ปัตตานี - ตำรวจนำพนักงานเซเว่นอีเลฟเว่นที่ถูกคนร้ายปล้นมาสเก็ตซ์ภาพ และแกะภาพคนร้ายในวงจรปิด เบื้องต้นพอจะรู้เบาะแสคนร้ายบ้างแล้ว โดยน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันที่เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
วันนี้ (9 ก.พ.) หลังจากร้านสะดวกซื้อ”เซเว่นอีเลฟเว่น” สาขากลาพอ อ.เมืองปัตตานี ถูก 2 คนร้ายบุกเข้าไปทำร้ายพนักงานและชิงเงินสดไปร่วมกว่า 10,000 บาท หลบหนีลอยนวลเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้า พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้เชิญพนักงานร้านดังกล่าวที่ประสบเหตุมาสอบเพิ่มเติมถึงรูปพรรณของคนร้าย พร้อมทั้งมีการสเก็ตซ์ภาพ และนำแฟ้มประวัติอาชญากรรมมาให้พยานตรวจสอบ เนื่องจาก 1 ในคนร้ายได้เปิดเผยใบหน้าอย่างชัดเจน อีกทั้งนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาแกะรอยพฤตกรรมและรูปพรรณ
ทั้งนี้ เบื้องต้นพบว่าทั้งภาพและรูปพรรณของคนร้ายมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มที่เคยก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อในหลายแห่งที่เคยเกิดขึ้น และที่สำคัญรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายนำมาก่อเหตุในครั้งนี้ พยานจำหมายเลขทะเบียนได้ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลรถมีรถต้องสงสัยอยู่ในข่ายแล้ว จำนวน10 คัน ขณะนี้ได้ให้ชุดสืบสวนสอบสวนออกติดตามตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเชื่อว่าจะสามารถแกะรอยคนร้ายได้ในไม่ช้า
ด้าน พ.ต.อ.มนัส ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงแม้ว่าจะเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ไม่เฉพาะจังหวัดปัตตานี ทุกที่ที่มีร้านสะดวกซื้อย่อมตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มคนร้าย เนื่องจากการระวังป้องกันของร้านละหลวม เช่นกล้องวงจรปิดติดตั้งไม่ทั่วถึง หากเกิดกรณีบุกปล้นภายในร้าน การดูแลความปลอดภัยของร้านเองไม่มี ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยเวียนดูแลความปลอดภัยตลอดเวลา แต่คนร้ายยังฉวยโอกาสที่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลเข้าก่อเหตุ อย่างไรก็ตามความคืบหน้าขณะนี้พอรู้เบาะแสของคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว เบื้องต้นน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันที่เคยก่อเหตุ
วันนี้ (9 ก.พ.) หลังจากร้านสะดวกซื้อ”เซเว่นอีเลฟเว่น” สาขากลาพอ อ.เมืองปัตตานี ถูก 2 คนร้ายบุกเข้าไปทำร้ายพนักงานและชิงเงินสดไปร่วมกว่า 10,000 บาท หลบหนีลอยนวลเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้า พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้เชิญพนักงานร้านดังกล่าวที่ประสบเหตุมาสอบเพิ่มเติมถึงรูปพรรณของคนร้าย พร้อมทั้งมีการสเก็ตซ์ภาพ และนำแฟ้มประวัติอาชญากรรมมาให้พยานตรวจสอบ เนื่องจาก 1 ในคนร้ายได้เปิดเผยใบหน้าอย่างชัดเจน อีกทั้งนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาแกะรอยพฤตกรรมและรูปพรรณ
ทั้งนี้ เบื้องต้นพบว่าทั้งภาพและรูปพรรณของคนร้ายมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มที่เคยก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อในหลายแห่งที่เคยเกิดขึ้น และที่สำคัญรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายนำมาก่อเหตุในครั้งนี้ พยานจำหมายเลขทะเบียนได้ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลรถมีรถต้องสงสัยอยู่ในข่ายแล้ว จำนวน10 คัน ขณะนี้ได้ให้ชุดสืบสวนสอบสวนออกติดตามตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเชื่อว่าจะสามารถแกะรอยคนร้ายได้ในไม่ช้า
ด้าน พ.ต.อ.มนัส ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงแม้ว่าจะเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ไม่เฉพาะจังหวัดปัตตานี ทุกที่ที่มีร้านสะดวกซื้อย่อมตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มคนร้าย เนื่องจากการระวังป้องกันของร้านละหลวม เช่นกล้องวงจรปิดติดตั้งไม่ทั่วถึง หากเกิดกรณีบุกปล้นภายในร้าน การดูแลความปลอดภัยของร้านเองไม่มี ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยเวียนดูแลความปลอดภัยตลอดเวลา แต่คนร้ายยังฉวยโอกาสที่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลเข้าก่อเหตุ อย่างไรก็ตามความคืบหน้าขณะนี้พอรู้เบาะแสของคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว เบื้องต้นน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันที่เคยก่อเหตุ