xs
xsm
sm
md
lg

ไทยออยล์ชี้เศรษฐกิจฟื้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ไทยออยล์ตั้งเป้าปีนี้ค่าการกลั่นรวม (GIM) สูงกว่า 5เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ไม่รวมสต็อกน้ำมัน) ดีกว่าปีที่แล้ว หลังเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ดึงให้รายได้และกำไรปีนี้สูงขึ้น ตั้งงบลงทุน 160 ล้านเหรียญสหรัฐใน 2ปีนี้ ยันปีนี้ไม่เห็นดีลM&Aขนาดใหญ่ เสนอตัวเป็นผู้นำธุรกิจไฟฟ้าในกลุ่มปตท. หากมีการแยกธุรกิจจากบริษัทลูกของปตท.
นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัว โดยคาดว่าปีนี้ราคาน้ำมันปรับขึ้นเฉลี่ยไม่ถึง 85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้มีค่าการกลั่นรวมเฉลี่ย (GIM) กว่า 5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ไม่รวมสต็อกน้ำมัน) สูงกว่าปีที่แล้วที่ค่าGIMอยู่ที่ 4.80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ไม่รวมสต๊อกน้ำมัน) ทำให้รายได้ในปีนี้ขยายตัว 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2.84 แสนล้านบาท ขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี (EBITDA) ก็จะดีกว่าปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 2.13 หมื่นล้านบาท
โดยปีนี้ ไทยออยล์จะมีกำไรจากสต็อกน้ำมันน้อยกว่าปี 2552 ที่มีกำไรจากสต็อกน้ำมันกว่า 1 พันล้านบาท แม้ว่าจะมีกำลังการกลั่นใกล้เคียงปีที่แล้ว 2.74 แสนบาร์เรล/วัน เนื่องจากประเมินว่าราคาน้ำมันปีนี้จะอยู่ที่ 70-85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากโรงกลั่นได้ปิดตัวไป 14 แห่ง ทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกทำให้ดีมานด์การใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น
“ในปีที่ผ่านมาโรงกลั่นปิดตัวไป 14 โรง ทำให้กำลังการกลั่นหายไปแล้ว 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้ค่าการกลั่นของโรงกลั่นไทยยังดีอยู่ ส่วนธุรกิจอะโรเมติกส์คาดว่าส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบยังดีอยู่ เนื่องจากโรงงานใหม่เลื่อนแล้วเสร็จไปเป็นไตรมาส 4 ปี 2553 ทำให้มาร์จินยังดีอยู่”นายสุรงค์กล่าว
นายสุรงค์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้จะมีการแยกธุรกิจไฟฟ้าในกลุ่มปตท. ออกออกมาแล้วให้บริษัทลูกที่มีความเชี่ยวชาญ และความแข็งแกร่งเป็นผู้รับดำเนินการไปเพื่อให้เกิด Synergy ไม่ทำงานซ้ำซ้อนกัน ซึ่งไทยออยล์เองมีจุดแข็งทั้งโรงไฟฟ้า ธุรกิจเดินเรือ โซลเวนท์ และเอทานอล โดยไทยออยล์มีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหญ่สุดใครือปตท. อย่างไรก็ตาม ปตท.จะเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องนี้อีกที
นอกจากนี้ แนวโน้มธุรกิจโซลเวนท์ยังมีโอกาสเติบโตได้ดีในปีนี้ แม้ว่าจะสร้างรายได้ให้ไทยออยล์ไม่มากก็ตาม โดยบริษัทจะขยายตลาดจากเดิมส่งออกไปที่เวียดนามตอนใต้ ก็จะขยายไปยังเวียดนามตอนเหนือ และจีนที่มณฑลกวางเจา กวางสี เป็นต้น ส่วนธุรกิจเอทานอล ไทยออยล์มีแผนจะซื้อโรงงานเอทานอลที่มีการผลิตอยู่แล้ว เพื่อต่อยอดธุรกิจ
“ปตท.อาจจะแยกไฟฟ้าจากบริษัทลูกออกมาเป็นธุรกิจ เพื่อให้เกิดSynergy ซึ่งไทยออยล์มีความพร้อมที่สุด เนื่องจากเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าใหญ่สุดในกลุ่มปตท. แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของปตท.”
ส่วนแผนการลงทุนในต่างประเทศสำหรับไทยออยล์นั้น หากลงทุนเฉพาะโรงกลั่นคงไม่ทำ เว้นแต่เป็นการลงทุนทั้งกลุ่มปตท.จากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ไทยออยล์ก็พร้อมที่จะร่วมทุนด้วย
นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการด้านการเงิน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า งบการลงทุนของไทยออยล์ใน 2ปีนี้ (2553-2554) จะใช้เงินรวม 160 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นการลงทุนในปีนี้ 106 ล้านเหรียญสหรัฐและปีหน้าอีก 54 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการลงทุนโครงการยูโร 4 โครงการอัพเกรดพาราไซลีน และอื่นๆ และยังมีแผนลงทุนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจโซลเว้นท์ เอทานอล ซึ่งมีหลายโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการศึกษา ส่วนแผนการควบรวมกิจการ (M&A ) อยู่ระหว่างการศึกษา แต่จะไม่เห็นการทำM&Aโครงการขนาดใหญ่ในปีนี้ เว้นแต่เป็นการลงทุนขนาดเล็ก
กำลังโหลดความคิดเห็น