งน้ำขนาดกลางเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในระยะยาวต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า เขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก ได้รายงานถึงปริมาณน้ำในเขื่อนในปี 2553 ว่า ปริมาณน้ำ ได้ลดลงกว่าปี 2552 มาก และน้อยกว่าทุกปี จากความสามารถกักเก็บน้ำได้ 13,463 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) แต่ปัจจุบันมีน้ำเหลือเพียง 5,900 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น เป็นน้ำที่ใช้ได้เพียง 2,100 ล้าน ลบ.ม. หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้และไม่มีพายุฤดูร้อนหรือการทำฝนหลวง ถือว่าน่าเป็นห่วงมาก เพราะในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 น้ำในเขื่อนที่เป็นน้ำใช้งานได้จะเหลือเพียง 1,200 ล้าน ลบ.ม.
กำลังโหลดความคิดเห็น