ASTVผู้จัดการรายวัน-สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เล็งยื่นข้อเสนอ “พรทิวา” กำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจนในการเปิดประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาล
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมสมาคมฯ วานนี้ (16 ก.พ.) ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงปัญหาการเข้าร่วมประมูลข้าวของรัฐบาลที่ผ่านมา และได้เห็นตรงกันว่าควรจะนำเสนอประเด็นที่เป็นข้อกังวลของผู้ส่งออกให้กับกระทรวงพาณิชย์นำไปพิจารณาปรับเปลี่ยนในขั้นตอนการประมูลระบายข้าวรัฐบาล เพื่อเป็นการจูงใจให้มีผู้เข้าร่วมประมูลมากขึ้น และเพื่อให้เกิดความโปร่งใส และลดทุจริตตามขั้นตอนต่างๆ โดยสมาคมฯ จะรวบรวมปัญหาและจัดทำข้อเสนอไปยังนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อประกอบการพิจารณาปรับหลักเกณฑ์ระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ ก่อนประกาศระบายข้าวในสัปดาห์หน้า
สำหรับประเด็นสำคัญที่ผู้ส่งออกต้องการให้เกิดความชัดเจน คือ ในขั้นตอนก่อนยื่นซองประมูล กระทรวงพาณิชย์ควรเตรียมตัวอย่างข้าวในแต่ละชนิดและแต่ละโกดังมาให้ผู้เข้าร่วมประมูลได้พิจารณาก่อนเสนอราคาซื้อ ซึ่งให้ยึดตัวอย่างข้าวนั้นในการกำหนดราคาซื้อขายและส่งมอบตามคุณภาพ เพิ่มจำนวนวันการตรวจเช็คสภาพข้าวจากเดิมมักแจ้งล่วงหน้าก่อนยื่นประมูลไม่เกิน 3 วัน ให้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 7 วัน เพราะที่ผ่านมาติดปัญหาเช็คสภาพข้าวไม่ทันเวลาหรือหัวหน้าคลังไม่อยู่ประจำ
ในขั้นตอนการประมูล ควรปรับจากวิธีการเจรจาหลังเปิดซองราคาเสนอซื้อ เป็นการยึดตามราคาที่เสนอที่เท่าหรือสูงกว่าราคากลางที่กำหนดไว้ หรือเรียกเจรจาผู้ที่ให้ราคาสูงสุดไม่เกิน 3 ราย ซึ่งจะเป็นการสร้างหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนและสร้างความมั่นใจให้ผู้เข้าประมูล จากเดิมไม่รู้ว่าเรียกรายใดเข้าเจรจาต่อรองราคาเพิ่ม
ในขั้นการส่งมอบ ควรชัดเจนวันที่รับมอบได้จริง เช่น เดิมกำหนดรับมอบภายใน 30 วัน ก็ขอให้ระบุเพิ่มรับมอบภายใน 30 วันทำการ เพราะจะได้ไม่ติดวันหยุดทำการหรือหยุดยาวในช่วงเทศกาลต่างๆ ซึ่งทำให้ต้นทุนสูงขึ้น และกำหนดอัตราเปอร์เซ็นต์การขาดน้ำหนักต่อกระสอบเหลือ 98 กก.แทน 100 กก. เพราะการจัดเก็บและการขนย้ายมักทำให้น้ำหนักขาดและรัฐคืนเงินช้า นอกจากนี้ จะเสนอให้เปิดกว้างระบายเพื่อใช้ประเทศและส่งออก แทนการระบายเพื่อส่งออกอย่างเดียวด้วย
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ได้มีมติให้กระทรวงพาณิชย์เร่งระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลจำนวน 3.75 แสนตันโดยเร็ว ซึ่งคาดว่าจะมีการออกประกาศร่างทีโออาร์ประมูลข้าวได้ภายในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ได้ตกลงเรื่องค่าเสื่อมสภาพข้าวได้แล้ว
ทั้งนี้ ในวันที่ 17 ก.พ.นี้ ยังจะมีการประชุมคณะกรรมการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า คาดว่าจะมีการขออนุมัติการระบายข้าวในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (เอเฟต) ภายในต้นสัปดาห์หน้า จำนวน 3-4 แสนตัน ตามนโยบายกขช. ที่เร่งรัดการระบายข้าวในเอเฟต หลังเอกชนต้องการให้มีการระบายข้าวก่อนที่โครงการประกันรายได้รอบสองจะเริ่มขึ้นในเดือนเม.ย.-พ.ค.นี้
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมสมาคมฯ วานนี้ (16 ก.พ.) ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงปัญหาการเข้าร่วมประมูลข้าวของรัฐบาลที่ผ่านมา และได้เห็นตรงกันว่าควรจะนำเสนอประเด็นที่เป็นข้อกังวลของผู้ส่งออกให้กับกระทรวงพาณิชย์นำไปพิจารณาปรับเปลี่ยนในขั้นตอนการประมูลระบายข้าวรัฐบาล เพื่อเป็นการจูงใจให้มีผู้เข้าร่วมประมูลมากขึ้น และเพื่อให้เกิดความโปร่งใส และลดทุจริตตามขั้นตอนต่างๆ โดยสมาคมฯ จะรวบรวมปัญหาและจัดทำข้อเสนอไปยังนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อประกอบการพิจารณาปรับหลักเกณฑ์ระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ ก่อนประกาศระบายข้าวในสัปดาห์หน้า
สำหรับประเด็นสำคัญที่ผู้ส่งออกต้องการให้เกิดความชัดเจน คือ ในขั้นตอนก่อนยื่นซองประมูล กระทรวงพาณิชย์ควรเตรียมตัวอย่างข้าวในแต่ละชนิดและแต่ละโกดังมาให้ผู้เข้าร่วมประมูลได้พิจารณาก่อนเสนอราคาซื้อ ซึ่งให้ยึดตัวอย่างข้าวนั้นในการกำหนดราคาซื้อขายและส่งมอบตามคุณภาพ เพิ่มจำนวนวันการตรวจเช็คสภาพข้าวจากเดิมมักแจ้งล่วงหน้าก่อนยื่นประมูลไม่เกิน 3 วัน ให้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 7 วัน เพราะที่ผ่านมาติดปัญหาเช็คสภาพข้าวไม่ทันเวลาหรือหัวหน้าคลังไม่อยู่ประจำ
ในขั้นตอนการประมูล ควรปรับจากวิธีการเจรจาหลังเปิดซองราคาเสนอซื้อ เป็นการยึดตามราคาที่เสนอที่เท่าหรือสูงกว่าราคากลางที่กำหนดไว้ หรือเรียกเจรจาผู้ที่ให้ราคาสูงสุดไม่เกิน 3 ราย ซึ่งจะเป็นการสร้างหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนและสร้างความมั่นใจให้ผู้เข้าประมูล จากเดิมไม่รู้ว่าเรียกรายใดเข้าเจรจาต่อรองราคาเพิ่ม
ในขั้นการส่งมอบ ควรชัดเจนวันที่รับมอบได้จริง เช่น เดิมกำหนดรับมอบภายใน 30 วัน ก็ขอให้ระบุเพิ่มรับมอบภายใน 30 วันทำการ เพราะจะได้ไม่ติดวันหยุดทำการหรือหยุดยาวในช่วงเทศกาลต่างๆ ซึ่งทำให้ต้นทุนสูงขึ้น และกำหนดอัตราเปอร์เซ็นต์การขาดน้ำหนักต่อกระสอบเหลือ 98 กก.แทน 100 กก. เพราะการจัดเก็บและการขนย้ายมักทำให้น้ำหนักขาดและรัฐคืนเงินช้า นอกจากนี้ จะเสนอให้เปิดกว้างระบายเพื่อใช้ประเทศและส่งออก แทนการระบายเพื่อส่งออกอย่างเดียวด้วย
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ได้มีมติให้กระทรวงพาณิชย์เร่งระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลจำนวน 3.75 แสนตันโดยเร็ว ซึ่งคาดว่าจะมีการออกประกาศร่างทีโออาร์ประมูลข้าวได้ภายในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ได้ตกลงเรื่องค่าเสื่อมสภาพข้าวได้แล้ว
ทั้งนี้ ในวันที่ 17 ก.พ.นี้ ยังจะมีการประชุมคณะกรรมการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า คาดว่าจะมีการขออนุมัติการระบายข้าวในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (เอเฟต) ภายในต้นสัปดาห์หน้า จำนวน 3-4 แสนตัน ตามนโยบายกขช. ที่เร่งรัดการระบายข้าวในเอเฟต หลังเอกชนต้องการให้มีการระบายข้าวก่อนที่โครงการประกันรายได้รอบสองจะเริ่มขึ้นในเดือนเม.ย.-พ.ค.นี้