xs
xsm
sm
md
lg

อนาถ GT200 ห่วย ชนวนใต้รุนแรง จับแพะกว่า 500 คดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ชนวนเหตุรุนแรงชายแดนใต้ “เลขาศูนย์ทนายความมุสลิม” จี้รื้อกระบวนการยุติธรรมในชายแดนใต้ หลังพิสูจน์ชัด “จีที 200” ที่ไร้ประสิทธิภาพ เผยที่แล้วมาเครื่องมือนี้ถูกใช้กวาดผู้บริสุทธิ์ให้ตกบ่วงคดีความมั่นคงจำนวนมาก แถมขบวนการสอบสวนก็ไร้ระเบียบ มีการทรมานทั้งกายและใจเหยื่ออันเป็นการละเมิดสิทธิซ้ำซ้อน ระบุแค่ปีที่แล้วปีเดียวมีถึงกว่า 500 คดีที่เกิดจากเครื่องมือที่มีค่าแค่ไม้ล้างป่าช้า และเมื่อถึงศาลมีการยกฟ้องไปแล้วถึง 39% ประกาศเร่งตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนในสงขลาตั้งรับผลกระทบจากไฟใต้ ด้าน “มาร์ค” ยังไม่สั่งยกเลิกใช้จีที 200 หลังทหารโคกโพธิ์เจอบึ้มบอกรอ ก.วิทยาศาสตร์ฯเสนอแผนต่อ ครม.วันนี้

วานนี้ (22 ก.พ.) นายสิทธิพงษ์ จันทรวิโรจน์ เลขาธิการศูนย์ทนายความมุสลิม ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.เมือง จ.ยะลา ได้เปิดเผยถึงทิศทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ว่า การใช้เครื่องมือจีที 200 ที่ไม่มีประสิทธิภาพนั้นยิ่งตอกย้ำให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนขึ้นในสังคมมากขึ้น และส่งผลกระทบการละเมิดด้านสิทธิของประชาชนผู้บริสุทธิ์มาโดยตลอด

ทั้งนี้ ในปี 2550 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เปิดยุทธการตรวจค้นและจับกุมอย่างเข้มข้นในทุกพื้นที่ โดยมีการนำเครื่องมือจีที 200 มาใช้มากที่สุด และน่าเป็นห่วงว่าผลการทำงานของรัฐในห้วงที่ผ่านมาสถิติของหน่วยงานรัฐเองชี้ว่า คดีเกี่ยวกับความมั่นคง มีอัตราการยกฟ้องสูงถึง 39.61% ซึ่งเทียบกับประเทศที่มีความเจริญแล้วมีเพียง 3% เท่านั้น สะท้อนถึงกระบวนการยุติธรรมในชั้นต้นทางที่ต้องมีการตรวจสอบและทำงานอย่างรัดกุมมากขึ้น และต้องรื้อระบบกันใหม่

ปัญหาเหล่านี้ทำให้มีศูนย์ทนายความมุสลิมได้รับเรื่องร้องเรียนความไม่เป็นธรรมทุกวัน เฉพาะปี 2552 มีการร้องเรียนจากญาติและครอบครัวของผู้ต้องสงสัย-ผู้ต้องหามากกว่า 1,300 คดี โดย 500 คดีนั้นมีสาเหตุมาจากการใช้เครื่องมือในการตรวจสอบสารขั้นต้นระเบิด หรือจีที200 ที่ไม่ได้ประสิทธิภาพ ทำให้มีการควบคุมตัวบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง สูญเสียอิสรภาพ และได้รับความทุกข์ทรมานทั้งกายใจ อีกทั้งจนถึงขณะนี้ก็ยังมีบางหน่วยงานที่เดินหน้าใช้เครื่องมือนี้ต่อไปทั้งในที่ลับและที่แจ้ง

โดยกระบวนการหลังจากที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยนั้นจะมีการควบคุมตัวนาน 7 วันเพื่อไปซักถามและทำให้มีการรับสารภาพ ก่อนที่จะคุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมีการซักถามตามมาอีกครั้ง โดยระหว่างกระบวนการซักถามพบว่า ไม่มีระเบียบในการซักถาม บีบคั้นให้รับสารภาพ ทั้งการทำร้ายร่างกายและทรมานจิตใจ เช่น นำไปในสถานที่ไม่เหมาะสม ทั้งตู้คอนเทนเนอร์แล้วเร่งแอร์ให้หนาวจัด หรือเปิดไฟตลอด 24 ชั่วโมง อันเป็นการกดดันและทรมานจิตใจจนเกิดความเครียด เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อนำคำสารภาพเป็นหลักฐานไปแจ้งจับตาม ป.วิอาญา แต่หลายเคสพบว่ามีประจักษ์พยานน้อยมาก

ทั้งนี้ แนวทางการช่วยเหลือนั้น หลังจากที่มีการรับเรื่องร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว ศูนย์ทนายความมุสลิมจะส่งผู้ช่วยทนายความติดตามและให้ความช่วยเหลือในการรักษาสิทธิเบื้องต้น เช่น จำนวนวันที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ สิทธิในการเข้าเยี่ยมจากญาติ ป้องกันการถูกซ้อม ถูกจับซ้ำซ้อน เป็นต้น และจะมีทนายความเข้าช่วยเหลือฟรีเมื่อเข้าสู่กระบวนการศาล ซึ่งแต่ละคดีแม้จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์และศาลยกฟ้องแล้วต้องกินเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี ปัญหาใหญ่อีกด้านหนึ่งคือ จำเลยร้อยละ 90% ล้วนเป็นหัวหน้าครอบครัว ทำให้มีความสูญเสียและบอบช้ำในวงกว้างมากกว่าที่คิด และรัฐยังขาดเรื่องการเยียวยาเหยื่อในกลุ่มนี้

นายสิทธิพงษ์ ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ศูนย์ทนายความมุสลิมกำลังจะเปิดศูนย์เพื่อรับเรื่องร้องเรียนในพื้นที่ จ.สงขลา ซึ่งมี 4 อำเภอที่อยู่ภายใต้ พรบ.ความมั่นคง ซึ่งมีการประกาศใช้ใหม่และจำเป็นต้องมีการติดตาม ตรวจสอบ เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบด้านการละเมิดสิทธิ ความไม่เป็นธรรมเช่นเดียวกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

**“มาร์ค”ยังไม่สั่งยกเลิกใช้จีที 200
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่วานนี้ (22 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ทหารได้นำเครื่องจีที 200 ไปใช้ตรวจวัตถุระเบิดที่โคกโพธิ์ จ.ปัตตานีแล้วเกิดเหตุระเบิดหลังการตรวจส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นายว่า อันนี้เป็นเรื่องที่ตนย้ำแล้วว่าเมื่อมีการพิสูจน์แล้วการจะนำไปใช้ก็ต้องทราบความเสี่ยง ซึ่งในการประชุม ครม.อังคารนี้ตนได้ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เสนอแผนเข้ามา ส่วนที่ความเสี่ยงทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบนั้น ตนเองก็เรียนว่าก็ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนและทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ด้วย

อย่างไรก็ตาม กระทรวงวิทยาศาสตร์ยังไม่ส่งรายงานผลการทดสอบเครื่องจีที 200 ถึงตน แต่ได้คุยกับคุณหญิงกัลยา โสภณพาณิชย์ รมว.วิทยาศาสตร์ ไปเมื่อวันที่ 21 ก.พ.แล้ว ส่วนทหารต้องชะลอการใช้ไปก่อนหรือไม่ คิดว่าวันอังคารนี้คงจะได้พูดคุยกัน จะได้นำเอาประเด็นทุกด้านมานำเสนอ จะได้ทราบปัญหาของผู้ปฏิบัติด้วย และจะได้มีแนวทางไปทำความเข้าใจกับเข้าได้เร็วที่สุด

ดังนั้น ถ้ากระทรวงวิทยาศาสตร์มีแผนมาแล้วก็จะมีกรอบเวลาที่ชัดเจนเกี่ยวกับบทสรุปของเครื่องจีที 200 ส่วนจะเชิญ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.มาคุยในที่ประชุม ครม.ด้วยหรือไม่นั้นก็ต้องดูความจำเป็น ซึ่งต้องสอบถามไปยังรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์อีกที

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีเคยระบุว่าหากหน่วยงานไหนนำจีที 200 ไปใช้หลังจากนี้ต้องรับผิดชอบเอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราย้ำไปแล้วว่ามันจะมีความเสี่ยง และจะมีปัญหาความรับผิดชอบที่ตามมา ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ อ.โคกโพธิ์ พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาค 4 ต้องรับผิดชอบหรือไม่นั้น ตนเองไม่ทราบว่าเหตุการณ์วันนี้ว่าแนวปฏิบัติที่เขาให้กับเจ้าหน้าที่คืออะไร และการปฏิบัติจริงเป็นอย่างไร แต่ไม่ใช่เรื่องการท้าทาย เป็นความคุ้นเคย เป็นความอุ่นใจของคนปฏิบัติ ซึ่งต้องไปทำความเข้าใจกับเขาว่ามันไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่จะบอกว่า ถ้าเขาไม่มีเครื่องมือตัวนี้ก็ไม่มีหลักประกันอะไรว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์

เมื่อถามว่าจีที 200 จะทำให้เพิ่มช่องว่างระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นี่คือส่วนที่ได้เตือนไปและคิดว่าทางกองทัพคงจะเข้าใจดีขึ้นว่าปัญหานี้มันจะตามมาอีกหลายเรื่องหากไม่สมารถยกเลิกการใช้ได้เร็ว

**พท.จี้ “มาร์ค-อนุพงษ์”รับผิดชอบทหารบาดเจ็บ

ส่วนที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังเกิดเหตุระเบิดตลาดสดที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นายว่า ทราบว่ามีการใช้เครื่องจีที 200 ตรวจวัตถุระเบิด แต่ในที่สุดก็เกิดระเบิดขึ้นอีก

"เรื่องนี้นายกรัฐมนตรี อย่าลอยตัวเหนือปัญหาควรต้องสั่งให้มีการยกเลิกทันที เพื่อให้ประชาชน และเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจไม่เกิดความประมาท และขอถามว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ว่าจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร จะลาออกหรือไม่ จะแถลงขอโทษประชาชนและทหารที่ตกเป็นหนูทดลองยาหรือไม่ รวมถึงนายอภิสิทธิ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีด้วยว่า จะรับผิดชอบอย่างไรกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น" นายพร้อมพงศ์ กล่าว

**ส.ว.แนะตั้งกก.สอบประสิทธิภาพ-การจัดซื้อ

ที่รัฐสภาในการประชุมวุฒิสภาวานนี้ (22 ก.พ.) มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ช่วงเปิดให้สมาชิการหารือก่อนเข้าสู่วาระ พล.ท.สุจินดา สุทธิพงศ์ ส.ว.สรรหา หารือกรณีเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 ขอฝากนายกรัฐมนตรี พิจารณาเกี่ยวกับการจัดงบประมาณในการซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นกับเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ 3 จังหกวัดภาคใต้ในการจัดหาครั้งต่อไปจะต้องมีคณะกรรมการกลางในการตรวจสอบประสิทธิภาพ และการจัดซื้อและต้องมีนักวิทยาศาสตร์และฝ่ายนโยบายเข้ามาร่วมด้วยเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และนำไปใช้ได้อย่างคุ้มค่า

ด้านนางนิลวรรณ เพชระบูรณิน ส.ว.สรรหา หารือว่าเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 ได้ตรวจสอบประสิทธิภาพแล้วพบว่า มีความไวจำเพาะแค่ 20% ซึ่งต่ำเกินกว่าที่จะนำมาใช้ได้ นายกรัฐมนตรีควรใช้ข้อมูลนี้ในการดำเนินการปรับเปลี่ยนการใช้เครื่องมือดังกล่าวต่อไป และขอฝากให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ได้ตรวจสอบเครื่องมือตรวจวัตถุอื่น ๆ ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น