เฟสต้า เล็งเปิดเวทีให้กรมสรรพากร ชี้แจงหลักเกณฑ์การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มแพกเกจทัวร์ ให้สมาชิกเฟสต้าได้รับทราบกันอย่างทั่วถึง เหตุที่ผ่านมาผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวยังไม่ได้ความกระจ่าง เป็นเหตุต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มซ้ำซ้อน กระทบผู้บริโภคต้องซื้อทัวร์ที่แพง ด้านนายกทีทีเอเอ มั่นใจถ้าทุกอย่างเข้าใจตรงกัน
ค่าทัวร์ก็จะถูกลง ผู้บริโภคได้ประโยชน์
นายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธานที่ปรึกษาสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(ทีทีเอเอ) และ หนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (เฟสต้า) เปิดเผยว่า จากการได้เป็นตัวแทนผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว ภายใต้เฟสต้า เข้าพบหารือกับอธิบดีกรมสรรพากรเมื่อวันที่ 12 ก.พ.53 เพื่อขอความชัดเจนเรื่องแนวทางการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)แพกเกจทัวร์ท่องเที่ยว โดยขอให้สำนักงานสรรพกรพื้นที่ทั่วประเทศใช้มาตรฐานเดียวกันในการจัดเก็บ
จากข้อเรียกร้องดังกล่าว อธิบดีกรมสรรพากร ได้ชี้แจงถึงแนวทางการเก็บภาษีVATในสินค้าและบริการกลุ่มนี้ให้ได้รับทราบอย่างละเอียด พร้อมรับปากว่าจะมาช่วยชี้แจงทำความเข้าใจให้แก่ผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว ผ่านเวทีการประชุมของเฟสต้าที่จะจัดให้มีขึ้นในครั้งต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ประกอบารบริษัทนำเที่ยวมาร่วมรับฟังราว 200 ราย โดยมีจุดประสงค์ให้ผู้ประกอบการได้เข้าใจถึงหลักเกณฑ์ของการจัดเก็บภาษีVATสำหรับแพกเกจทัวร์ได้ตรงกัน
“หากได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการจำนวนมาก เฟสต้าจะพิจารณาเปิดเวทีการชี้แจงในรูปแบบนี้อีก 1 ครั้งเพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับรู้หลักเกณฑ์ได้วงกว้างครอบคลุมทั่วประเทศ”
อย่างไรก็ตาม กรมสรรพกร แจ้งว่า ก่อนหน้านี้เคยทำหนังสือชี้แจงไปยังผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว ในเรื่องแนวทางการจัดเก็บภาษีVAT โดยแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ 1. การทำทัวร์สำหรับกลุ่มท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล(อินเซนทีฟทัวร์) และ 2. การทำทัวร์ทั่วไป ที่ผู้ประกอบการขายแพกเกจทัวร์ให้แก่ผู้ซื้อ
ทั้งนี้รูปแบบของอินเซนทีฟทัวร์ ที่มีผู้จ้างเหมาให้ทำทัวร์กลุ่ม ต้องมีการทำสัญญาบ่งชี้ชัดเจน โดยแยกค่าใช้จ่ายตั๋วโดยสารเครื่องบิน และ ค่าใช้จ่ายสำหรับบริหารจัดการในต่างประเทศออกจากกัน ส่วนกรณี เป็นทัวร์นำคนไทยไปต่างประเทศ ก็จัดเก็บภาษีVAT เฉพาะค่ารับจ้างทำทัวร์อินเซนทีฟ โดยไม่ต้องนำค่าตั๋วโดยสารเครื่อบินและค่าใช้จ่ายสำหรับตัวแทนในต่างประเทศเข้ามารวม
สำหรับการทำทัวร์ทั่วไป การขายแพกเกจทัวร์ให้แก่ผู้ซื้อ ซึ่งจะไม่มีการแยกให้ผู้ซื้อเห็นว่า เป็นค่าตั๋วเครื่องบินเท่าใด ค่าบริหารจัดการในต่างประเทศเท่าใด จะดำเนินการจัดเก็บภาษีVATแบบนับรวมทั้งแพกเกจ เว้นแต่ว่าแพกเกจนั้นๆมีการระบุชัดเจนให้ผู้ซื้อรับทราบว่าเป็นค่าตั๋วเครื่องบินเท่าใด ค่าบริหารจัดการในต่างประเทศเท่าใด
ก็จะคิดภาษีVATเฉพาะค่าบริการทัวร์เท่านั้น
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(ทีทีเอเอ) ในฐานะโฆษกเฟสต้า กล่าวว่า หากผู้ประกอบการได้เข้าใจถึงวิธีการจัดเก็บภาษีVAT แพกเกเจทัวร์จากกรมสรรพากร จะทำให้สามารถนำเสนอขายแพกเกจทัวร์ได้ราคาถูกลง เป็นผลดีต่อผู้บริโภค เพราะ ไม่จำเป็นต้องนำค่าตั๋วเครื่องบินไปบวกให้ต้องมีการจัดเก็บภาษีVAT ให้ซ้ำซ้อนไปด้วย เพราะ ความจริง ตั๋วเครื่องบิน ได้มีการบวกภาษีVAT เข้าไปแล้ว ซึ่งหากสามารถสร้างความเข้าใจได้ทั่วถึง เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวได้แน่นอน
ค่าทัวร์ก็จะถูกลง ผู้บริโภคได้ประโยชน์
นายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธานที่ปรึกษาสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(ทีทีเอเอ) และ หนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (เฟสต้า) เปิดเผยว่า จากการได้เป็นตัวแทนผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว ภายใต้เฟสต้า เข้าพบหารือกับอธิบดีกรมสรรพากรเมื่อวันที่ 12 ก.พ.53 เพื่อขอความชัดเจนเรื่องแนวทางการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)แพกเกจทัวร์ท่องเที่ยว โดยขอให้สำนักงานสรรพกรพื้นที่ทั่วประเทศใช้มาตรฐานเดียวกันในการจัดเก็บ
จากข้อเรียกร้องดังกล่าว อธิบดีกรมสรรพากร ได้ชี้แจงถึงแนวทางการเก็บภาษีVATในสินค้าและบริการกลุ่มนี้ให้ได้รับทราบอย่างละเอียด พร้อมรับปากว่าจะมาช่วยชี้แจงทำความเข้าใจให้แก่ผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว ผ่านเวทีการประชุมของเฟสต้าที่จะจัดให้มีขึ้นในครั้งต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ประกอบารบริษัทนำเที่ยวมาร่วมรับฟังราว 200 ราย โดยมีจุดประสงค์ให้ผู้ประกอบการได้เข้าใจถึงหลักเกณฑ์ของการจัดเก็บภาษีVATสำหรับแพกเกจทัวร์ได้ตรงกัน
“หากได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการจำนวนมาก เฟสต้าจะพิจารณาเปิดเวทีการชี้แจงในรูปแบบนี้อีก 1 ครั้งเพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับรู้หลักเกณฑ์ได้วงกว้างครอบคลุมทั่วประเทศ”
อย่างไรก็ตาม กรมสรรพกร แจ้งว่า ก่อนหน้านี้เคยทำหนังสือชี้แจงไปยังผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว ในเรื่องแนวทางการจัดเก็บภาษีVAT โดยแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ 1. การทำทัวร์สำหรับกลุ่มท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล(อินเซนทีฟทัวร์) และ 2. การทำทัวร์ทั่วไป ที่ผู้ประกอบการขายแพกเกจทัวร์ให้แก่ผู้ซื้อ
ทั้งนี้รูปแบบของอินเซนทีฟทัวร์ ที่มีผู้จ้างเหมาให้ทำทัวร์กลุ่ม ต้องมีการทำสัญญาบ่งชี้ชัดเจน โดยแยกค่าใช้จ่ายตั๋วโดยสารเครื่องบิน และ ค่าใช้จ่ายสำหรับบริหารจัดการในต่างประเทศออกจากกัน ส่วนกรณี เป็นทัวร์นำคนไทยไปต่างประเทศ ก็จัดเก็บภาษีVAT เฉพาะค่ารับจ้างทำทัวร์อินเซนทีฟ โดยไม่ต้องนำค่าตั๋วโดยสารเครื่อบินและค่าใช้จ่ายสำหรับตัวแทนในต่างประเทศเข้ามารวม
สำหรับการทำทัวร์ทั่วไป การขายแพกเกจทัวร์ให้แก่ผู้ซื้อ ซึ่งจะไม่มีการแยกให้ผู้ซื้อเห็นว่า เป็นค่าตั๋วเครื่องบินเท่าใด ค่าบริหารจัดการในต่างประเทศเท่าใด จะดำเนินการจัดเก็บภาษีVATแบบนับรวมทั้งแพกเกจ เว้นแต่ว่าแพกเกจนั้นๆมีการระบุชัดเจนให้ผู้ซื้อรับทราบว่าเป็นค่าตั๋วเครื่องบินเท่าใด ค่าบริหารจัดการในต่างประเทศเท่าใด
ก็จะคิดภาษีVATเฉพาะค่าบริการทัวร์เท่านั้น
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(ทีทีเอเอ) ในฐานะโฆษกเฟสต้า กล่าวว่า หากผู้ประกอบการได้เข้าใจถึงวิธีการจัดเก็บภาษีVAT แพกเกเจทัวร์จากกรมสรรพากร จะทำให้สามารถนำเสนอขายแพกเกจทัวร์ได้ราคาถูกลง เป็นผลดีต่อผู้บริโภค เพราะ ไม่จำเป็นต้องนำค่าตั๋วเครื่องบินไปบวกให้ต้องมีการจัดเก็บภาษีVAT ให้ซ้ำซ้อนไปด้วย เพราะ ความจริง ตั๋วเครื่องบิน ได้มีการบวกภาษีVAT เข้าไปแล้ว ซึ่งหากสามารถสร้างความเข้าใจได้ทั่วถึง เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวได้แน่นอน
