เซเว่นอีเลฟเว่นเตรียมงบอีก 1,000 ล้านบาท จ่อผุดศูนย์กระจายสินค้าหรือดีซีอีก 2 แห่งที่ภาคเหนือและอีสาน รองรับการเติบโตของธุรกิจ ล่าสุดเปิดดีซีใหม่ที่สุราษฎร์ธานีด้วยงบ 500 ล้านบาท
นายพิทยา เจียรวิสิฐกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านอิ่มสะดวกเซเว่นอีเลฟเว่น เปิดเผยว่า ในปีนี้และปีหน้าบริษัทฯมีแผนที่จะก่อสร้างรวมทั้งเปิดศูนย์กระจายสินค้าในต่างจังหวัดเพิ่มอีกหลายแห่ง คาดว่าอย่างต่ำน่าจะมีประมาณ 3 แห่ง งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท ตามแผนที่จะมีทั้งในภาคเหนือและอีสาน
โดยในช่วงเมษายนนี้คาดว่าจะสามารถเปิดศูนย์กระจายสินได้ที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ด้วยงบประมาณลงทุนรวมกว่า 600 ล้านบาท แบ่งเป็นศูนย์กระจายสินค้าอุปโภคบริโภค ลงทุน 500 ล้านบาท และศูนย์กระจายสินค้าอาหารประเภทแช่เย็นหรือชีลด์ฟู้ด ลงทุน 100 ล้านบาท บนพื้นที่รวม 37 ไร่ ซึ่งสาขานี้จะใช้เป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าไปยังสาขาต่างๆของเซเว่นอีเลฟเว่นในจังหวัดต่างๆในภูมิภาคตะวันออก เพื่อเป็นการลดต้นทุนและสร้างความสะดวกรวดเร็วในการขนส่งสินค้า
ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังแผนที่จะก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มอีกแห่งในภาคเหนือด้วย ซึ่งปัจจุบันมีเปิดบริการแล้ว 1 แห่ง แต่เป็นการเช่าพื้นที่จากเจ้าของที่ดิน เดิมเป็นศูนย์กระจายสินค้าแช่เย็น อย่างไรก็ตาม แผนงานในภาคพื้นนี้คาดว่าคงใช้เวลาอีกอย่างต่ำ 2 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะใช้วิธีการเช่าที่ดินแล้วก่อสร้างหรือว่าจะใช้วิธีการซื้อขาดแล้วก็สร้างขึ้นมา ซึ่งคาดว่าต้องใช้งบลงทุนอย่างต่ำประมาณ 500 ล้านบาทเช่นกัน
สำหรับการก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าในแต่ละแห่งนั้น ต้องใช้เงินทุนไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท จึงจะได้ศูนย์ที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ และในแต่ละศูนย์นั้นจะต้องคืนทุนได้ภายในระยะเวลาประมาณ 5 ปี จึงจะคุ้มค่าต่อการลงทุน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบางแห่งจะมีระยะเวลาในการคืนทุนนานกว่า แต่ว่าสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้ รวมทั้งเพิ่มความสะดวกในการขนส่งได้ สามารถทำให้สินค้ามีคุณภาพอยู่ได้ ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่น่าลงทุนเช่นกัน
นายพิทยา กล่าวต่อว่า ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดศูนย์กระจายสินค้าประเภทอุปโภคบริโภคแห่งใหม่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พื้นที่ 26 ไร่ โดยลงทุนไปประมาณ 500 ล้านบาท เกิดการจ้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อมมากกว่า 600 คน ซึ่งศูนย์แห่งใหม่ที่สุราษฎร์ธานีนี้ จะใช้เป็นศูนย์กลางในการรับผิดชอบและส่งสินค้าให้กับร้านเซเว่นอีเลฟเว่น จำนวนมากกว่า 600 สาขา ทั้งใน 14จังหวัดภาคใต้ รวมถึงเป็นการรองรับการเติบโตของธุรกิจเซเว่นอีเลฟเว่น ในอนาคตที่ตั้งเป้าหมายว่าจะมีเปิดบริการทั่วประเทศมากกว่า 7,000 สาขาด้วย
ทั้งนี้ศูนย์ฯที่สุราษฎรธานีนี้จะช่วยทำให้สามารถบริการของธุรกิจขนาดกลางและย่อยหรือเอสเอ็มอีมีโอกาสที่จะส่งสินค้าไปยังเครือข่ายของร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในภาคใต้และทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึง หากเอสเอ็มอีรายนั้นมีศักยภาพในการผลิตที่ดีและมากเพียงพอ ซึ่งในส่วนของ 14จังหวัดภาคใต้นั้นจะทำให้การส่งสินค้าไปยังร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมีความถี่มากขึ้นเป็น 3 ครั้งต่อสัปดาห์ จากเดิมที่มีความถี่ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดได้ทันท่วงที ปัจุบันนี้เซเว่นอีเลฟเว่น มีศูนย์กระจายสินค้าทุกอย่างรวม 4 แห่ง โดยแบ่งเป็น ศูนย์กระจายสินค้าที่บางบัวทอง และกรุงเทพฯ ศูนย์กระจายสินค้าที่เชียงใหม่ และศูนย์กระจายสินค้าที่สุราษฎร์ธานี
นายพิทยา เจียรวิสิฐกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านอิ่มสะดวกเซเว่นอีเลฟเว่น เปิดเผยว่า ในปีนี้และปีหน้าบริษัทฯมีแผนที่จะก่อสร้างรวมทั้งเปิดศูนย์กระจายสินค้าในต่างจังหวัดเพิ่มอีกหลายแห่ง คาดว่าอย่างต่ำน่าจะมีประมาณ 3 แห่ง งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท ตามแผนที่จะมีทั้งในภาคเหนือและอีสาน
โดยในช่วงเมษายนนี้คาดว่าจะสามารถเปิดศูนย์กระจายสินได้ที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ด้วยงบประมาณลงทุนรวมกว่า 600 ล้านบาท แบ่งเป็นศูนย์กระจายสินค้าอุปโภคบริโภค ลงทุน 500 ล้านบาท และศูนย์กระจายสินค้าอาหารประเภทแช่เย็นหรือชีลด์ฟู้ด ลงทุน 100 ล้านบาท บนพื้นที่รวม 37 ไร่ ซึ่งสาขานี้จะใช้เป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าไปยังสาขาต่างๆของเซเว่นอีเลฟเว่นในจังหวัดต่างๆในภูมิภาคตะวันออก เพื่อเป็นการลดต้นทุนและสร้างความสะดวกรวดเร็วในการขนส่งสินค้า
ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังแผนที่จะก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มอีกแห่งในภาคเหนือด้วย ซึ่งปัจจุบันมีเปิดบริการแล้ว 1 แห่ง แต่เป็นการเช่าพื้นที่จากเจ้าของที่ดิน เดิมเป็นศูนย์กระจายสินค้าแช่เย็น อย่างไรก็ตาม แผนงานในภาคพื้นนี้คาดว่าคงใช้เวลาอีกอย่างต่ำ 2 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะใช้วิธีการเช่าที่ดินแล้วก่อสร้างหรือว่าจะใช้วิธีการซื้อขาดแล้วก็สร้างขึ้นมา ซึ่งคาดว่าต้องใช้งบลงทุนอย่างต่ำประมาณ 500 ล้านบาทเช่นกัน
สำหรับการก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าในแต่ละแห่งนั้น ต้องใช้เงินทุนไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท จึงจะได้ศูนย์ที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ และในแต่ละศูนย์นั้นจะต้องคืนทุนได้ภายในระยะเวลาประมาณ 5 ปี จึงจะคุ้มค่าต่อการลงทุน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบางแห่งจะมีระยะเวลาในการคืนทุนนานกว่า แต่ว่าสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้ รวมทั้งเพิ่มความสะดวกในการขนส่งได้ สามารถทำให้สินค้ามีคุณภาพอยู่ได้ ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่น่าลงทุนเช่นกัน
นายพิทยา กล่าวต่อว่า ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดศูนย์กระจายสินค้าประเภทอุปโภคบริโภคแห่งใหม่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พื้นที่ 26 ไร่ โดยลงทุนไปประมาณ 500 ล้านบาท เกิดการจ้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อมมากกว่า 600 คน ซึ่งศูนย์แห่งใหม่ที่สุราษฎร์ธานีนี้ จะใช้เป็นศูนย์กลางในการรับผิดชอบและส่งสินค้าให้กับร้านเซเว่นอีเลฟเว่น จำนวนมากกว่า 600 สาขา ทั้งใน 14จังหวัดภาคใต้ รวมถึงเป็นการรองรับการเติบโตของธุรกิจเซเว่นอีเลฟเว่น ในอนาคตที่ตั้งเป้าหมายว่าจะมีเปิดบริการทั่วประเทศมากกว่า 7,000 สาขาด้วย
ทั้งนี้ศูนย์ฯที่สุราษฎรธานีนี้จะช่วยทำให้สามารถบริการของธุรกิจขนาดกลางและย่อยหรือเอสเอ็มอีมีโอกาสที่จะส่งสินค้าไปยังเครือข่ายของร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในภาคใต้และทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึง หากเอสเอ็มอีรายนั้นมีศักยภาพในการผลิตที่ดีและมากเพียงพอ ซึ่งในส่วนของ 14จังหวัดภาคใต้นั้นจะทำให้การส่งสินค้าไปยังร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมีความถี่มากขึ้นเป็น 3 ครั้งต่อสัปดาห์ จากเดิมที่มีความถี่ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดได้ทันท่วงที ปัจุบันนี้เซเว่นอีเลฟเว่น มีศูนย์กระจายสินค้าทุกอย่างรวม 4 แห่ง โดยแบ่งเป็น ศูนย์กระจายสินค้าที่บางบัวทอง และกรุงเทพฯ ศูนย์กระจายสินค้าที่เชียงใหม่ และศูนย์กระจายสินค้าที่สุราษฎร์ธานี
