ASTVผู้จัดการรายวัน – ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเล็งอ้อนรัฐต่ออายุมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว ยกเว้นค่าวีซ่า จนถึงจบโลว์ซีซั่นปีนี้ ชี้ไทยยังต้องพึ่งตลาดเอเชีย อย่างจีน อินเดีย เพราะยุโรปเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นเป็นปกติ ระบุที่ผ่านมาผลจากการออกมาตรการตลาดตอบรับดี ยันถ้าทำได้ตลาดจีนปีนี้มีหวังโกยนักท่องเที่ยว 1.2 ล้านคน
นายอภิชาติ สังฆอารี ที่ปรึกษากิติมศักดิ์ สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนท่องเที่ยวยังคงต้องการให้รัฐบาลต่ออายุมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวที่จะเริ่มทยอยสิ้นสุดระยะเวลาในเดือน มี.ค. 53 ต่อไปอีกอย่างน้อยให้ถึงเดือน มิ.ย.53 หรือจนกว่าจะหมดช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) ปีนี้(30ก.ย.53)
โดยแอตต้าจะนำเรื่องเข้าหารือกับสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟสต้า) ซึ่งมีสมาชิกในกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกว่า 17 สมาคมทั่วประเทศ เพื่อขอความเห็นชอบร่วมกัน ก่อนจะทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรส่งถึง นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้พิจาณาพร้อมนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อต่ออายุมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวต่อไปอีกสักระยะ
เศรษฐกิจยุโรปยังไม่ฟื้นไทยต้องพึ่งเอเชีย
ต้องยอมรับว่ามาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวที่รัฐบาลออกมานั้นใช้ได้ผลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า และ ค่าจอดเครื่องบิน(แลนดิ้งฟรี) สามารถกระตุ้นนักท่องเที่ยวจากตลาดจีนและอินเดีย ให้เดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ กำลังซื้อจากตลาดยุโรปยังไม่กลับมาเท่าที่ควร ดังนั้น ในปี 2553 ประเทศไทยยังจำเป็นต้องพึ่งตลาดเอเชีย โดยเฉพาะ จีนและอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ เศรษฐกิจดี มีกำลังซื้อสูง
นายอภิชาติ กล่าวว่า ช่วงโลว์ซีซั่น ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรปเดินทางเข้ามาจำนวนมาก เช่น สเปน อิตาลี ซึ่งประเทศกลุ่มนี้ยังไม่ฟื้นจากวิกฤติเศรษฐกิจมากนัก จึงค่อนข้างมั่นใจว่า ในปีนี้ก็ยังคงชะลอการเดินทางท่องเที่ยวระยะทางไกล แต่จะเที่ยวในระยะทางใกล้แทน ซึ่งก็มีประเทศยอดนิยมที่ประเทศในกลุ่มนี้นิยมเดินทางเข้าไป เช่น อิหร่าน และ ตุรกี เพราะค่าตั๋วเครื่องบินถูกกว่าเดินทางมาประเทศไทยถึงเท่าตัว และยังมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มเดินทางแบบครอบครัว สภาพอากาศก็อบอุ่น ไม่แพ้ประเทศไทย
“กำลังซื้อนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วงนี้ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก โดยเฉพาะประเทศที่เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจและการเงิน เห็นได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าพักในโรงแรม จ.ภูเก็ต ซึ่งมีการใช้จ่ายต่อบิลภายในโรงแรมลดลงกว่า 50% เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ทานอาหาร หรือมินิบาร์ในโรงแรม แต่ไปซื้อทานจากนอกโรงแรมซึ่งราคาถูกกว่า ทั้งที่ปกตินักท่องเที่ยวจากยุโรป จะนิยมใช้ชีวิตและจับจ่ายภายในโรงแรมนั้น เพื่อต้องการพักผ่อนให้มากที่สุด”
ทัวร์จีนอ้อนรัฐต่อมาตรการฟรีวีซ่า
ทางด้านนายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ ไทย-จีน กล่าวว่า เร็วๆนี้จะเรียกประชุมคณะกรรมการ เพื่อหารือถึงแนวทางการขอให้รัฐบาลต่ออายุมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว โดยจะส่งหนังสือผ่านไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวฯให้ช่วยผลักดันการต่ออายุมาตรการ เพราะต้องยอมรับว่าสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยยังไม่ปกติ100%
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่รัฐบาลต้องให้สิทธิพิเศษ โดยใช้มาตรการกระตุ้นเพื่อส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง โดยเฉพาะมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวชาวจีน เพราะสามารถลดค่าใช้จ่ายให้แก่นักท่องเที่ยวได้ถึงคนละ 1,000 บาท จึงต้องการให้รัฐบาลต่ออายุมาตรการนี้ออกไปอีกจากเดิมที่จะครบกำหนดในสิ้นเดือนมี.ค.53
จีนเป็นนักท่องเที่ยวตลาดใหญ่ของไทย โดยมีพฤติกรรมท่องเที่ยวแบบชอปปิ้ง จับจ่ายอย่างแท้จริง ช่วยกระจายรายได้เข้าเศรษฐกิจไทยได้มาก และหากปีนี้ประเทศไทยมีมาตรการดีๆและโปรโมชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยวต่อเนื่องตลอดปี คาดว่าตลอดปีจะกระตุ้นให้ชาวจีนเดินทางเข้ามาประเทศไทยได้ 1 ล้าน – 1.2 ล้านคน เพิ่มจากปี 2552 เกือบเท่าตัวจากที่ทำได้ราว 7 แสนคน
อย่างไรก็ตาม ช่วงเทศกาลตรุษจีน 14 ก.พ.53 นี้ ล่าสุดผู้ประกอบการเริ่มจำหน่ายแพกเกจทัวร์แล้ว โดยมีการจัดเที่ยวบินเช่าเหมาลำไว้มากถึง 100 เที่ยวบิน มาลงใน 3 เดสติเนชั่นหลัก ได้แก่ กรุงเทพ พัทยา และ ภูเก็ต ซึ่งตลาดตอบรับดี คาดว่าตรุษจีนและเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ตลาดจีนจะคึกคักกว่าปีก่อนเกือบเท่าตัวแน่นอน
นายอภิชาติ สังฆอารี ที่ปรึกษากิติมศักดิ์ สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนท่องเที่ยวยังคงต้องการให้รัฐบาลต่ออายุมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวที่จะเริ่มทยอยสิ้นสุดระยะเวลาในเดือน มี.ค. 53 ต่อไปอีกอย่างน้อยให้ถึงเดือน มิ.ย.53 หรือจนกว่าจะหมดช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) ปีนี้(30ก.ย.53)
โดยแอตต้าจะนำเรื่องเข้าหารือกับสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟสต้า) ซึ่งมีสมาชิกในกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกว่า 17 สมาคมทั่วประเทศ เพื่อขอความเห็นชอบร่วมกัน ก่อนจะทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรส่งถึง นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้พิจาณาพร้อมนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อต่ออายุมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวต่อไปอีกสักระยะ
เศรษฐกิจยุโรปยังไม่ฟื้นไทยต้องพึ่งเอเชีย
ต้องยอมรับว่ามาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวที่รัฐบาลออกมานั้นใช้ได้ผลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า และ ค่าจอดเครื่องบิน(แลนดิ้งฟรี) สามารถกระตุ้นนักท่องเที่ยวจากตลาดจีนและอินเดีย ให้เดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ กำลังซื้อจากตลาดยุโรปยังไม่กลับมาเท่าที่ควร ดังนั้น ในปี 2553 ประเทศไทยยังจำเป็นต้องพึ่งตลาดเอเชีย โดยเฉพาะ จีนและอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ เศรษฐกิจดี มีกำลังซื้อสูง
นายอภิชาติ กล่าวว่า ช่วงโลว์ซีซั่น ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรปเดินทางเข้ามาจำนวนมาก เช่น สเปน อิตาลี ซึ่งประเทศกลุ่มนี้ยังไม่ฟื้นจากวิกฤติเศรษฐกิจมากนัก จึงค่อนข้างมั่นใจว่า ในปีนี้ก็ยังคงชะลอการเดินทางท่องเที่ยวระยะทางไกล แต่จะเที่ยวในระยะทางใกล้แทน ซึ่งก็มีประเทศยอดนิยมที่ประเทศในกลุ่มนี้นิยมเดินทางเข้าไป เช่น อิหร่าน และ ตุรกี เพราะค่าตั๋วเครื่องบินถูกกว่าเดินทางมาประเทศไทยถึงเท่าตัว และยังมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มเดินทางแบบครอบครัว สภาพอากาศก็อบอุ่น ไม่แพ้ประเทศไทย
“กำลังซื้อนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วงนี้ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก โดยเฉพาะประเทศที่เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจและการเงิน เห็นได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าพักในโรงแรม จ.ภูเก็ต ซึ่งมีการใช้จ่ายต่อบิลภายในโรงแรมลดลงกว่า 50% เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ทานอาหาร หรือมินิบาร์ในโรงแรม แต่ไปซื้อทานจากนอกโรงแรมซึ่งราคาถูกกว่า ทั้งที่ปกตินักท่องเที่ยวจากยุโรป จะนิยมใช้ชีวิตและจับจ่ายภายในโรงแรมนั้น เพื่อต้องการพักผ่อนให้มากที่สุด”
ทัวร์จีนอ้อนรัฐต่อมาตรการฟรีวีซ่า
ทางด้านนายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ ไทย-จีน กล่าวว่า เร็วๆนี้จะเรียกประชุมคณะกรรมการ เพื่อหารือถึงแนวทางการขอให้รัฐบาลต่ออายุมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว โดยจะส่งหนังสือผ่านไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวฯให้ช่วยผลักดันการต่ออายุมาตรการ เพราะต้องยอมรับว่าสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยยังไม่ปกติ100%
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่รัฐบาลต้องให้สิทธิพิเศษ โดยใช้มาตรการกระตุ้นเพื่อส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง โดยเฉพาะมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวชาวจีน เพราะสามารถลดค่าใช้จ่ายให้แก่นักท่องเที่ยวได้ถึงคนละ 1,000 บาท จึงต้องการให้รัฐบาลต่ออายุมาตรการนี้ออกไปอีกจากเดิมที่จะครบกำหนดในสิ้นเดือนมี.ค.53
จีนเป็นนักท่องเที่ยวตลาดใหญ่ของไทย โดยมีพฤติกรรมท่องเที่ยวแบบชอปปิ้ง จับจ่ายอย่างแท้จริง ช่วยกระจายรายได้เข้าเศรษฐกิจไทยได้มาก และหากปีนี้ประเทศไทยมีมาตรการดีๆและโปรโมชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยวต่อเนื่องตลอดปี คาดว่าตลอดปีจะกระตุ้นให้ชาวจีนเดินทางเข้ามาประเทศไทยได้ 1 ล้าน – 1.2 ล้านคน เพิ่มจากปี 2552 เกือบเท่าตัวจากที่ทำได้ราว 7 แสนคน
อย่างไรก็ตาม ช่วงเทศกาลตรุษจีน 14 ก.พ.53 นี้ ล่าสุดผู้ประกอบการเริ่มจำหน่ายแพกเกจทัวร์แล้ว โดยมีการจัดเที่ยวบินเช่าเหมาลำไว้มากถึง 100 เที่ยวบิน มาลงใน 3 เดสติเนชั่นหลัก ได้แก่ กรุงเทพ พัทยา และ ภูเก็ต ซึ่งตลาดตอบรับดี คาดว่าตรุษจีนและเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ตลาดจีนจะคึกคักกว่าปีก่อนเกือบเท่าตัวแน่นอน