ASTVผู้จัดการรายวัน-ห้างประกาศไม่ปิดหนีม็อบแดง ยันเปิดขายตามปกติ บอกประชาชนอย่าตื่นตระหนก สินค้ามีสต็อกนานพอถึง 1 เดือน วงการค้าปลีกเฮ! ยอดขายเพิ่ม หลังคนซื้อเพิ่มในช่วงนี้ ด้านส่งออกพร้อมรับมือ คาดไม่กระทบ หากไม่รุนแรงถึงขั้นปิดท่าเรือ สนามบิน
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ผู้ผลิต ผู้จำหน่ายสินค้า และสมาคมที่เกี่ยวข้องจำนวน 39 ราย เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ไม่สงบที่อาจจะเกิดขึ้นจากความขัดแย้งทางการเมือง วานนี้ (11 มี.ค.) ว่า ได้ขอความร่วมมือให้มีการจำหน่ายสินค้าตามปกติ และขอให้มีปริมาณสินค้าเพียงพอต่อความต้องการ
โดยเฉพาะของใช้ประจำวัน ข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำมันพืช ที่มีความจำเป็นต่อการครองชีพของประชาชน
“ทั้งห้าง ร้านสะดวกซื้อ ได้ยืนยันตรงกันว่า ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะจะไม่มีการปิดห้าง ปิดร้านค้า ยังจะเปิดค้าขายตามปกติ และปริมาณสินค้าจะมีเพียงพอต่อความต้องการ โดยมีสำรองไว้นานถึง 1 เดือนสบายๆ หรือหากจะมีการปิดห้าง ก็ต้องมีวิกฤตจริงๆ โดยจะพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป ส่วนผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ก็พร้อมผลิตสินค้าป้อนให้ตามปกติ ฉะนั้น
อย่าไปกังวล”นางสาวชุติมากล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางผู้ประกอบการยอมรับว่า อาจจะมีบางช่วงที่ส่งสินค้าป้อนห้างฯ ได้ไม่ทัน โดยเฉพาะการขนส่งที่ต้องผ่านจุดที่ปิดถนน แต่เชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการได้
สำหรับภาวะการซื้อขายสินค้าในห้างฯ ขณะนี้ ได้รับแจ้งว่า มีประชาชนไปเลือกซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นจริง ซึ่งมีหลายปัจจัย ทั้งเป็นช่วงหยุดปิดเทอม ทำให้ต้องซื้อสินค้าเข้าบ้านมากขึ้น แต่บางคนก็ไปซื้อเก็บไว้ เพราะกลัวว่าช่วงวันหยุดจะมีปัญหาทำให้การเดินทางไม่สะดวก
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีก ไทย กล่าวว่า การตื่นตระหนกเพราะมีการประโคมข่าวและรัฐออกข่าวเตรียมรับมือทั้งๆ ที่ควรจะเป็นความลับ จึงทำให้ประชาชนเกิดความสับสนว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรง ผนวกกับมีเครือข่ายการส่งข้อความผ่านมือถือต่อสถานการณ์ต่างๆ ทำให้เพิ่มความวิตก
จึงกลับกลายเป็นผลดีต่อระบบการค้าขยายตัวเพิ่มขึ้นหลังกำลังซื้อหดตัวมาตลอดและยอดขายผู้ผลิตและห้างต่ำกว่าเป้าหมายในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
“วิกฤตการเมืองกลายเป็นโอกาสเพิ่มยอดขายในช่วงนี้ เพราะที่ผ่านมา กำลังซื้อไม่ดี ประชาชนระดับรากหญ้าไม่มีเงินทั้งผลผลิตที่เสียหายจากโรคระบาดและปัญหาภัยแล้ง ซึ่งภัยแล้งเป็นเรื่องน่าวิตกของผู้ผลิตและค้าปลีกหนักกว่าเกิดม็อบ”นายสมชายกล่าว
นายประพจน์ นันทวัฒน์ศิริ นายกสมาคมผู้ผลิตสบู่ไทย ผงซักฟอก และผลิตภัณฑ์ชำระล้าง กล่าวว่า ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องสินค้าจะขาดแคลน ผู้ผลิตได้จัดส่งและเพิ่มยอดสั่งซื้อได้ตลอดเวลา การค้าขายยังปกติ จึงไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกซื้อสินค้าเพิ่มเกินจำเป็น เชื่อว่าไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อยอดขายหรือการซื้อของประชาชน
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับ 11 สมาคมด้านการส่งออกถึงมาตรการณ์รองรับผลกระทบทางการค้า จากการเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่า เอกชนยังประเมินว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงจนกระทบต่อการส่งออก แต่อาจมีเรื่องการจราจรตัดขัดบ้าง แต่ไม่ถึงกับปิดท่าเรือ หรือสนามบิน แต่หากรุนแรงถึงขั้นปิดระบบขนส่ง
เอกชนก็เตรียมมาตรการรับมือไว้แล้ว โดยเอกชนจะหาช่องทางอื่นเพื่อส่งออกตามปกติ และจนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้รับรายงานว่าต่างประเทศขาดความเชื่อมั่น
นายสุวิทย์ รัตนจินดา นายกสมาคมผู้รับจัดการสินค้าขนส่งระหว่างประเทศ กล่าวว่า ไทยเคยมีประสบการณ์จากการปิดสนามบินและท่าเรือมาแล้ว ก็จะใช้การเปลี่ยนที่จัดส่งไปจังหวัดใกล้เคียงแทน เช่น ท่าเรือแหลมฉบัง อู่ตะเภา และสนามบินเชียงใหม่แทน
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ผู้ผลิต ผู้จำหน่ายสินค้า และสมาคมที่เกี่ยวข้องจำนวน 39 ราย เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ไม่สงบที่อาจจะเกิดขึ้นจากความขัดแย้งทางการเมือง วานนี้ (11 มี.ค.) ว่า ได้ขอความร่วมมือให้มีการจำหน่ายสินค้าตามปกติ และขอให้มีปริมาณสินค้าเพียงพอต่อความต้องการ
โดยเฉพาะของใช้ประจำวัน ข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำมันพืช ที่มีความจำเป็นต่อการครองชีพของประชาชน
“ทั้งห้าง ร้านสะดวกซื้อ ได้ยืนยันตรงกันว่า ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะจะไม่มีการปิดห้าง ปิดร้านค้า ยังจะเปิดค้าขายตามปกติ และปริมาณสินค้าจะมีเพียงพอต่อความต้องการ โดยมีสำรองไว้นานถึง 1 เดือนสบายๆ หรือหากจะมีการปิดห้าง ก็ต้องมีวิกฤตจริงๆ โดยจะพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป ส่วนผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ก็พร้อมผลิตสินค้าป้อนให้ตามปกติ ฉะนั้น
อย่าไปกังวล”นางสาวชุติมากล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางผู้ประกอบการยอมรับว่า อาจจะมีบางช่วงที่ส่งสินค้าป้อนห้างฯ ได้ไม่ทัน โดยเฉพาะการขนส่งที่ต้องผ่านจุดที่ปิดถนน แต่เชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการได้
สำหรับภาวะการซื้อขายสินค้าในห้างฯ ขณะนี้ ได้รับแจ้งว่า มีประชาชนไปเลือกซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นจริง ซึ่งมีหลายปัจจัย ทั้งเป็นช่วงหยุดปิดเทอม ทำให้ต้องซื้อสินค้าเข้าบ้านมากขึ้น แต่บางคนก็ไปซื้อเก็บไว้ เพราะกลัวว่าช่วงวันหยุดจะมีปัญหาทำให้การเดินทางไม่สะดวก
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีก ไทย กล่าวว่า การตื่นตระหนกเพราะมีการประโคมข่าวและรัฐออกข่าวเตรียมรับมือทั้งๆ ที่ควรจะเป็นความลับ จึงทำให้ประชาชนเกิดความสับสนว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรง ผนวกกับมีเครือข่ายการส่งข้อความผ่านมือถือต่อสถานการณ์ต่างๆ ทำให้เพิ่มความวิตก
จึงกลับกลายเป็นผลดีต่อระบบการค้าขยายตัวเพิ่มขึ้นหลังกำลังซื้อหดตัวมาตลอดและยอดขายผู้ผลิตและห้างต่ำกว่าเป้าหมายในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
“วิกฤตการเมืองกลายเป็นโอกาสเพิ่มยอดขายในช่วงนี้ เพราะที่ผ่านมา กำลังซื้อไม่ดี ประชาชนระดับรากหญ้าไม่มีเงินทั้งผลผลิตที่เสียหายจากโรคระบาดและปัญหาภัยแล้ง ซึ่งภัยแล้งเป็นเรื่องน่าวิตกของผู้ผลิตและค้าปลีกหนักกว่าเกิดม็อบ”นายสมชายกล่าว
นายประพจน์ นันทวัฒน์ศิริ นายกสมาคมผู้ผลิตสบู่ไทย ผงซักฟอก และผลิตภัณฑ์ชำระล้าง กล่าวว่า ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องสินค้าจะขาดแคลน ผู้ผลิตได้จัดส่งและเพิ่มยอดสั่งซื้อได้ตลอดเวลา การค้าขายยังปกติ จึงไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกซื้อสินค้าเพิ่มเกินจำเป็น เชื่อว่าไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อยอดขายหรือการซื้อของประชาชน
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับ 11 สมาคมด้านการส่งออกถึงมาตรการณ์รองรับผลกระทบทางการค้า จากการเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่า เอกชนยังประเมินว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงจนกระทบต่อการส่งออก แต่อาจมีเรื่องการจราจรตัดขัดบ้าง แต่ไม่ถึงกับปิดท่าเรือ หรือสนามบิน แต่หากรุนแรงถึงขั้นปิดระบบขนส่ง
เอกชนก็เตรียมมาตรการรับมือไว้แล้ว โดยเอกชนจะหาช่องทางอื่นเพื่อส่งออกตามปกติ และจนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้รับรายงานว่าต่างประเทศขาดความเชื่อมั่น
นายสุวิทย์ รัตนจินดา นายกสมาคมผู้รับจัดการสินค้าขนส่งระหว่างประเทศ กล่าวว่า ไทยเคยมีประสบการณ์จากการปิดสนามบินและท่าเรือมาแล้ว ก็จะใช้การเปลี่ยนที่จัดส่งไปจังหวัดใกล้เคียงแทน เช่น ท่าเรือแหลมฉบัง อู่ตะเภา และสนามบินเชียงใหม่แทน