xs
xsm
sm
md
lg

ปรับเปลี่ยนประเทศไทย หลัง ๒๖ กุมภาพันธ์

เผยแพร่:   โดย: ประเวศ วะสี

ใคร ๆ ก็พูดว่าไม่อยากเห็นความรุนแรง

แต่ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัย ถ้ามีเหตุปัจจัยให้รุนแรงก็รุนแรง

ถ้าไม่มีเหตุปัจจัยให้รุนแรงก็ไม่รุนแรง ถ้าต้องการความไม่รุนแรงก็ต้องขจัดเหตุปัจจัยที่ทำให้รุนแรง

                            ๑.
                 ๒๔๕๓ – ๒๕๕๓
      ๑๐๐ ปีแห่งการดิ้นรนไปสู่จุดลงตัวใหม่


พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ สวรรคตในปี ๒๔๕๓ ครบ ๑๐๐ ปีในปีนี้ ความเป็นสมัยใหม่ซึ่งเริ่มแต่สมัย ร.๔ ทำให้สังคมมีความหลากหลายซับซ้อนมากขึ้นทุกที ที่การปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์รองรับไม่ได้ ในสมัย ร.๕ นั้นเองเจ้านายและขุนนางปัญญาชนคนรุ่นใหม่ทำหนังสือกราบบังคมทูลให้ปฏิรูปการปกครอง ในสมัย ร.๖ นายทหารนำโดยหมอเหล็งวางแผนเปลี่ยนแปลงการปกครองแต่ถูกจับได้จึงเรียกว่ากบฏ ในสมัย ร.๗ เกิดการเปลี่ยนแปลง ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ โดยคณะราษฎร ๒๔๙๐ คณะราษฎรหมดอำนาจโดยสิ้นเชิง กองทัพเข้ามายึดอำนาจยาวนานจนเกิดเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ พฤษภาคม ๒๕๓๕ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ เกิดปฏิวัติรัฐประหารหลายครั้ง เขียนรัฐธรรมนูญตั้ง ๑๘ ฉบับ ล่าสุดมีวิกฤตการณ์ทักษิณ มีขบวนการเสื้อเหลือง เสื้อแดง และมองกันว่าบ้านเมืองแตกแยกยกใหญ่ ปริ่ม ๆ จะเกิดการนองเลือด ทั้งหมดเป็นความดิ้นรนของสังคมไทยที่จะหาจุดลงตัวใหม่ ถ้าหาไม่พบก็ดิ้นรนเรื่อยไป และอาจรุนแรงได้ ถ้ารุนแรงแล้วพบจุดลงตัวใหม่ก็ยังดี ถ้าไม่พบก็รุนแรงเรื้อรัง ที่จริงความรุนแรงเรื้อรังมีอยู่แล้ว เราเรียกว่าความรุนแรงอย่างเงียบ (Silent violence) ซึ่งมีผู้ได้รับผลกระทบและเสียชีวิตมากกว่าความรุนแรงอย่างโจ่งแจ้ง สิ่งที่หนีไม่พ้นคือหาให้พบว่าจุดลงตัวใหม่คืออะไร

                                ๒.
ความรุนแรงเชิงโครงสร้าง – โครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม


สังคมไทยมักเข้าใจเหตุปัจจัยเชิงกรรมดีกรรมชั่วที่เป็นปัจเจก แต่ขาดความเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง จึงหาทางออกไม่ได้ และมึนงงอธิบายปรากฏการณ์ต่าง ๆ ไม่ได้ เช่นว่าเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ พุทธศาสนาก็เป็นของดี แต่ทำไมจึงมีความเสื่อมเสียทางศีลธรรมเต็มไปหมด หรือว่าพระเจ้าอยู่หัวก็เป็นคนดี ทรงสั่งสอนเรื่องดี ๆ ประชาชนก็รักพระเจ้าอยู่หัว แต่ทำไมจึงมีความฉ้อฉลคอร์รัปชั่น เสื่อมเสียทางศีลธรรม แบบที่ทรงเรียกว่า “เมืองอวิชชา”

ปัญหาเชิงโครงสร้างนั้นเข้าใจยาก แต่มีผลมาก รุนแรงมาก แก้ไขได้ยากหรือแก้ไขไม่ได้ยามปรกติ นอกจากเกิดสงครามกลางเมืองหรือแพ้สงคราม ฉะนั้น ในยามปริ่ม ๆ จะเกิดความรุนแรง หรือแม้เกิดความรุนแรงไปแล้ว คนไทยควรจะพยายามทำความเข้าใจและแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่จริงขณะนี้อาจเป็นโอกาสที่มีคนไทยจำนวนมากตื่นตัวทางการเมือง อาจมากถึง ๒๐ ล้านคน จะเป็นสีเหลืองหรือสีแดงก็ไม่เป็นไร อาจจะเห็นต่างกัน แต่การที่คนจำนวนมากตื่นตัวทางการเมืองเป็นโอกาสที่จะแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างซึ่งตามปรกติทำไม่ได้ด้วยสันติวิธี

                         ๓.
ทำอย่างไรสันติวิธีจะเป็นพลังของการเปลี่ยนแปลงได้จริง

นักสันติวิธีเชื่อว่าสันติวิธีมีพลังมากในการออกจากความยากสุด ๆ โดยยกตัวอย่างขบวนการสันติอหิงสาของมหาตมะคานธีในการต่อสู้กับอำนาจอันเกรียงไกรของจักรภพอังกฤษ เนลสัน แมนเดลาที่ทำให้คนขาวที่ปกครองแอฟริกาใต้ยอมลงจากอำนาจ มาร์ติน ลูเธอร์คิง ที่ต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมที่คนดำถูกคนขาวกระทำจนกระทั่งมีวันนี้ที่คนดำเช่น โอบามา สามารถเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ในทั้ง ๓ กรณี อาจจะต่างจากไทยที่การกดขี่มาจากต่างประเทศหรือจากคนต่างเผ่าพันธุ์ ในกรณีของอินเดียการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของประเทศรวมคนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ง่าย ในกรณีของแอฟริกาใต้การกดขี่โดยแบ่งแยกผิวก็ทำให้คนพื้นเมืองทั้งหมดรวมตัวกันต่อสู้ ในสหรัฐอเมริกาแม้เป็นประเทศเดียวกัน ความอยุติธรรมที่คนขาวทำกับคนดำเริ่มจากไปจับเขามาค้าขายประดุจค้าขายปศุสัตว์ก็เป็นความสะเทือนใจเข้าไปถึงเลือดถึงเนื้อถึงดีเอ็นเอของคนดำ

ส่วนของเราความอยุติธรรมเชิงโครงสร้างดำรงมานานจนเป็นวิถีชีวิตทำให้เคยชินไม่คิดอะไรมาก แล้วก็เป็นคนผิวสีเดียวกันไม่ชัดเจนเหมือนคนผิวขาวกดขี่คนผิวดำ ในสภาพอย่างนี้การต่อสู้ด้วยสันติวิธีจะมีพลังก็เมื่อเป้าหมายของการต่อสู้นั้นสูงส่งจนทำให้คนจำนวนมากเข้าร่วม

                        ๔.
เป้าหมายอันสูงส่งของการต่อสู้ด้วยสันติวิธีคืออะไร

ความเป็นธรรมเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของการอยู่ร่วมกัน ถ้ามีความเป็นธรรมผู้คนจะรักกันมากและรักส่วนรวม ถ้าขาดความเป็นธรรมจะเกิดความขัดแย้งและความรุนแรง ผู้คนจะมีพฤติกรรมทางลบต่าง ๆ นานา อย่าว่าแต่คนเลยแม้แต่สัตว์ความเป็นธรรมก็สำคัญ เช่น สุนัข ถ้าตัวหนึ่งได้กินมาก แต่ตัวอื่น ๆ อด ก็จะกัดกันยกใหญ่ ถ้าได้กินเท่า ๆ กันก็อยู่ในความสงบ

สังคมไทยเป็นสังคมที่ขาดความเป็นธรรมทุก ๆ ทาง ทั้งทางเศรษฐกิจ ทางกฎหมาย ทางสังคม ทางการเมืองการปกครอง และเป็นต้นตอของปัญหาทั้งปวง เช่น ปัญหาความยากจน อาชญากรรม การทำลายสิ่งแวดล้อม ความขัดแย้งทางการเมือง รวมทั้งปัญหาความรุนแรงที่จังหวัดชายแดนใต้

ความยากจนเกิดจากการขาดความเป็นธรรม ไม่ใช่จากการขาดการพัฒนา เมื่อเราเร่งการพัฒนาลงไปท่ามกลางการขาดความเป็นธรรม ความไม่เป็นธรรมยิ่งเพิ่มมากขึ้น การแย่งชิงทรัพยากรยิ่งรุนแรงขึ้น ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยยิ่งห่างมากขึ้น

ช่องว่างยิ่งกว้างปัญหายิ่งมาก

ที่ประเทศนอร์เวย์ช่องว่างรายได้ระหว่างคนจนกับคนรวยห่างกัน ๔ เท่า คนนอร์เวย์ไม่ต้องการให้ช่องว่างนี้ห่างมากกว่านี้ เพราะอาชญากรรมจะสูงขึ้น อาชญากรรมแปรผันตามช่องว่าง

ประเทศไทยมีทรัพยากรต่าง ๆ มาก ถ้ามีความเป็นธรรมจะไม่มีความยากจน ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนนั้นห่างกันสุด ๆ คนจนนั้นปากกัดตีนถีบสุดกำลังยังไม่พอยังชีพขั้นพื้นฐาน ในขณะที่คนบางคนมีรายได้วันละเป็นล้านบาท เกษตรกรและผู้ใช้แรงงานหลายสิบล้านคนหาเช้ากินค่ำทำงานหนักเกิน แต่ขาดความมั่นคงในชีวิต มองไม่เห็นอนาคตของตัวเองและลูกหลาน การที่เศรษฐกิจเป็นลบทำให้เกษตรกรต้องขายทุกอย่าง เช่น ขายที่ ขายวัว ขายควาย ขายสมบัติชิ้นสุดท้ายคือขายลูกสาวไปเป็นโสเภณี ต้องผันตัวเองมาเป็นแรงงานราคาถูกในเมือง มาเป็นคนจนเมือง ฯลฯ

คนจนในชนบทกับคนชั้นกลางในเมืองอยู่ในสภาพที่ห่างกันลิบลับจึงมีทรรศนะทางการเมืองที่ต่างกันและเลือกผู้แทนที่ต่างกัน ความต่างกันนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองที่ไม่มีทางออก ความขัดแย้งทางการเมืองที่ไม่มีทางออกนำไปสู่ความรุนแรง

ผมคิดว่าจุดลงตัวใหม่อยู่ที่ความเป็นธรรม ตราบใดที่ยังขาดความเป็นธรรมความขัดแย้งและความรุนแรงไม่หมดไป ถ้าวิกฤตจนไม่มีทางออกหรือแม้เกิดความรุนแรงกันไปแล้ว คนไทยคงต้องมาตกลงร่วมกันว่าจะแก้ไขความไม่เป็นธรรมเชิงโครงสร้างทั้งทางเศรษฐกิจ ทางสังคม ทางกฎหมายและทางการเมืองการปกครอง

                        ๕.
  เหลืองกับแดงพลังต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม


ขบวนการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือสีเหลืองเกิดขึ้นเพื่อต่อสู้กับคุณทักษิณซึ่ง พธม. เห็นว่าขาดความเป็นธรรมอย่างรุนแรง พธม. เป็นการรวมตัวของประชาชนที่เข้มแข้งมาก ที่ต้องไปเลยทักษิณ ถ้าทักษิณไม่เป็นธรรมก็ไม่เป็นธรรมย่อยในโครงสร้างใหญ่ที่ไม่เป็นธรรม

ขบวนการเสื้อแดงที่นำโดยคุณทักษิณนั้นก็ว่าต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมเหมือนกัน แต่ถ้าเป้าหมายคือความเป็นธรรมให้คุณทักษิณ เป้าหมายก็จะต่ำไปไม่มีพลัง ที่จริงบางคนในขบวนการเสื้อแดงมีเป้าหมายเชิงโครงสร้างที่เป็นธรรม ถ้าขบวนการทั้งหมดถูกตีตราว่านิยมความรุนแรงและทำเพื่อทักษิณก็จะอ่อนกำลังลง ควรจะปรับขบวนการให้เป็นขบวนการต่อสู้ด้วยสันติวิธีเพื่อความเป็นธรรมเชิงโครงสร้าง

ถ้าทั้งเหลืองทั้งแดงมีเป้าหมายที่ความเป็นธรรมใหญ่ และใช้การต่อสู้ด้วยสันติวิธีและปัญญา จะร่วมกันหรือไม่ก็ตาม ก็จะกลายเป็นขบวนการประชาชนที่ใหญ่ที่สุดที่เคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่จุดลงตัวใหม่คือความเป็นธรรม

ในการนี้จะใช้แต่จำนวนคนมาก ๆ ไม่พอ แต่ต้องเป็นกระบวนการทางปัญญาด้วย เพราะความไม่เป็นธรรมนั้นซับซ้อนยากต่อการเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจสังคมก็ขับเคลื่อนไม่ได้ ฉะนั้นต้องมีการวิจัยคลี่ระบบที่ซับซ้อนออกมาให้สังคมเข้าใจว่าความไม่เป็นธรรมที่ซ่อนอยู่ในระบบนั้นคืออะไร สังคมจะได้จับต้องและขับเคลื่อน มหาวิทยาลัยทุกมหาวิทยาลัยจึงควรวิจัยเรื่องความเป็นธรรม การที่มหาวิทยาลัยไม่วิจัยเรื่องความเป็นธรรมก็ทำให้ความไม่เป็นธรรมดำรงอยู่และนำไปสู่ความรุนแรง

                         ๖.
           ประเทศไทยหัวใจมนุษย์
ร่วมสร้างประเทศไทยให้เป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุด


การขับเคลื่อนการพัฒนาด้วยโลภะ โทสะ โมหะ กำลังนำโลกทั้งโลกเข้าไปสู่วิกฤตการณ์ทุก ๆ ด้าน จนสุดทางไปแบบเดิม กำลังจะเกิดจุดเปลี่ยนทางอารยธรรม (Civilization Turning Point) ศักยภาพสูงสุดของความเป็นมนุษย์คือหัวใจของความเป็นมนุษย์ ถ้าเราปรับเปลี่ยนประเทศไทยจากประเทศไทยมุ่งกำไรสูงสุด ไปเป็นประเทศไทยหัวใจมนุษย์ เราจะสร้างสังคมสันติสุขได้โดยไม่ยากนัก ประเทศของเรามีทรัพยากรมากมายและโชคดีสุด ๆ ที่เราเป็นประเทศที่ผลิตอาหารเหลือกินต่อให้โลกวิกฤตอย่างไร ๆ ถ้าประเทศไทยรักษาจุดแข็งเรื่องอาหารของเราไว้เราก็จะไม่เป็นไร และถ้าเราทั้งหมดมีวัตถุประสงค์ร่วมกันว่าเราจะสร้างสังคมที่มีความเป็นธรรมทั้งโดยใจและโดยโครงสร้าง จะเกิดความสมานฉันท์และการรวมพลังครั้งใหญ่เพื่อสร้างประเทศไทยให้เป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุด

ไม่ยากเลยที่จะร่วมกันสร้างทุกหมู่บ้านให้เป็นหมู่บ้านน่าอยู่ ทุกตำบลเป็นตำบลน่าอยู่ ทุกเมืองเป็นเมืองน่าอยู่ ทุกจังหวัดเป็นจังหวัดน่าอยู่ ประเทศไทยทั้งประเทศเป็นประเทศน่าอยู่ ถ้าเรามีหัวใจมนุษย์และร่วมมือกัน

วิกฤตคือโอกาส โอกาสรอคนไทยอยู่แล้วที่จะร่วมสร้างประเทศไทยให้เป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น