xs
xsm
sm
md
lg

พิษม็อบแดงตลาดจีนสูญพันล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ม็อบแดงถ่อยขย่มตลาดท่องเที่ยว เผยนักเที่ยวจากจีนหนีไทยช่วง 12 วันสูญรายได้เข้าประเทศกว่า พันล้านบาท ซีเอ็นเอ็นระบุซ้ำนักเที่ยวจีนหด 50% แอตต้าแนะเปิดเวที รัฐ-นปช.เจรจา

นายศิษฏิวัชร ชีวรัตนพร ประธานกิติมศักดิ์ สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ ไทย-จีน กล่าวว่า ล่าสุด รัฐบาลในหลายมณฑลของจีน เช่น เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง  เริ่มส่งหนังสือถึงบริษัทนำเที่ยวในประเทศจีนให้หยุดส่งนักท่องเที่ยวมาประเทศไทย ขณะเดียวกันยังติดต่อมายังบริษัทนำเที่ยวในประเทศไทยเพื่อตรวจสอบจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ยังอยู่ในประเทศไทยให้เดินทางกลับ

12 วัน ทัวร์จีนสูญพันล้านบาท
“ยอมรับว่า 12 วัน ของการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง รัฐบาลจีนและในหลายประเทศเฝ้าติดตามสถานการณ์ โดยจีนชะลอที่จะส่งนักท่องเที่ยวเข้ามาไทยในช่วงนี้  จากปกติที่จะเดินทางเข้ามาเฉลี่ยวันละ 3 พันคน  รวม 12 วัน 3.6 หมื่นคน สูญเงินกว่า  1 พันล้านบาท ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป ความเชื่อมั่นต่างชาติก็จะลดลง และ ทัวร์ก็จะไม่เข้ามาประเทศไทย”

ชาร์เตอร์ไฟล์ทสงกรานต์วูบแล้ว 30 ลำ
นอกจากนั้น เที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟล์ท) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่คาดว่าจะมาจากประเทศจีนกว่า 100 ลำ ล่าสุด หายไปแล้วกว่า 30 ลำ ดังนั้นหากการชุมนุมยืดเยื้อเกินวันที่ 5 เม.ย.นี้ กลุ่มที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจก็จะไม่เดินทางมาแน่นอน   จากปกติที่ตลาดจีนจะเดินทางมาเฉลี่ยเดือนละ 1 แสนคน แต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะเพิ่มเป็นมากกว่า 1 แสนคน แต่เหตุการณ์ไม่ปกติเขาก็จะไม่เดินทางมา
วอนอย่าถึงขั้นใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นายฟรองซัว เกอร์โนลด์  กรรมการแอตต้าและ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรานส์ แทรเวล (ไทยแลนด์) จำกัด  ดำเนินธุรกิจทัวร์อินบาวน์จากประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า  ภาพรวมจะกระทบต่อนักท่องเที่ยวตลาดเอเชียมากกว่ายุโรป แต่หากการชุมนุมเกิดความรุนแรง จนทำให้รัฐบาลต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  จะทำให้ นักท่องเที่ยวจากทุกตลาดหยุดเดินทางเข้ามาประเทศไทยทั้งหมด ทั้งที่สงกรานต์เป็นเทศกาลชาวต่างชาติให้ความนิยมมาก โดยเฉพาะสงกรานต์ถนนข้าวสาร เห็นได้จากปีก่อนที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้ตลาดยุโปร และ อเมริกา หดหายไปทันที

ททท.ยันข้อมูลค้านเอกชน
รายงานข่าวจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ระบุว่า ล่าสุด ลาว เป็นประเทศที่ 38 ที่ประกาศแนะนำนักท่องเที่ยว โดยเตือนในระดับ  4 คือให้ทบทวนการเดินทาง จากวานนี้(15 มี.ค.53) มีประเทศที่ประกาศ Travel Advisory  ที่ 37 ประเทศ
ทางด้านนายประกิตติ์ พิริยะเกียรติ รองผู้ว่าการ ด้านสื่อสารการตลาด ททท.   ในฐานะโฆษก  ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว หรือ ศอช. กล่าวว่า  ยังไม่มีประเทศใด เพิ่มระดับคำแนะนำนักท่องเที่ยว ส่วนที่มีสำนักข่าวต่างประเทศว่า ออสเตรเลียอกประเทศระดับสูงสุดนั้น ล่าสุด ททท.ได้ตรวจสอบไปยังสถานฑูตออสเตรเลีย พบว่าระดับคำแนะนำอยู่ในระดับ 3 ให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีการชุมนุม ส่วนจีน ก็ยังแนะนำในระดับ 2 แต่สถานทูตจีนได้สอบถามเข้ามายังบริษัททัวร์ในไทย เพื่อแจ้งสถานที่อยู่ของนักท่องเที่ยวจีนในประเทศไทย  ซึ่งททท.ขอยืนยันว่า ข้อมูลของททท.เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง โดยมีการตรวจเช็คโดยตรงกับรัฐบาลแต่ละประเทศ

ซีเอ็นเอ็นระบุนักเที่ยวจีนหาย50%

ขณะที่ทางด้านสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า การชุมนุมของลกลุ่มม็อบเสื้อแดงได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวได้ประเมินว่ การชุมนุมของคนเสื้อแดง อาจส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง 20% และนักท่องเที่ยวจากจีนได้หดหายไปมากกว่าที่อื่น โดยจากตัวเลขของหอการค้าจีนระบุว่า ได้มีการยกเลิกการเดินทางมาไทยมากถึง 50%

แอตต้าแนะเปิดเวที รัฐ-นปช.เจรจา
นายสุรพล ศรีตระกูล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า)  เปิดเผยว่า  ต้องการให้สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือ กลุ่ม เสื้อแดง ยุติโดยเร็ว โดยให้ฝ่ายรัฐบาลและฝ่าย นปช. ส่งตัวแทนมาเปิดเวทีเจรจาหารือ พร้อมถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์อย่างเป็นทางการ เพื่อให้ทราบแผนปฎิบัติการของทั้งสองฝ่ายเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ  ซึ่งที่ผ่านมา การแต่งตั้ง นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนในการเจรจากับฝ่าย นปช.นั้น มองว่า ภาพการเจรจายังไม่ชัดเจนนัก ถ้าจะให้ดี ควรจัดเวทีให้เจรจาผ่านโทรทัศน์จะดีกว่า
อย่างไรก็ตาม แอตต้าจะใช้วิกฤตเป็นโอกาส ด้วยการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาแล้วเป็นทางเลือกในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย เช่น หากไม่เที่ยววัดพระแก้ ก็หันไปเที่ยววัดอรุณ หรือวัดระฆัง ทดแทน  หรือ ไม่เที่ยวกรุงเทพฯ ก็ไปเที่ยว อยุธยา หรือกาญจนบุรีทดแทน เป็นต้น

นักท่องเที่ยวทรานเฟอร์เปลี่ยนใจไม่แวะไทย

ทั้งนี้เบื้องต้นยอมรับว่าผลจากการชุมนุม กระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวในโครงการทรานเฟอร์พาสเซ็นเจอร์ เพราะส่วนใหญ่นิยมที่จะใช้เวลาที่รอเปลี่ยนเครื่อง ออกมาเดินทางท่องเที่ยวชมพระบรมมหาราชวัง และ วัดพระแก้ว ซึ่งเป็นเส้นทางการชุมนุม ทำให้นักท่องเที่ยวจึงตัดสินใจที่จะรอเปลี่ยนเครื่องอยู่ที่สนามบินดีกว่า
ประกอบกับช่วงนี้จำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมเริ่มน้อยเนื่องจากเป็นโลว์ซีซั่น

นายสุรพล กล่าวว่า  แอตต้าไม่ต้องการให้การชุมนุมยืดเยื้อ เพราะยิ่งนานยิ่งจะกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว จึงอยากให้ทุกฝ่ายหาข้อสรุปให้สถานการณ์กลับเป็นปกติภายในวันที่ 23 มี.ค.53 ตามประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพราะจะได้เตรียมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาช่วงเทศกาลสงกรานต์เดือน เม.ย. ล่าสุด ตลาดที่เริ่มชะลอการเดินทางเข้ามาประเทศไทยแล้วขณะนี้ คือ ฮ่องกง จีน และเกาหลี  
กำลังโหลดความคิดเห็น