ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคมีมติให้ใส่ชื่อสมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีเงา แนบไปในญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ต้องขอขอบคุณสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่รับฟังข้อเสนอของตน เมื่อเป็นเช่นนี้ ตนก็จะเข้าร่วมอภิปรายด้วยอย่างแน่นอน แล้วแต่พรรคจะให้ทำหน้าที่แค่ไหนอย่างไร
ส่วนเรื่องชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีเงานั้น ให้ไปโหวตกันในพรรค เรื่องก็จบ แต่อยากบอกสมาชิกบ้านเลขที่ 111 บางคนว่า อย่ามาทำให้ยุ่ง เล่นการเมืองไม่ได้ ก็ถอยไป ที่มันยุ่งอีนุงตุงนัง เสียเวลาไป 3 สัปดาห์ ก็เพราะมีแม่นาคพระโขนง ทำให้เณรต้องเสียเวลามาเรียกลงหม้อ พวกนี้ได้ดีเพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นรัฐบาลจนเคยชิน ไม่เคยทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เลยทำตัวไม่ถูก มาทำให้ยุ่งเปล่าๆ
**ต้องซักฟอก"มาร์ค-กษิต-ชวรัตน์"
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า มติของพรรคค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า จะอภิปรายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย อีกทั้งน่าจะเพิ่มเป็น 4 คนด้วย เพราะคนที่จะเพิ่มเข้ามานั้น ตนมีหลักฐานในมือ 70 % แล้ว
ส่วนกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า มีความชัดเจนเพียงแค่นายอภิสิทธิ์ คนเดียวนั้นคงไม่ใช่ หากฝ่ายค้านไม่อภิปรายนายกษิต และนายชวรัตน์ด้วย จะตอบสังคมอย่างไร ชาวบ้านด่าพรรคแตกแน่นอน ต้องเข้าใจด้วยว่ารัฐธรรมนูญใหม่ถ้าไม่ยื่นอภิปรายพร้อมทั้งถอดถอนรัฐมนตรี ก็จะอภิปรายเรื่องทุจริตไม่ได้เลย มันไม่เหมือนฉบับเก่า คนในพรรคที่เคยแสดงความเห็นก่อนหน้านี้ต้องไปตั้งหลักอ่านรัฐธรรมนูญให้ดี
ส่วนเวลาที่จะยื่นญัตตินั้น ต้องหารือกันในพรรคก่อน แต่ส่วนตัวมองว่าไม่ควรรีบยื่นเพราะข้อมูลกำลังเข้ามาเรื่อยๆ เมื่อทุกคนรู้ว่าตนจะร่วมอภิปรายด้วย ข้อมูลก็ไหลเข้ามาที่ตนเยอะแยะ เพราะเขาไม่กล้าให้คนอื่น กลัวจะอธิบายได้ไม่ดีเท่าตน
**ท้ากกต.ยกคำร้องคดียุบปชป.
สำหรับคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ที่โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า มีเอกสารสำคัญบางส่วนในคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาทเข้าพรรคประชาธิปัตย์หายไปนั้น ไม่ต้องกังวล เพราะหากหายไป ตนมีหลักฐานเพิ่มให้ อยู่ในมือตนหมดแล้ว ดีกว่านั้นด้วย ส่วนตัวไม่ได้คาดหวังในเงิน 258 ล้าน แต่คาดหวังในกรณีเงิน 23 ล้านบาท ของ กกต. เพราะมันช่วยกันยาก แน่จริง กกต.ยกคำร้องเลย ตนเชื่อว่าไม่กล้า และถ้ายังงงอยู่ เดี๋ยวตนจะอภิปรายอีกครั้งหูตาจะได้สว่าง
นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวยืนยันว่าส.ส.พรรคเพื่อไทย จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลภายในปลายเดือนมี.ค.นี้ และขณะนี้อยู่ในระหว่างการหารือภายในพรรค เพื่อเร่งดำเนินการในส่วนของข้อกฎหมาย และตัวบุคคลที่จะอภิปรายว่ามีกระทรวงใดบ้าง
ส่วนรายชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกฯ ที่จะแนบในญัตติ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งไม่น่ามีปัญหา เพราะเป็นเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิก
นายวิทยา กล่าวด้วยว่า ข้อมูลหรือประเด็นในการยื่นอภิปราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ตรงกันกับที่เป็นข่าวอยู่ เช่น เรื่องจีที 200 และอัลฟา 6 การคอร์รัปชันเชิงนโยบาย โครงการต้นกล้าอาชีพ โครงการไทยเข้มแข็ง รวมทั้งประเด็นที่ลึกลงไป คือ การใช้อำนาจรัฐในทางที่มิชอบที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ การเอื้อประโยชน์ และเรื่องเงิน 8 แสนล้าน ที่เป็นปัญหาอยู่
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม เปลี่ยนใจกลับมานำทัพการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทั้งที่อาจจะไม่ได้เสนอชื่อเป็นนายกฯเงา แต่ห้ามคนบ้านเลขที่ 111 เข้ามาเกี่ยวข้องว่า ก็รู้สึกยินดี แต่คิดว่า ร.ต.อ.เฉลิม น่าจะพยายามแสดงบทบาทให้นายใหญ่เห็นว่า มีความเสียสละและเสียศักดิ์ศรี ซึ่งตนไม่เชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิม จะเสียสละได้ขนาดนี้ ทั้งที่ก็ไม่ได้รับการเสนอให้เป็นนายกฯ
ดังนั้นตนขอตั้งข้อสังเกตว่า การที่ร.ต.อ.เฉลิม ยอมกลืนน้ำลายตัวเองอย่างนี้ คงมีข้อต่อรองตกลงผลประโยชน์ลงตัวแล้ว หรือไม่ จึงทำให้ร.ต.อ.เฉลิม ยอมเช่นนี้
ส่วนเรื่องชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีเงานั้น ให้ไปโหวตกันในพรรค เรื่องก็จบ แต่อยากบอกสมาชิกบ้านเลขที่ 111 บางคนว่า อย่ามาทำให้ยุ่ง เล่นการเมืองไม่ได้ ก็ถอยไป ที่มันยุ่งอีนุงตุงนัง เสียเวลาไป 3 สัปดาห์ ก็เพราะมีแม่นาคพระโขนง ทำให้เณรต้องเสียเวลามาเรียกลงหม้อ พวกนี้ได้ดีเพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นรัฐบาลจนเคยชิน ไม่เคยทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เลยทำตัวไม่ถูก มาทำให้ยุ่งเปล่าๆ
**ต้องซักฟอก"มาร์ค-กษิต-ชวรัตน์"
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า มติของพรรคค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า จะอภิปรายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย อีกทั้งน่าจะเพิ่มเป็น 4 คนด้วย เพราะคนที่จะเพิ่มเข้ามานั้น ตนมีหลักฐานในมือ 70 % แล้ว
ส่วนกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า มีความชัดเจนเพียงแค่นายอภิสิทธิ์ คนเดียวนั้นคงไม่ใช่ หากฝ่ายค้านไม่อภิปรายนายกษิต และนายชวรัตน์ด้วย จะตอบสังคมอย่างไร ชาวบ้านด่าพรรคแตกแน่นอน ต้องเข้าใจด้วยว่ารัฐธรรมนูญใหม่ถ้าไม่ยื่นอภิปรายพร้อมทั้งถอดถอนรัฐมนตรี ก็จะอภิปรายเรื่องทุจริตไม่ได้เลย มันไม่เหมือนฉบับเก่า คนในพรรคที่เคยแสดงความเห็นก่อนหน้านี้ต้องไปตั้งหลักอ่านรัฐธรรมนูญให้ดี
ส่วนเวลาที่จะยื่นญัตตินั้น ต้องหารือกันในพรรคก่อน แต่ส่วนตัวมองว่าไม่ควรรีบยื่นเพราะข้อมูลกำลังเข้ามาเรื่อยๆ เมื่อทุกคนรู้ว่าตนจะร่วมอภิปรายด้วย ข้อมูลก็ไหลเข้ามาที่ตนเยอะแยะ เพราะเขาไม่กล้าให้คนอื่น กลัวจะอธิบายได้ไม่ดีเท่าตน
**ท้ากกต.ยกคำร้องคดียุบปชป.
สำหรับคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ที่โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า มีเอกสารสำคัญบางส่วนในคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาทเข้าพรรคประชาธิปัตย์หายไปนั้น ไม่ต้องกังวล เพราะหากหายไป ตนมีหลักฐานเพิ่มให้ อยู่ในมือตนหมดแล้ว ดีกว่านั้นด้วย ส่วนตัวไม่ได้คาดหวังในเงิน 258 ล้าน แต่คาดหวังในกรณีเงิน 23 ล้านบาท ของ กกต. เพราะมันช่วยกันยาก แน่จริง กกต.ยกคำร้องเลย ตนเชื่อว่าไม่กล้า และถ้ายังงงอยู่ เดี๋ยวตนจะอภิปรายอีกครั้งหูตาจะได้สว่าง
นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวยืนยันว่าส.ส.พรรคเพื่อไทย จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลภายในปลายเดือนมี.ค.นี้ และขณะนี้อยู่ในระหว่างการหารือภายในพรรค เพื่อเร่งดำเนินการในส่วนของข้อกฎหมาย และตัวบุคคลที่จะอภิปรายว่ามีกระทรวงใดบ้าง
ส่วนรายชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกฯ ที่จะแนบในญัตติ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งไม่น่ามีปัญหา เพราะเป็นเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิก
นายวิทยา กล่าวด้วยว่า ข้อมูลหรือประเด็นในการยื่นอภิปราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ตรงกันกับที่เป็นข่าวอยู่ เช่น เรื่องจีที 200 และอัลฟา 6 การคอร์รัปชันเชิงนโยบาย โครงการต้นกล้าอาชีพ โครงการไทยเข้มแข็ง รวมทั้งประเด็นที่ลึกลงไป คือ การใช้อำนาจรัฐในทางที่มิชอบที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ การเอื้อประโยชน์ และเรื่องเงิน 8 แสนล้าน ที่เป็นปัญหาอยู่
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม เปลี่ยนใจกลับมานำทัพการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทั้งที่อาจจะไม่ได้เสนอชื่อเป็นนายกฯเงา แต่ห้ามคนบ้านเลขที่ 111 เข้ามาเกี่ยวข้องว่า ก็รู้สึกยินดี แต่คิดว่า ร.ต.อ.เฉลิม น่าจะพยายามแสดงบทบาทให้นายใหญ่เห็นว่า มีความเสียสละและเสียศักดิ์ศรี ซึ่งตนไม่เชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิม จะเสียสละได้ขนาดนี้ ทั้งที่ก็ไม่ได้รับการเสนอให้เป็นนายกฯ
ดังนั้นตนขอตั้งข้อสังเกตว่า การที่ร.ต.อ.เฉลิม ยอมกลืนน้ำลายตัวเองอย่างนี้ คงมีข้อต่อรองตกลงผลประโยชน์ลงตัวแล้ว หรือไม่ จึงทำให้ร.ต.อ.เฉลิม ยอมเช่นนี้
