xs
xsm
sm
md
lg

ม็อบแดงถล่มท่องเที่ยวซบ ทัวร์จีนยกหู-ขู่เลิกชาร์เตอร์ไฟล์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แอตต้า หวั่นการเมืองกระทบท่องเที่ยวไม่หยุด ชี้หลังเสื้อแดงประกาศนัดชุมนุม 12 มี.ค.นี้ ทัวร์จีนยกหูโทรสอบถาม ระบุ ถ้ารุนแรง พร้อมยกเลิกชาร์เตอร์ไฟล์ททันที เปรย หลังวันที่ 26 ก.พ.เตรียมทำหนังสือขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี จี้รัฐรีบคลี่คลายสถานการ์การเมืองด่วน ขณะที่ ททท.เล็งเพิ่มนักท่องเที่ยวเฟิร์สวิสิทเตอร์ พร้อมอัพเกรดแคมเปญแวลูฟอร์มันนี่ หลังพบคู่แข่ง เวียดนาม และอินเดีย เริ่มเลียนแบบ

นายสุรพล ศรีตระกูล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) เปิดเผยว่า จากการที่กลุ่มเสื้อแดง หรือกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ได้นัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 12-14 มี.ค.นี้ ทำให้ บริษัททัวร์ในต่างประเทศ เกิดความวิตกกังวลเพิ่มขึ้นอีก โดยล่าสุดมีรายงานว่า บริษัทนำเที่ยวจากประเทศจีนได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามถึงสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประกอบการตัดสินใจส่งนักท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะหากภายหลังการตัดสินคดียึดทรัพย์ในวันที่ 26 ก.พ.และประเทศไทยมีสถานการณ์รุนแรง เขาก็พร้อมที่จะยกเลิกเที่ยวบินเช่าเหมาลำ หรือชาร์เตอร์ไฟล์ทที่มีอยู่หลายสิบเที่ยวบินที่จะเดินทางมาช่วงเวลาดังกล่าวทันที

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมือง การนัดชุมนุมทางการเมือง ทำให้เอกชนท่องเที่ยวมีความกังวลเป็นอย่างมาก คาดว่าเร็วๆนี้ หรือภายหลังวันที่ 26 ก.พ.53 จะทำหนังสือของเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้เร่งแก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองให้เบาบางลง เพื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศและเศรษฐกิจโดยรวมจะได้เติบโต

เพราะตั้งแต่ต้นปีนที่ผ่านมา แนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับปี 2552 และ ปี 2551 โดยช่วง 1 ม.ค.-20 ก.พ.53 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้ามาประเทศไทยโดยผ่านแอตต้ารวม 4.5 แสนคน ซึ่งเฉพาะ 1-20 ก.พ.53 เดินทางมา 1.98 แสนคน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ราว 30% ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวช่วงนี้อยู่ที่ 1.5 แสนคน โดย 5 ประเทศที่เดินทางเข้ามาสูงสุดตั้งแต่ต้นปี ได้แก่ จีน รัสเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และ ไต้หวัน

*** หนีคู่แข่งเลียนแบบแวลูฟอร์มันนี่***
ทางด้านนายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวถึง วิสัยทัศน์ ในการบริหารจัดการการท่องเที่ยว ว่า จากสถานการณ์การแข่งขันในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรุนแรงเพิ่มขึ้น ททท.ต้องปรับตัว เพื่อสู้กับการแข่งขัน ทั้งการรักษาตลาดเดิม และเพิ่มตลาดใหม่ ด้วยการปรับภาพลักษณ์ท่องเที่ยวของประเทศไทย ให้เป็นมากกว่า แวลู ฟอร์ มันนี่ โดยมีความคุ้มค่าของเงินที่จ่าย เพื่อให้เราสามารถกำหนดราคาค่าบริการในอัตราที่สูงได้ แต่คุณภาพก็สูงตามไปด้วย สามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ดี เพราะการนำเสนอราคาถูกจะไม่เป็นผลดีต่อผู้ประกอบการ นอกจากนั้นต้องสร้างความผูกพันธ์ทางด้านอารมณ์ ให้เกิดแบรนด์รอยัลตี้ จากจุดแข็งที่ประเทศไทยมี เช่น เรื่องของการบริการ เพื่อหลีกหนีคู่แข่งขัน อย่าง เวียดนาม และ อินเดีย ที่เริ่มใช้กลยุทธ์ แวลู ฟอร์มันนี่ เช่นเดียวกับประเทศไทย

***เร่งขยายนักท่องเที่ยวเฟิร์สวิสิทเตอร์****

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ ททท.ต้องดำเนินการไปพร้อมๆกับการรักษาฐานตลาดเดิม คือ การเพิ่มตลาดใหม่ ซึ่งแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ รุกหาประเทศใหม่ๆที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เช่น ตรุกี สเปน โปรตุเกต และ รุกพื้นที่ใหม่ๆในประเทศเดิม เช่น ในจีน และ อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศใหญ่ ประชากรจำนวนมาก

ประเทศที่เพิ่งเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยว ชูจุดขายความสดใหม่ ประกอบกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวบางตลาดหันมานิยมเดินทางภายในประเทศแทนการออกนอกประเทศ เช่น นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น โดยข้อมูลจากการท่องเที่ยวญี่ป่น และสายการบิน ANA ระบุชัดว่า คนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ ชื่นชอบที่จะเดินทางในประเทศของตัวเอง ดังนั้น ททท.หากลยุทธ์เข้าถึงนักท่องเที่ยวด้วย สื่อออนไลน์ สร้างการรับรู้และตัดสนใจได้รวดเร็ว และโปรโมตคนไทยเที่ยวในประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงในทุกสถานการณ์

“สัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย กว่า 60% หรือราว 2 ใน 3 เป็นกลุ่มมาซ้ำ สะท้อนว่า กลยุทธ์แบรนด์รอยัลตีเราได้ผลดี แต่ก็ต้องไม่ประมาท โดยต้องรักษาระดับกลุ่มมาซ้ำ 60% และ กลุ่มเฟิร์สวิสิทเตอร์ 40% นี้ไว้ เพราะบางตลาดในยุโรปกลุ่มมาซ้ำปรับเป็น 70% หากปล่อยไว้ จะไม่เกิดความสมดุลของตลาด ” ผู้ว่าการ ททท. กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น