ASTVผู้จัดการรายวัน – ปูนใหญ่เดินหน้าสร้างต่อโรงงานในนิคมมาบตาพุด หลังศาลปกครองให้บริษัทเอกชนในนิคมฯสร้างต่อได้ พร้อมแจงเหตุฮุบหุ้นคิวคอน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งตลาดวัสดุก่อสร้าง รอง รับแนวโน้มตลาด Green Building พร้อมประกาศยุบ 15 แบรนด์สินค้าวัสดุก่อสร้างในเครือ ชูใช้ “ตราช้าง” แบรนด์เดียว รองรับการขยายตลาดเอเชีย อัดงบ200ล้านบาทอัดอีเวนต์สร้างการรับรู้ลูกค้าผู้จัดจำหน่าย ผู้รับเหมาตลาดปี
หลังจากศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งให้บริษัทเอกชนที่ถูกคำสั่งให้ชะลอการก่อสร้างโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดบางส่วน สามารถดำเนินการได้นั้น
นาย กานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG กล่าวว่า ขณะนี้ SCG ได้ดำเนินการก่อสร้างต่อแล้ว ส่วนปัญหาการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และผลกระทบสุขภาพ (HIA) นั้น คาดว่าในอนาคตเรื่องดังกล่าวรัฐบาลจะเข้ามาแก้ไขปัญหาได้ แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลาและดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน
สำหรับการที่ SCG ได้เข้าลงทุนซื้อหุ้น บริษัท ควอลิตี้ คอนสตรัคชั่น โปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) (QCON) จำนวน 204 ล้านหุ้น คิดเป็น 51% ของหุ้นทั้งหมดในราคาหุ้นละ 4 บาทได้ลุร่วงไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำคำเสนอซื้อหุ้นของบริษัทจากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไป (Tender offer) ในราคาหุ้นละ 4 บาท ตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการเข้าซื้อหุ้นในส่วนดังกล่าวนั้นคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสแรกนี้ แต่ต้องรอพิจารณาก่อนว่า ผู้ถือหุ้นรายย่อยจะขายหุ้นในส่วนที่ถืออยู่ให้แก่บริษัทมากน้อยเท่าใด
ทั้งนี้ การซื้อหุ้นของคิวคอนนั้น เพื่อเป็นการเสริมความแข็งแกร่งด้านวัสดุก่อสร้างให้แก่องค์กร และเป็นการรองรับแนวโน้มตลาด Green Building ซึ่งจะขยายตัวอย่างมากในอนาคต ทั้งในส่วนของตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะการรองรับการเติบโตของตลาด Green Building ในภูมิภาคเอเชียในอนาคต คาดว่าจะเติบโตอย่าต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน SCG ได้มีการรวมแบรนด์สินค้า (ตราสินค้า) และผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างทั้งหมดในเครือทั้ง 7 กลุ่ม จำนวน15 รูปแบบ ให้เปลี่ยนมาใช้สัญลักษณ์ หรือ
แบรนด์ภายใต้สัญลักษณ์ตราช้างเพียงแบรนด์เดียว
“แม้ว่าผลิตภัณฑ์ของเครือ SCG จะมีการเปลี่ยนสัญลักษณ์มาใช้ตราช้างทั้งหมด แต่ในส่วนของปูนซิเมนต์ถุง ตราช้าง จะยังใช้สัญลักษณ์เดิม เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีตราสินค้าเก่าแก่ของSCG มีอายุถึง 96 ปีแล้ว ซึ่งSCG ต้องการเก็บรักษาแบรนด์ดังกล่าวไว้คงเดิม เพื่อฉลองครบรอง100ปีของปูนตราช้างในอีก4 ปีข้างหน้า และอาจจะไม่เปลี่ยนมาใช้สัญลักษณ์เดียวกับสินค้าอื่นๆ”
นาย พิชิต ไม้พุ่ม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด ในเครือ SCG กล่าวว่า การรวมสินค้าให้มาใช้แบรนด์เดียวกัน เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ให้ลูกค้าเข้าถึง ยอมรับสินค้าของบริษัทในเครือ และสร้างความชัดเจนในตัวสินค้าภายใต้แบรนด์เดียว และยังเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าไปในตัว เพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกันทั้งสินค้าในตลาดต่างประเทศและในประเทศ เพื่อความคล่องตัวในการขยายตลาดในต่างประเทศในอนาคต โดยรูปแบบการปรับแบรนด์ของสินค้าทั้งหมดนั้น SCG ได้เริ่มดำเนินการมาแล้วตั้งแต่ในช่วงปีที่ผ่านมา
โดยในปีนี้ SCG มีแผนจะใช้งบการตลาดในการจัดกิจกรรมสร้างการรับรู้ในแบรนด์สินค้า ทั้งในส่วนของตัวแทนจำหน่าย ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง ช่างฝีมือ รวมถึงกลุ่มลูกค้าทั่วไป วงเงิน 200ล้านบาท
ส่วนการจัดกิจกรรมร่วมกับผู้แทนจำหน่ายสินค้าของกลุ่ม SCG และผู้รับเหมาก่อสร้าง นั้นจะมีการจัดกิจกรรมรวมทั้งสิ้น 15 ครั้ง.
หลังจากศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งให้บริษัทเอกชนที่ถูกคำสั่งให้ชะลอการก่อสร้างโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดบางส่วน สามารถดำเนินการได้นั้น
นาย กานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG กล่าวว่า ขณะนี้ SCG ได้ดำเนินการก่อสร้างต่อแล้ว ส่วนปัญหาการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และผลกระทบสุขภาพ (HIA) นั้น คาดว่าในอนาคตเรื่องดังกล่าวรัฐบาลจะเข้ามาแก้ไขปัญหาได้ แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลาและดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน
สำหรับการที่ SCG ได้เข้าลงทุนซื้อหุ้น บริษัท ควอลิตี้ คอนสตรัคชั่น โปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) (QCON) จำนวน 204 ล้านหุ้น คิดเป็น 51% ของหุ้นทั้งหมดในราคาหุ้นละ 4 บาทได้ลุร่วงไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำคำเสนอซื้อหุ้นของบริษัทจากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไป (Tender offer) ในราคาหุ้นละ 4 บาท ตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการเข้าซื้อหุ้นในส่วนดังกล่าวนั้นคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสแรกนี้ แต่ต้องรอพิจารณาก่อนว่า ผู้ถือหุ้นรายย่อยจะขายหุ้นในส่วนที่ถืออยู่ให้แก่บริษัทมากน้อยเท่าใด
ทั้งนี้ การซื้อหุ้นของคิวคอนนั้น เพื่อเป็นการเสริมความแข็งแกร่งด้านวัสดุก่อสร้างให้แก่องค์กร และเป็นการรองรับแนวโน้มตลาด Green Building ซึ่งจะขยายตัวอย่างมากในอนาคต ทั้งในส่วนของตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะการรองรับการเติบโตของตลาด Green Building ในภูมิภาคเอเชียในอนาคต คาดว่าจะเติบโตอย่าต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน SCG ได้มีการรวมแบรนด์สินค้า (ตราสินค้า) และผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างทั้งหมดในเครือทั้ง 7 กลุ่ม จำนวน15 รูปแบบ ให้เปลี่ยนมาใช้สัญลักษณ์ หรือ
แบรนด์ภายใต้สัญลักษณ์ตราช้างเพียงแบรนด์เดียว
“แม้ว่าผลิตภัณฑ์ของเครือ SCG จะมีการเปลี่ยนสัญลักษณ์มาใช้ตราช้างทั้งหมด แต่ในส่วนของปูนซิเมนต์ถุง ตราช้าง จะยังใช้สัญลักษณ์เดิม เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีตราสินค้าเก่าแก่ของSCG มีอายุถึง 96 ปีแล้ว ซึ่งSCG ต้องการเก็บรักษาแบรนด์ดังกล่าวไว้คงเดิม เพื่อฉลองครบรอง100ปีของปูนตราช้างในอีก4 ปีข้างหน้า และอาจจะไม่เปลี่ยนมาใช้สัญลักษณ์เดียวกับสินค้าอื่นๆ”
นาย พิชิต ไม้พุ่ม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด ในเครือ SCG กล่าวว่า การรวมสินค้าให้มาใช้แบรนด์เดียวกัน เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ให้ลูกค้าเข้าถึง ยอมรับสินค้าของบริษัทในเครือ และสร้างความชัดเจนในตัวสินค้าภายใต้แบรนด์เดียว และยังเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าไปในตัว เพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกันทั้งสินค้าในตลาดต่างประเทศและในประเทศ เพื่อความคล่องตัวในการขยายตลาดในต่างประเทศในอนาคต โดยรูปแบบการปรับแบรนด์ของสินค้าทั้งหมดนั้น SCG ได้เริ่มดำเนินการมาแล้วตั้งแต่ในช่วงปีที่ผ่านมา
โดยในปีนี้ SCG มีแผนจะใช้งบการตลาดในการจัดกิจกรรมสร้างการรับรู้ในแบรนด์สินค้า ทั้งในส่วนของตัวแทนจำหน่าย ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง ช่างฝีมือ รวมถึงกลุ่มลูกค้าทั่วไป วงเงิน 200ล้านบาท
ส่วนการจัดกิจกรรมร่วมกับผู้แทนจำหน่ายสินค้าของกลุ่ม SCG และผู้รับเหมาก่อสร้าง นั้นจะมีการจัดกิจกรรมรวมทั้งสิ้น 15 ครั้ง.