xs
xsm
sm
md
lg

ท้องน้ำอิงพะเยาแตกระแหง-นาปรัง 20,000 ไร่รอวันตายศึกชิงน้ำใกล้ระอุ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พะเยา - ผวจ.พะเยา สั่งผันน้ำจาก 3 แหล่งช่วยกันข้าวตายจากภัยแล้ง ด้านชลประทานเร่งระบายน้ำจากหนองเล็งทราย พร้อมเตือนน้ำต้นทุนใกล้หมด ขณะที่ชาวบ้านโวยน้ำยังไม่ถึงคาดนาพังกว่าหมื่นไร่ตายเรียบ สัญญาณศึกชิงน้ำใกล้ปะทุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้น้ำอิงทางตอนเหนือของกว๊านพะเยาได้แห้งขอด จนพื้นดินแตกระแหงไปทั่วท้องน้ำ ทำให้เกษตรกรที่ทำนาปรังริมแม่น้ำอิงหลายหมื่นไร่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างหนัก

ด้านนายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า การแก้ปัญหาภัยแล้งเฉพาะหน้าที่เร่งด่วนที่สุดก็คือ ต้องหาทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างหนักของเกษตรกรทำนาในพื้นที่ ต.ท่าจำปี อ.เมือง จ.พะเยา เนื่องจากปีนี้เกษตรกรปลูกข้าวกันเป็นจำนวนมาก เฉพาะพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำอิงสองฝั่งมีพื้นที่ปลูกข้าวสูงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 30 เท่าตัว จากเดิมประมาณ 500 ไร่ แต่ปีนี้เพิ่มสูงขึ้นถึงกว่า 20,000 ไร่ ประกอบกับอากาศที่แห้งแล้งทำให้น้ำต้นทุนในแม่น้ำอิงหมดไปอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร

ล่าสุดจังหวัดได้ขุดลอกน้ำอิงบริเวณหน้าฝายกำนันผล เพื่อดึงน้ำในกว๊านพะเยาทางตอนเหนือให้ไหลย้อนมาถึงใกล้พื้นที่นาปรังของ ต.ท่าจำปี เพื่อเกษตรกรจะได้สูบน้ำใส่นาข้าวบรรเทาไปก่อน

ขณะเดียวกันตนได้แจ้งไปยังโครงการชลประทานพะเยา ซึ่งเป็นหน่วยรับผิดชอบ - กลุ่มผู้ใช้น้ำของแหล่งน้ำ 3 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ตุ้ม อ.เมือง อ่างเก็บน้ำแม่ปืม และหนองเล็งทราย อ.แม่ใจ ที่จะสามารถผันน้ำมาช่วยได้บางส่วน จึงให้ขอช่วยระบายน้ำออกมาแบ่งปันเกษตรกรในพื้นที่เดือดร้อนดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ก่อนที่ข้าวนาปรังจะเสียหายจนไม่สามารถประเมินได้ พร้อมกันนั้นจังหวัดได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ(ภัยแล้ง) แล้ว

นายเจนศักดิ์ ลิมปิติ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานพะเยา กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำสำคัญของ จ.พะเยา มีสองแห่ง คือ 1. อ่างฯแม่ปืม อ.แม่ใจ 2.อ่างฯแม่ต๋ำ ที่น่าจะปล่อยน้ำมาช่วยเหลือเบื้องต้นได้ ขณะเดียวกันน้ำในหนองเล็งทราย จะผันมาช่วยอีกทาง แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะมีน้ำเพียงพอต่อพื้นที่การเกษตรริมแม่น้ำอิงหรือไม่ เพราะมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 20,000 ไร่

นายอุดม สานเก่ง อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 115 หมู่ 9 ต.ท่าจำปี อ.เมือง จ.พะเยา ชาวนารายหนึ่งที่กำลังประสบภัยแล้งจนข้าวนาปรังเสียหายอย่างหนัก กล่าวว่า เกษตรกรยังไม่ได้น้ำเข้ามาช่วยเลี้ยงข้าวในนาปรัง คาดว่าจะนาปรับของพวกเขา จะเป็น “นาพัง” เสียหายเกือบทั้งหมด จะเหลือนาที่ได้ผลผลิตจริงไม่เกิน 10% ซึ่งจะเป็นที่นาอยู่ใกล้แหล่งน้ำเท่านั้น

“ขณะนี้รอความหวังจากน้ำอิงไม่ได้เลย อีกทั้งหากมีข่าวน้ำที่ไหนจะปล่อยมา เกษตรกรก็จะรอแต่แย่งน้ำกันอุตลุด ใครมาก่อนได้ก่อน ไม่ว่าจะจากอ่างเก็บน้ำใด ที่นาซึ่งอยู่ต้นทางน้ำจะต้องกักน้ำไว้ใส่นาของตนเองก่อน จากนั้นจึงจะปล่อยมาให้ที่นาท้ายน้ำ เมื่อขาดน้ำมากผมคิดว่าปีนี้ชาวนาจะขาดทุนอย่างหนักจนไม่อาจจะประมาณค่าได้” นายอุดม กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น