นายกค้าปลีก เตือน ปชช.อย่าตระหนกม็อบแดงถ่อย แห่ซื้อสินค้ากักตุน เพราะยังมีปริมาณสินค้าเพียงพอ ไม่มีการขึ้นราคา แต่ยอมรับในพื้นที่เสี่ยง ปชช.เริ่มตุนสินค้า โชวห่วยสั่งสต๊อกเพิ่ม พาณิชย์ขู่เล่นงานร้านค้า อ้างเหตุชุมนุมกักตุน-โก่งราคา โดนโทษทั้งจำทั้งปรับ ชี้ หากสถานการณ์รุนแรง อาจเกิดภาวะการขาดแคลนได้ ขณะที่หน่วยงานรัฐเป้าหมาย เริ่มตุน มาม่า-น้ำดื่ม หากถูกปิดล้อม
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งค้าปลีก กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง ที่จะมีขึ้นในวันที่ 12-14 มีนาคม 2553 นี้ โดยประกาศปิดกรุงเทพฯ และทำให้เมืองเป็นอัมพาต รวมถึงความกังวลว่าอาจมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น โดยขณะนี้ ส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความกังวล ว่า ร้านค้าจะมีการกักตุนสินค้า และอาจเกิดปัญหาการโก่งราคา หรือการขาดแคลน ซึ่งเชื่อว่า น่าจะเป็นความตระหนกแค่ระยะสั้น
นายกสมาคมค้าปลีกค้าส่งไทย ยืนยันว่า ร้านค้าทั่วไปยังคงสต๊อกสินค้าเพื่อรอจำหน่ายตามปกติ ยกเว้นบางพื้นที่ ที่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์รุนแรง ก็จะมีการกักตุนบ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคไม่ควรวิตกกังวลมากจนเกินไป
"ต้องยอมรับว่า กระแสข่าวได้ส่งผลกระทบต่อความวิตกกังวลของประชาชนบางส่วน โดยเฉพาะผู้อาศัยในพื้นที่ซึ่งที่เป็นจุดนัดรวมพล โดยพบว่า ประชาชนเริ่มกักตุนสินค้า เช่นเดียวกับร้านโชห่วย ได้มีการสั่งสต๊อกสินค้าเพิ่มขึ้น"
ขณะนี้สินค้ามีจำนวนเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค และยังไม่มีการปรับขึ้นราคา ยกเว้นสินค้าบางประเภท เช่น น้ำตาล ซึ่งมีปัจจัยกำหนดจากราคาต่างประเทศ ประกอบกับการบริหารจัดการของภาครัฐ ส่วนภาพรวมการบริโภคของประชาชน ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากยังมีความกังวลต่อเหตุการณ์ทางการเมือง จึงทำให้ประชาชนมีความรอบคอบในการใช้จ่ายมากขึ้น
ขณะที่มีรายงานว่า หน่วยงานที่อยู่ในเป้าหมายของคนเสื้อแดง ได้เริ่มมีการกักตุนสินค้า และเครื่องใช้จำเป็น โดยเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและน้ำดื่มสำรองไว้ หากถูกกลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อม
ด้าน นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ในระดับจังหวัดและเจ้าหน้าที่ส่วนกลาง ออกตรวจสอบภาวะราคาสินค้า เพื่อไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสขึ้นราคา หรือกักตุนสินค้าที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภค ไม่ให้อาศัยการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงมาเป็นข้ออ้าง จนทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และกระทำผิดขายสินค้าเกินราคา
“เป็นไปได้ว่าหากการชุมนุมยืดเยื้อและรุนแรง อาจส่งผลกระทบต่อการซื้อหาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะสินค้าอาหารสด และสินค้าเกษตร ดังนั้น กรมการค้าภายในจะต้องเข้าไปเตรียมพร้อมไม่ให้การลำเลียงอาหารเกิดสะดุด ไม่เช่นนั้นจะสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้บริโภคมากรวมถึงเกษตรกรก็จะไม่สามารถขายสินค้าได้”
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมพร้อม กรณีที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ในส่วนของราคาสินค้าและการกักตุน ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบเป็นประจำอยู่แล้ว แต่เพื่อเพิ่มความเข้มข้นจะมีการสั่งการเป็นพิเศษ หากพบผู้ฝ่าฝืนมีความผิดตาม พ.ร.บ.สินค้าและบริการมีโทษปรับ 1.4 แสนบาท จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งเพิ่มเติมว่า แนวโน้มราคาสินค้าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคายังขึ้นลงในภาวะปกติ โดยหมวดของใช้ประจำวัน เช่น สบู่ ผงซักฟอก ถ่านไฟฉาย ราคาจำหน่ายปลีกปรับขึ้นลงเล็กน้อย เนื่องจากผู้ประกอบการมีการแข่งขันกันสูง