xs
xsm
sm
md
lg

พาณิชย์”จับมือเมติติวเอกชนไทย รับมือคุมส่งออกสินค้าทำอาวุธ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-กรมการค้าต่างประเทศจับมือเมติ นัดติวเข้มผู้ประกอบการไทย 3 มี.ค.นี้ รับมือควบคุมการส่งออกสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ป้องกันไม่ให้ถูกนำไปใช้ทำอาวุธร้ายแรงในการก่อการร้าย

นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ร่วมกับกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (เมติ) ของญี่ปุ่น เชิญผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเหล็ก เคมี คอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ ยุทธภัณฑ์ รวมทั้งสถาบันการศึกษา และตัวแทนขนส่งทางเรือและทางอากาศ เข้าร่วมงาน “Thailand-Japan Joint Export Control Seminar” วันที่ 3 มี.ค.2553 ณ ห้องแปซิฟิกฮอล์ โรงแรมแพน แปซิฟิก กรุงเทพฯเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ภาคเอกชนไทย เกี่ยวกับการควบคุมการส่งออกสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ทั้งทางทหารและทางพาณิชย์

“ปัจจุบันได้มีความพยายามในการนำสินค้าที่ใช้ได้สองทางไปพัฒนาเป็นอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงสำหรับใช้ในการก่อการร้าย ซึ่งความร่วมมือระหว่างกรมฯ กับเมติในครั้งนี้ จะเป็นการกระตุ้นให้ภาคเอกชนไทยให้ความสำคัญและตระหนักในเรื่องการป้องกันการก่อการร้าย และเป็นการเตรียมความพร้อมหากไทยต้องนำระบบควบคุมการส่งออกสินค้าที่ใช้ได้สองทางมาใช้”นายวิจักรกล่าว

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ประเทศที่พัฒนาแล้วพยายามผลักดันให้ประเทศต่างๆ มีระบบการควบคุมการส่งออกสินค้าที่ใช้สองทางอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้วัสดุอุปกรณ์ดังกล่าวถูกแปลงไปเป็นอาวุธตามแบบและอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงสำหรับใช้ในการก่อการร้าย และเวทีสหประชาชาติเองก็มีมติ UNSCR 1540 ให้ประเทศสมาชิก รวมทั้งไทยจัดทำระบบควบคุมการส่งออกเพื่อกำกับดูแลการแพร่ขยายของอาวุธทำลายล้างสูง

ส่วนการดำเนินการของกรมฯ ได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการควบคุมดูแลการส่งออกสินค้าที่ใช้ได้สองทาง และพบว่ามีกฎหมายควบคุมการส่งออกอยู่หลายฉบับภายใต้กระทรวงต่างๆ แต่ก็ยังมีสินค้าหลายรายการที่ยังไม่มีหน่วยงานใดดูแลเป็นการเฉพาะ ซึ่งกรมฯ ได้เข้ามาดูแลและได้มีการจัดทำบัญชีสินค้าที่อยู่ในข่ายที่จะต้องติดตามดูแลแล้ว

ยกตัวอย่างสินค้าที่จะควบคุม เช่น 1.นิวเคลียร์ เช่น ยูเรเนียม และพลูโตเนียม 2.สารเคมี จุลชีวภาพและสารพิษ เช่น ไตรเอธาโนลามีน ที่นำไปใช้ทำสบู่ ผงซักฟอก และโลชั่น แต่สามารถนำไปใช้ทำสารพิษ และควันพิษได้ด้วย และไฮโดรเจนฟลูออไรด์ ใช้ทำยาป้องกันและกำจัดศัตรูพืช และใช้ทำสารพิษได้ 3.วัสดุ อุปกรณ์ เช่น เครื่องมือกล กระจกกันรังสี และเครื่องขึ้นรูป4.อิเล็กทรอนิกส์ เช่น หลอดภาพคาโทดเย็น และเครื่องวัดความเร่ง 5.คอมพิวเตอร์ 6.โทรคมนาคม 7.เซนเซอร์ และเลเซอร์ 8.เทคโนโลยีการเดินเรือและการบิน เรือ 9.อุปกรณ์ขับเคลื่อนทางอวกาศ โดยสินค้าเหล่านี้ได้ใช้แนวทางที่สหภาพยุโรป (อียู) ใช้มาเป็นต้นแบบในการจัดทำบัญชี

สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมข้างต้น เช่น อิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ สารเคมีและยา ยานยนต์ ชิ้นส่วนและอะไหล่ เหล็ก โทรคมนาคมและธุรกิจสื่อสาร แก้วและกระจก เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น