xs
xsm
sm
md
lg

แก้งยี้ห้อยหนาว นายกสั่งสั่งสอบขายเก้าอี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- แก้งค์ยี้ห้อย หนาว "มาร์ค"ไฟเขียวป.ป.ช. สอบซื้อขายเก้าอี้ผู้ว่าฯ ส่วนเรื่องคอมพิวเตอร์ฉาวให้รอผลของคณะกรรมการพัสดุ ก่อนดำเนินการต่อไป "ปู่จิ้น" ยันไม่มีซื้อขายเก้าอี้ผู้ว่าฯ เชื่อมีขบวนการดิสเครดิตพรรค หวังผลซักฟอก ส่วนกรณีรร.นายอำเภอ ตั้ง"ศักดิ์ เตชาชาญ" คนกันเองเป็นประธานสอบ

เมื่อวานนี้ (23 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม. ถึงเรื่องร้องเรียนในกระทรวงมหาดไทย ว่ามี 2 เรื่องหลัก คือ เรื่องแรก การจัดซื้อคอมพิวเตอร์ เพื่อจัดทำทะเบียนราษฎร์ หรือ สมาร์ทการ์ด ตามที่มีการร้องเรียนที่คณะกรรมการพัสดุ กระทรวงการคลัง โดย ครม.มีมติให้ทางกระทรวงมหาดไทย รอผลของคณะกรรมการพัสดุ ก่อนที่จะมีการดำเนินการในโครงการดังกล่าวต่อไป

เรื่องที่ 2 การซื้อขายตำแหน่ง และโรงเรียนนายอำเภอ และเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ขณะนี้อยู่ในการตรวจสอบของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) ไม่ใช่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) โดย ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ถ้าตนจำไม่ผิด ในชั้นนี้อยู่ในมือขององค์กรอิสระแล้ว จะดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป

ส่วนกรณีอื่นๆ ที่มีการพาดพิงถึง ไม่ว่ากระทรวงมหาดไทย หรือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือกระทรวงอื่นใดก็ตาม ขอย้ำว่า

ถ้าข้อมูลมีการระบุพฤติการณ์ชัดเจนระดับหนึ่ง เหมือนกรณีที่เคยมีการยื่นร้องตรวจสอบตำรวจ ขอให้ส่งเข้ามา จะดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ แต่ถ้าไม่มีข้อมูลที่ยื่นเข้ามา ก็ถือเป็นการกล่าวหา เนื่องจากไม่มีพฤติกรรม หรือพฤติการณ์ดังกล่าว ซึ่งได้กำชับทุกหน่วยงานว่า เรื่องการซื้อขายตำแหน่งไม่ควรเกิดขึ้น เพราะจะเป็นสิ่งที่ทำลายระบบราชการ และสร้างความเดือดร้อนไปยังประชาชนมากที่สุด และเรื่องนี้ได้มีการทำความเข้าใจอย่างชัดเจนใน ครม. เพื่อให้รัฐมนตรีสอดส่องดูแลไม่ให้เกิดปัญหาแล้ว

ส่วนรายงานที่กระทรวงมหาดไทยส่งมาให้ในครม.นั้น เป็นรายงานสั้นๆ ตนยังไม่มีเวลาได้อ่าน คิดว่าช่วงบ่ายจะอ่าน แต่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ได้ชี้แจงด้วยตัวเองถึงเรื่องคอมพิวเตอร์ โดยชี้แจงว่ามีการเชื่อมโยงกับกระทรวงอื่นๆ เรื่องโครงการ มีเรื่องร้องที่ คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กวพ.) ครม.จึงบอกให้รอฟังผลตรงนั้น สำหรับรายละเอียด นายชวรัตน์ ได้ส่งเอกสารมาให้ตนเองต่างหาก

ส่วนเรื่องนายอำเภอ นายชวรัตน์ รายงานว่า ทางป.ป.ช. กำลังตรวจสอบอยู่ และมีรายละเอียดเป็นเอกสาร เรื่องการซื้อขายตำแหน่งระดับผู้ว่าราชการจังหวัด หรืออธิบดีต่างๆ นาย ชวรัตน์ ยืนยันว่า ไม่มี ตนบอกแล้วว่า ถ้าคนที่เชื่อว่ามี ก็ให้เอาข้อมูลมา เราพร้อมตรวจสอบอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯเชื่ออย่างนั้นหรือไม่ว่าไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวชี้แจงว่า ในกรณีที่ผ่านมา การร้องเรียนไม่จำเป็นให้ผู้ร้องแสดงตัวเสียด้วยซ้ำ แต่ขอให้สามารถระบุพฤติกรรม พฤติการณ์ที่เป็นความผิด เราทำ เราไม่ละเลย แต่ถ้ามาบอกว่า ที่นั่น ที่นี่มีการซื้อขายตำแหน่ง 20-30 ล้าน แล้วจบแค่นั้น ก็ไม่สามารถทำอะไรต่อได้ ขอให้ระบุเป็นพฤติการณ์สอบสวนได้ เราไม่ละเลยครับ ในกรณีตำรวจก็เป็นอย่างนั้น ดังนั้นใครมีข้อมูล ก็ขอให้ส่งมา

เมื่อถามว่าในเมื่ออยู่ในระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช. จำเป็นหรือไม่ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเหมือนกรณีของ นพ.บรรลุ ศิริพานิช ( กรณีทุจริตการจัดซื้อคุรภัณฑ์กระทรวงสาธารณสุข) นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่จำเป็น เพราะอยู่ในกระบวนการที่อยู่ในองค์กรอิสระ ไปถึงใครก็ไปตรวจสอบได้อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเมืองหรือข้าราชการประจำ ฉะนั้นตนจะดูอีกที เท่าที่ดูได้เพราะเป็นองค์กรอิสระ แต่คิดว่าครอบคลุมอยู่

เมื่อถามว่านายกฯจะยังยึดในกฎเหล็ก 9 ข้อใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แน่นอนว่าต้องมีกระบวนการพิสูจน์ ไม่ใช่การกล่าวหาแปลว่าต้องผิดเสมอไป ต้องดูตามน้ำหนัก เหมือนเรื่องตำรวจ มีหนังสือร้องเรียนเข้ามาเยอะมาก แต่พออ่านดูก็ไม่รู้ข้อมูลมันอยู่ตรงไหน ตรวจสอบอะไรได้บางฉบับค่อนข้างชัด เราก็ตรวจสอบ ถ้าส่งมาถึงตนก็จะทำ แต่ขณะนี้ไม่มี ทั้งนี้ ตนได้พูดในครม.ชัดเจนว่า ถ้ามีมา ตนตั้งคณะกรรมการสอบแน่

**"เทือก"ป้องไม่มีซื้อขายเก้าอี้ผู้ว่าฯ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการซื้อขายตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทย ที่เกรงกันว่าหากสอบลงลึกไปจะทำให้มีปัญหาขัดข้อระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคภูมิใจไทย ว่า เรื่องนี้นายกฯบอกแล้วว่า รัฐบาลจะดูแลทุกอย่างให้โปร่งใส เป็นธรรม เมื่อมีข้อสงสัยก็ต้องตรวจสอบ ไม่เกี่ยวกับว่าพรรคไหนๆ

ส่วนการซื้อเก้าอี้ผู้ว่าฯ จะเกี่ยวข้องกับการเตรียมจัดวางกำลังเพื่อนำไปสู่การได้เปรียบในการเลือกตั้งหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่จริง ตนไม่เชื่อว่ามีการซื้อขายตำแหน่งผู้ว่าฯ เพราะตนรู้จักคนที่เป็นผู้ว่าฯ หลายคน ซึ่งตนรู้ดีว่า คนเหล่านั้นไม่มีทางที่จะมาดำรงตำแหน่งด้วยการซื้อขาย ดังนั้นข่าวนี้ต้องถูกตรวจสอบ

**ภท.มีขบวนการดิสเครดิตพรรค

นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังการประชุมพรรคซึ่งมีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และรมว.มหาดไทย เป็นประธาน โดยนายชวรัตน์ ได้ชี้แจง และยืนยันกับส.ส.เกี่ยวกับการซื้อขายตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทยว่า ไม่เป็นความจริง เรื่องนี้นายศักดิ์สยามได้ดำเนินการฟ้องคดีกับบุคคลที่พูดจาหมิ่นประมาท และสื่อบางฉบับ ที่พาดหัวใส่ร้าย และอีก 2-3 วัน ก็จะมีการฟ้องสื่อเพิ่มเติมอีก

"รมว.มหาดไทย ยืนยันยึดหลักธรรมาภิบาลทุกเรื่อง และต่อไปนี้กรณีใดๆที่รู้ว่ามีการกระทำไม่สุจริต และมีหลักฐาน ท่านพร้อมให้ความมั่นใจ ขอให้ร้องเรียนมาที่กระทรวงมหาดไทย หรือ มท.1 จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนในทุกๆ เรื่องนับแต่นี้เป็นต้นไป และผลการตรวจสอบออกมาไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ก็จะดำเนินการอย่างเอาจริงเอาจังไม่ว่าผิด หรือถูกก็ตาม"

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิเคราะห์หรือไม่ว่า เรื่องในกระทรวงมหาดไทยเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง โฆษกพรรค กล่าวว่า เรื่องการแต่งตั้ง มีตำแหน่งน้อย คนที่ไม่ได้ตำแหน่งก็มักจะคิดว่า คนที่ได้ตำแหน่งมีความเหมาะสมน้อยกว่าตัวเอง และอาจจะมีการใช้เงิน ใช้ทองกัน ซึ่งอาจเป็นเรื่องของคนอกหัก ส่วนเรื่องการเมืองจะหมายถึงพรรคการเมืองหรือไม่นั้น คงไม่น่าจะถึงขนาดนั้น

ทั้งนี้ในระหว่างการแถลงข่าวของนายไพฑูรย์ บุญวัฒน์ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ออกมาให้ข่าวเรื่องการใช้เงินซื้อเก้าอี้ผู้ว่าฯ ก็มีส.ส.ฝ่ายค้านร่วมอยู่ด้วย ก็เชื่อว่า ตรงนี้มีเรื่องการเมืองผสมผสานอยู่ อาจจะมีการดิสเครดิตพรรคภูมิใจไทย ซึ่งนายไพฑูรย์ ก็มีประวัติการทำงาน ถ้าไปถามว่าเมื่อรับตำแหน่งนายไพฑูรย์ ซื้อมาหรือไม่ เชื่อว่านายไพฑูรย์ก็บอกว่า “ไม่มี” เพราะท่านเป็นคนมีความรู้ ความสามารถ ซึ่งคนอื่นๆ ก็มั่นใจในความสามารถเหมือนกัน จึงไม่อยากให้ตกเป็นเครื่องมือพรรคการเมืองในการมาดิสเครดิตพรรคภูใจไทย ทั้งนี้อาจเป็นไปได้ว่า ข่าวทุจริตที่ออกมาในช่วงนี้จะโยงไปถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

**ตั้งกก.สอบเรื่องโรงเรียนนายอำเภอ

เมื่อถามว่า มองว่ามีข้าราชการร่วมมือด้วยหรือไม่ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การให้ข้อมูลจากคนเสียประโยชน์ที่อกหักมีอยู่พอสมควร ทั้งนี้ขอฝากถึงสื่อมวลชนให้ระมัดระวังในการเสนอข่าว และคนที่อ้างว่ามีข้อมูล แต่ผลกระทบเกิดจากผู้ที่ไม่ได้ทำ ซึ่ง รมว.มหาดไทย ก็เชื่อว่าวันนี้มีขบวนการ ไม่ใช่เฉพาะแค่คนอกหักออกมาเดี่ยวๆ ส่วนการที่นายกรัฐมนตรี จะตั้งคณะกรรมการฯ เข้ามาตรวจสอบในเรื่องซื้อขายตำแหน่ง โฆษกฯกล่าวว่า ยินดีอยู่บนพื้นฐานที่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งล่าสุดในช่วงบ่าย รมว.มหาดไทย ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ โดยมีนายศักดิ์ เตชาชาญ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธาน ซึ่งอำนาจในการสอบสวน สืบสวนหาข้อเท็จจริงได้ และใครมีข้อมูลก็ส่งมาที่ รมว.มหาดไทย หรือศูนย์ดำรงธรรมได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ป.ป.ช. ก็สอบเรื่องทุจริตโรงเรียนนายอำเภอ การที่รมว.มหาดไทย ตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาตรวจสอบอีกจะซ้ำซ้อนกันหรือไม่ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เราไม่ได้เข้าไปก้าวล่วงองค์กรอิสระ กระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบไม่ได้มีเจตนาให้ผลออกมาตรงข้ามกับ ป.ป.ช. แต่ต้องการพิสูจน์ว่า เมื่อมีข่าวเกิดขึ้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งคณะกรรมการฯ ก็เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ หากพบความผิดกระทรวงมหาดไทย ก็มีข้อมูลที่จะประสานเชื่อมโยงไปยังป.ป.ช.ได้

เมื่อถามว่าถ้าผลสอบออกมาพบว่ามีทุจริต จะต้องเข้ากฎเหล็ก 9 ข้อ ของนายกรัฐมนตรี โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า หากผลสอบโยงไปถึงนักการเมือง ก็ต้องเปิดเผยออกมา นายกฯ ก็ต้องได้รับข้อมูล และจะต้องตัดสินใจในเรื่องนี้ ซึ่งที่ผ่านมามีการพาดพิงถึง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ซึ่งอยู่บ้านเลขที่ 109 ก็เป็นนักการเมือง เมื่อมีข่าวว่าเข้าไปทุจริตด้วย ก็เชื่อว่าเขาก็คงจะพิจารณาตัวเอง รวมถึงหากผลการสอบสวนระบุถึง รมว.มหาดไทย ท่านก็พร้อมพิจารณาตัวเองเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ยืนยันว่า การตั้งคณะกรรมการฯชุดนี้ ไม่ได้ตั้งเพื่อกันตัวเอง รมว.มหาดไทย ต้องการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการทุจริต ก็จะดำเนินการลงโทษ

**เปิดแฟ้ม"ศักดิ์"ที่แท้คนภูมิใจไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายศักดิ์ เตชาชาญ ที่นายชวรัตน์ แต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมตรวจสอบการทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอนั้น จากประวัติพบ ว่าเคยเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ก่อนจะได้รับเลือกจากวุฒิสภา ให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยที่ผ่านมา การลงมติของนายศักดิ์ หลายคดีถูกวิพากวิจารณ์อย่างมาก เช่น การเป็นตุลาการเสียงข้างมาก ในคดีซุกหุ้นภาค 1 ที่เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีความผิด ทั้งที่เป็นองค์คณะที่เข้ามาในช่วงท้ายๆของการพิจารณาคดี นอกจากนี้ ยังลงความเห็นไม่รับคำร้องในคดีซุกหุ้น ภาค 2 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ นายแก้วสรร อติโพธิ ยื่นตีความ

ล่าสุดนายศักดิ์ ยังเป็นตัวแทนของพรรคภูมิใจไทย เข้าร่วมเป็นอนุคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางสร้างความสมานฉันท์ทางการเมืองของสังคมไทย ซึ่งอยู่ในคณะกรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมือง และศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีนายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว. นนทบุรี เป็นประธานโดยอยู่ในสัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิ
กำลังโหลดความคิดเห็น