ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้ประกอบการเรือด่วน-แสนแสบยื่นขอปรับขึ้นค่าโดยสารอีก 2 บาท หลังถูกกรมเจ้าท่าเบรกต้องแบกต้นทุนอ่วมมากกว่า 9 เดือน ชี้ราคาน้ำมันดีเซล 27.59 บาทต่อลิตรเกินระดับข้อตกลงแล้ว
นาวาโทปริญญา รักวาทิน อุปนายกสมาคมเรือไทย และกรรมการผู้จัดการบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2553 ที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้ยื่นหนังสือต่อนายชลอ คชรัตน์ อธิบดีกรมเจ้าท่า ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาอัตราค่าโดยสารเรือประจำทาง เพื่อขอให้มีจัดประชุมคณะกรรมการพิจารณาค่าเรือโดยสารภายในสัปดาห์หน้า
หลังจากที่ผ่านมาคณะกรรมการฯได้ขอให้สมาคมฯ ระงับการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารเรือทุกประเภทมาเป็นเวลากว่า 9 เดือน ขณะที่ระดับราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกภายในประเทศได้ปรับตัวขึ้นมาอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องมีการปรับขึ้นค่าโดยสารตามข้อตกลง ซึ่งหากคณะกรรมการฯยังไม่มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวอีก สมาคมจะเดินทางเข้าพบนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคมเพื่อชี้แจงความเดือนร้อน
ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้มีการทำหนังสือชี้แจงไปยังคณะกรรมการฯ ไปแล้วตั้งแต่ช่วงเดือนธ.ค.2552 เพื่อขอพิจารณาการปรับขึ้นค่าโดยสารเรือทุกประเภทอีก 2 บาท แต่คณะกรรมการฯ ได้ขอให้ผู้ประกอบการระงับการขึ้นค่าโดยสารไว้ก่อน เพื่อรอให้สถานการณ์ราคาน้ำมันทรงตัว และหลังจากนั้นจะมีการพิจารณาให้อีกครั้ง แต่ในขณะนี้ผู้ประกอบการเห็นว่า ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2552 ที่ผ่านมาราคาน้ำมันทรงตัวแล้ว และคณะกรรมการฯยังไม่มีทีท่าจะปรับขึ้นค่าโดยสาร จึงต้องยื่นร้องเรียน
“ขณะนี้ต้นทุนน้ำมันได้ปรับตัวสูงมากกว่า 50 % เมื่อเทียบจากต้นทุนการดำเนินการทั้งหมด ส่วนต้นทุนน้ำมันที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 30 % ซึ่งเรือด่วนเจ้าพระยาแต่ละเดือนจะมีค่าใช้จ่ายน้ำมันกว่า 10 ล้านบาท และหากไม่มีการปรับขึ้นคงเดือนร้อนแน่นอน”นาวาโทปริญญา กล่าว
ด้านนายเชาวลิต เมธยะประภาส ผู้บริหารบริษัท ครอบครัวขนส่ง จำกัด (เรือคลองแสนแสบ) ในฐานะนายกสมาคมผู้ประกอบการเจ้าของเรือไทย กล่าวภายหลังเข้าพบนายชลอ คชรัตน์ อธิบดีกรมเจ้าท่า ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการไม่สามารถแบกรับภาระราคาน้ำมัน ที่ 27.59 บาทต่อลิตรได้ จึงต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ตรึงค่าโดยสารมากว่า 9 เดือน อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นค่าโดยสาร จะต้องเป็นไปตามกลไกลตลาดและที่ได้ทำข้อตกลงหากมีการปรับขึ้นของน้ำมันตามเกณฑ์ ซึ่งขณะนี้ต้องปรับขึ้นระยะละ 2 บาท
นายชลอ คชรัตน์ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ได้รับหนังสือจากสมาคมเรือไทย และได้เข้าหารือกับนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคมแล้ว โดยคณะกรรมการฯจะ ประชุมภายในต้นเดือนมี.ค. 2553 เพื่อพิจารณาให้ตามคำเรียกร้อง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจนว่าจะปรับขึ้นค่าโดยสารตามที่ผู้ประกอบการขอมาหรือไม่
อย่างไรก็ตามหากมีการปรับขึ้นค่าโดยสารตามเรียกร้องของสมาคมเรือไทยระยะละ 2 บาทแล้ว จะส่งผลให้ เรือด่วนเจ้าพระยา (ธงส้ม) คิดค่าโดยสารจากเดิม 13 บาทตลอดสาย เป็น 15 บาทตลอดสาย ,เรือด่วนเจ้าพระยา (ธงเหลือง) จากเดิม 18 บาท เป็น 20 บาท และเรือด่วนเจ้าพระยาธงประจำทางธรรมดา จากเดิม 8-13 บาท เป็น 10 -15 บาท ส่วนเรือคลองแสนแสบ จะปรับขึ้นจากเดิมที่ 8-20 บาท เป็น 10-22 บาท.
นาวาโทปริญญา รักวาทิน อุปนายกสมาคมเรือไทย และกรรมการผู้จัดการบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2553 ที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้ยื่นหนังสือต่อนายชลอ คชรัตน์ อธิบดีกรมเจ้าท่า ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาอัตราค่าโดยสารเรือประจำทาง เพื่อขอให้มีจัดประชุมคณะกรรมการพิจารณาค่าเรือโดยสารภายในสัปดาห์หน้า
หลังจากที่ผ่านมาคณะกรรมการฯได้ขอให้สมาคมฯ ระงับการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารเรือทุกประเภทมาเป็นเวลากว่า 9 เดือน ขณะที่ระดับราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกภายในประเทศได้ปรับตัวขึ้นมาอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องมีการปรับขึ้นค่าโดยสารตามข้อตกลง ซึ่งหากคณะกรรมการฯยังไม่มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวอีก สมาคมจะเดินทางเข้าพบนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคมเพื่อชี้แจงความเดือนร้อน
ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้มีการทำหนังสือชี้แจงไปยังคณะกรรมการฯ ไปแล้วตั้งแต่ช่วงเดือนธ.ค.2552 เพื่อขอพิจารณาการปรับขึ้นค่าโดยสารเรือทุกประเภทอีก 2 บาท แต่คณะกรรมการฯ ได้ขอให้ผู้ประกอบการระงับการขึ้นค่าโดยสารไว้ก่อน เพื่อรอให้สถานการณ์ราคาน้ำมันทรงตัว และหลังจากนั้นจะมีการพิจารณาให้อีกครั้ง แต่ในขณะนี้ผู้ประกอบการเห็นว่า ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2552 ที่ผ่านมาราคาน้ำมันทรงตัวแล้ว และคณะกรรมการฯยังไม่มีทีท่าจะปรับขึ้นค่าโดยสาร จึงต้องยื่นร้องเรียน
“ขณะนี้ต้นทุนน้ำมันได้ปรับตัวสูงมากกว่า 50 % เมื่อเทียบจากต้นทุนการดำเนินการทั้งหมด ส่วนต้นทุนน้ำมันที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 30 % ซึ่งเรือด่วนเจ้าพระยาแต่ละเดือนจะมีค่าใช้จ่ายน้ำมันกว่า 10 ล้านบาท และหากไม่มีการปรับขึ้นคงเดือนร้อนแน่นอน”นาวาโทปริญญา กล่าว
ด้านนายเชาวลิต เมธยะประภาส ผู้บริหารบริษัท ครอบครัวขนส่ง จำกัด (เรือคลองแสนแสบ) ในฐานะนายกสมาคมผู้ประกอบการเจ้าของเรือไทย กล่าวภายหลังเข้าพบนายชลอ คชรัตน์ อธิบดีกรมเจ้าท่า ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการไม่สามารถแบกรับภาระราคาน้ำมัน ที่ 27.59 บาทต่อลิตรได้ จึงต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ตรึงค่าโดยสารมากว่า 9 เดือน อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นค่าโดยสาร จะต้องเป็นไปตามกลไกลตลาดและที่ได้ทำข้อตกลงหากมีการปรับขึ้นของน้ำมันตามเกณฑ์ ซึ่งขณะนี้ต้องปรับขึ้นระยะละ 2 บาท
นายชลอ คชรัตน์ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ได้รับหนังสือจากสมาคมเรือไทย และได้เข้าหารือกับนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคมแล้ว โดยคณะกรรมการฯจะ ประชุมภายในต้นเดือนมี.ค. 2553 เพื่อพิจารณาให้ตามคำเรียกร้อง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจนว่าจะปรับขึ้นค่าโดยสารตามที่ผู้ประกอบการขอมาหรือไม่
อย่างไรก็ตามหากมีการปรับขึ้นค่าโดยสารตามเรียกร้องของสมาคมเรือไทยระยะละ 2 บาทแล้ว จะส่งผลให้ เรือด่วนเจ้าพระยา (ธงส้ม) คิดค่าโดยสารจากเดิม 13 บาทตลอดสาย เป็น 15 บาทตลอดสาย ,เรือด่วนเจ้าพระยา (ธงเหลือง) จากเดิม 18 บาท เป็น 20 บาท และเรือด่วนเจ้าพระยาธงประจำทางธรรมดา จากเดิม 8-13 บาท เป็น 10 -15 บาท ส่วนเรือคลองแสนแสบ จะปรับขึ้นจากเดิมที่ 8-20 บาท เป็น 10-22 บาท.
