ASTVผู้จัดการรายวัน- "เหวง" อ้ำอึ้ง"แม้ว"โอนเงินเข้าบัญชีหรือไม่ จี้"สามเกลอ" แจงบัญชีเงินบริจาคเสื้อแดง หลังมีข้อครหา "สู้แล้วรวย" ระบุควรชุมนุมใหญ่หลัง 26 ก.พ. เพื่อกลบภาพสู้เพื่อ"แม้ว" ชี้ "พัลลภ-เสธ.แดง" เดินเกมแรงต้องขีดเส้นชัดเจน ด้านรองโฆษกรัฐบาลแฉเส้นทางเงินนอกทั้งหิ้ว ทั้งโอนเข้าบัญชี ขณะที่ดีเอสไอ ชี้โอนเงินเข้ามาป่วนเข้าข่ายคดีพิเศษ สอบได้เลย "เทพไท" ยันรู้เบาะแสนานแล้ว แต่พูดไม่ได้ ย้อน"แม้ว" ลูกใครฉี่สีม่วง!!
นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลออกมาเปิดเผยเรื่องการโอนเงินเข้าบัญชี แกนนำเสื้อแดง เพื่อใช้ในการเคลื่อนไหวในช่วงก่อนและหลัง วันที่ 26 ก.พ. ซึ่งจะมีการพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า เป็นการให้ข้อมูลเท็จ เหมือนต้องการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น หากรัฐบาลโดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงเรื่องดังกล่าวไม่ได้ นายอภิสิทธิ์ ต้องออกจากการเป็นนายกฯ ทันที
ส่วนแหล่งเงินที่กลุ่มเสื้อแดงนำมาใช้ในการเคลื่อนไหว กล่าวว่า รายรับหลักๆมาจากเงินบริจาค ซึ่งส่วนนี้ตนทราบข้อมูลเพียงเพียงเบื้องต้น แต่หลักๆ มีแกนนำทั้ง 3 คน คือ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นผู้ดูแลบัญชี และเท่าที่ทราบในช่วงที่มีการชุมนุมใหญ่ที่ทำเนียบฯ เมื่อวันที่ 8-14 เม.ย. 52 ได้รับบริจาคต่อวัน 2 แสนบาท และการชุมนุมใหญ่ที่โบนันซ่า 7 ล้านบาท และไม่นับการชุมนุมย่อยต่างๆ ที่ได้รับการบริจาคทุกครั้ง
ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการชุมนุมแต่ละครั้ง ถ้าเป็นการชุมนุมใหญ่ วันละไม่เกิน 2 แสนบาท แต่ถ้าเป็นการชุมนุมย่อย ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณวันละหมื่นบาท เพราะมีรถโมบายเคลื่อนที่เป็นของตัวเอง ส่วนค่าตั๋วเครื่องบินแกนนำก็ควักเองบ้าง และมีผู้บริจาคค่าตั๋วเครื่องบินให้บ้าง คนละ 20-30 บาท แต่ยืนยันว่า ไม่มีเงินบริจาคที่มาจากนอกประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่าไม่เงินบริจาคจากพ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ทราบกันแน่ นพ.เหวง กล่าวว่า ตนไม่รู้มีเงินเท่าไหร่ แต่คนที่เก็บเงินคือ สามเกลอ แต่คิดว่าไม่น่ามีเงินบริจาคจากนอกประเทศ
เมื่อถามว่าได้สอบถามสามเกลอหรือไม่ ที่มีข่าวว่าแกนนำสามเกลอ มีพฤติกรรม"สู้แล้วรวย" เช่น ข่าวลูกชายของนายวีระ ซึ่งเป็นนักร้องไปซื้อที่ดินบริเวณดอนเมืองกว่า 10 ล้านบาท รวมทั้งไปเปิดร้านอาหารที่อังกฤษ นพ.เหวง กล่าวว่า เป็นไปได้ว่า ลูกชายนายวีระ อาจจะสะสมเงินจากการขายอัลบั้ม อย่าไปดูถูกอาชีพนักร้อง ขนาดไมเคิล แจ็กสัน ยังร่ำรวยมาจากการเป็นนักร้องเลย
นพ.เหวง ยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวในช่วงก่อนที่จะมีการพิจารณาคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า แกนนำนปช. ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะชุมนุมวันใด แต่เบื่องต้นแกนนำส่วนหนึ่ง และตนมองว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ควรทำให้ประชาชนเข้าใจว่าไปรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อหวังผลในคดียึดทรัพย์ ดังนั้นเห็นว่าควรชุมนุมหลังวันที่ 26 ก.พ. ซึ่งมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อ และเป็นการต่อสู้อย่างสันติวิธี ปราศจากอาวุธ
อย่างไรก็ตาม การชี้ขาดว่าจะชุมนุมก่อน หรือหลังวันที่ 26 ก.พ. คงต้องไปโหวตกันที่ประชุมนปช. แต่จุดยืนชัดเจนว่า จะเป็นการเคลื่อไหวเพื่อล้มอำมาตย์ และรัฐบาล ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพียงเหยื่อเท่านั้น แต่ว่าก่อนจะมีการชุมนุมใหญ่ ก็จะมียุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวเพื่อเปิดเผยพฤติกรรม 2 มาตรฐาน และให้ความรู้เรื่องคดียึดทรัพย์ เชิงวิชาการ รวมทั้งเป็นการอภิปรายนอกสภา เช่น วันที่ 12 ก.พ. จะเดินทางไปชุมนุมที่หน้าสำนักงาน ป.ป.ช. วันที่ 13 ก.พ. จะไปชุมนุมที่หน้าสำนักงานกกต.
**ยันไม่จำเป็นต้องพึ่งเสธ.แดง
เมื่อถามว่า มีรายงานว่ากลุ่ม นปช.ได้ประมินว่า พล.อ.พัลลภ และเสธ.แดง เป็นไส้ศึก นพ.เหวง กล่าวว่า บางคนตัดสินใจเร็ว หรือช้า แต่เมื่อมาอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตยต้องหนักแน่น ส่วนที่จะต้องมีการ์ด มาคอยป้องกันการชุมนุม ก็ไม่จำเป็น เพราะเราเคลื่อนไหวแบบสันติวิธี และ กรณีเมษายน ไม่ใช่ความผิดพลาดของกลุ่มนปช. แต่เป็นการกระทำของรัฐบาล และยืนยันว่า ฝ่ายประชาธิปไตยอาจมีหลายอาณาเขต คือมีฝ่ายสันติ และอีกฝ่าย แต่ฝ่ายที่ไม่ใช้สันติวีธิต้องขีดเส้นให้ชัดเจน
**"เสธ.แดง"ขอแส่ถึงที่สุด
พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวถึงเรื่องท่อน้ำเลี้ยงว่านายปณิธาน วัฒนายากร เป็นเด็กเบตงที่เฟอะฟะ พูดไปเรื่อยเปื่อย ขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะคนเสื้อแดงออกมากันเอง และระดมเงินช่วยเหลือกัน ขนาดตนจะไปปราศรัยที่ไหนก็เรี่ยไรเงินไปกัน อยากถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะเอาเงินมาจากที่ไหน เพราะวันนี้ถูกอายัดหมดแล้ว กลุ่มสามเกลอ ถึงยะโสว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีเสียงเดียว มาสั่งตั้งกองทัพประชาชนไม่ได้ เพราะท่านไม่ได้ให้ทุน
ส่วนกระแสข่าวการจัดตั้งกองกำลังเสือดำ ที่ จ.อุบลราชธานีนั้น พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ตนก็ไปจริงไปพบกองกำลังอดีตทหารพราน ที่ อ.นาจะหลวย ซึ่งตรงนั้นมีการฝึกซ้ายหัน ขวาหันกันอยู่แล้ว เพียงแต่ตนไปเยี่ยมเยียน อย่างไรก็ตามหากมีการชุมนุมใหญ่กลุ่มคนพวกนี้ก็ยินดีที่จะไปอารักขา ดูแลความปลอดภัยให้ ส่วนกองกำลังเสือดำนั้น ไม่มีจริง แม้กลุ่มสามเกลอจะไม่ขอกองกำลังไปช่วยดูแลความปลอดภัย ตนก็จะไป
"มึงไม่เอากู กูก็จะเอามึง เพราะตอนนี้มีการพูดคุยเคลียร์ใจกันเรียบร้อย โดยมีนายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ เป็นคนกลางประสานให้ และที่สำคัญ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนโทรมาหาทั้งผม และนายจตุพร ซึ่งได้ขอบใจผมว่าดีแล้วที่ไม่ตอบโต้นายจตุพร เพราะเขารู้ดีว่าปกติถ้าโดนแบบนี้ ผมก็จะตอบโต้รุนแรง เพราะเกิดมาก็ไม่เคยมีใครด่าขนาดนี้ แต่ไอ้ตู่ มันปากจัดจริง ด่าจนกลับบ้านแทบไม่ถูก พี่พัลลภเกิดมาก็ไม่เคยโดนอย่างนี้ เสียผู้เสียคนหมด" พล.ต.ขัตติยะกล่าว
**อัดรัฐบาลวางแผนปล้น"แม้ว"
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึง กรณีวอร์รูม พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า กลุ่มคนเสื้อแดงวาง 3 ยุทธศาสตร์ป่วนเมือง รวมถึงข่าวการโอนเงินจากนอกเข้ามาว่า เป็นธรรมดาของรัฐบาลที่มีเด็กหลายคน จึงชอบที่จะแต่งนิทานแบบผจญภัย เพื่อเป็นการชี้นำ เพราะใกล้วันที่จะมีการตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วออกมาระบุมีการตั้งด่าน จุดตรวจ มีการระดมกำลัง นี่ถือเป็นแผนปล้นทรัพย์อดีตนายกฯ แต่ยังไม่ถือว่าเป็นการยึดอำนาจ เพราะถ้าเป็นการยึดอำนาจนั้นหมายถึงการปล้นสิทธิเสรีภาพของประชาชนทั้งประเทศ แต่นี้เป็นการปล้นทรัพย์ อดีตนายกฯ
**เส้นทางเงินทั้งหิ้ว-โอนเข้าบัญชี
ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีการพบเส้นทางเงินจากต่างประเทศ ผ่านไปยังบัญชีเงินฝากแกนนำคนเสื้อแดงว่า เรื่องนี้สายข่าวความมั่นคงจะตรวจสอบทุกๆ ด้าน หลังจากพบว่าข้อมูลดังกล่าวมีความเป็นไปได้
ส่วนจะมาด้านไหน มาอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพราะว่ามีความผิดปกติ โดยมีทั้งหิ้วเงินเข้ามา และผ่านทางบัญชี ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ต้องไปถามนายปณิธาน จะมีความชัดเจนกว่า
**ดีเอสไอ รับลูกสอบเส้นทางเงิน
นายฐาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงการโอนเงินเข้ามาป่วนว่า กรณีนี้ทางดีเอสไอ สามารถเข้าไปดำเนินการตรวจสอบได้เลย เพราะจากการตรวจสอบของคณะทำงาน พบว่าเป็นความผิดใน 27 คดีพิเศษ คือเข้าข่ายตามพ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พ.ศ. 2485 ถือเป็นกฎหมายพิเศษ ดีเอสไอ สามารถดำเนินการได้เลย และจะเริ่มดำเนินการสอบสวนที่มาที่ไปทันที เนื่องจากกรณีนี้อยู่ในความสนใจ และถือเป็นหน้าที่
ส่วนในเรื่องของข้อมูล ก็ต้องมีการขอข้อมูลไปยังรัฐบาลด้วย รวมถึงประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เป็นต้น
**ยันมีข้อมูลแต่ยังเปิดเผยไม่ได้
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่บรรดา"ลิ่วล้อทักษิณ" ออกมาโต้เรื่องท่อน้ำเลี้ยงเสื้อแดงว่า รัฐบาลได้รับรายงานว่ามีการเคลื่อนไหวของเงิน อย่างผิดปกติในช่วงหลังปีใหม่เป็นต้นมา จึงได้ติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แต่ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง จึงไม่สามารถที่จะเอาหลักฐานมาเปิดเผยต่อสาธารณะได้ การที่ลิ่วล้อทักษิณ ออกมาท้าทายให้เปิดเผยใบเสร็จนั้น ขอให้รอจังหวะเวลาที่เหมาะสม และรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์มากว่านี้ จะนำมาเปิดเผย ต่อประชาชนอย่างแน่นอน รวมถึงการดำเนินดคีตามกฎหมายด้วย
** ตอกกลับลูกใครฉี่สีม่วง
นายเทพไท ยังกล่าวถึงการที่พ.ต.ท.ทักษิณ ทวิตเตอร์กล่าวหารัฐบาลกลั่นแกล้งใส่ร้าย ว่า ไม่อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมในลักษณะกินปูนร้อนท้อง และเสียดสีว่ารัฐบาลชุดนี้ เป็นรัฐบาลสีม่วง ซึ่งไม่เข้าใจในความหมายที่พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึง แต่ขอชี้แจงว่ารัฐบาลชุดนี้ ไม่ได้เป็นรัฐบาลสีม่วง แต่เป็นรัฐบาลสีธงชาติไทย คือ แดง ขาว น้ำเงิน ถ้าจะเป็นรัฐบาลสีม่วง ก็มีเฉพาะสีม่วงที่เป็นห้องรับแขกในตึกไทยคู่ฟ้าเท่านั้น ถ้าจะตรวจสอบว่าใครสีม่วง ไม่สีม่วงบ้างนั้น ก็อยากแนะนำให้ ไปตรวจสอบลูกผู้นำประเทศบางคน ที่มีกระแสข่าวว่า พัวพันกับยาเสพติดมาโดยตลอดว่ามีฉี่สีม่วงหรือไม่ และเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นคนกลุ่มสีม่วง แล้วหรือยัง
**เชื่อแม้วยังมีเงินนอกประเทศอีกเยอะ
นายเทพไท กล่าวว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของตนเอง ออกมาแก้ต่างว่า เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเงินของพ.ต.ท.ทักษิณ ถูกอายัดไว้หมดแล้วนั้น อยากจะถามว่าเงิน 7.6 หมื่นล้าน ที่อยู่ในการพิจารณาของศาลฎีกาฯ ที่จะตัดสินในวันที่ 26 ก.พ.นั้น มีเพียงจำนวนแค่นี้หรือ อยากจะถามว่า เงินที่ขายสโมสรฟุตบอลแมนฯซิตี้ ได้นำเข้าในประเทศแล้วถูกอายัดหรือยัง
“เรื่องท่อน้ำเลี้ยง ไม่ใช่เป็นเรื่องที่รัฐบาลใช้ใส่ร้ายคนเสื้อแดง แต่เป็นข้อเท็จจริง ที่รัฐบาลต้องตรวจสอบ และเผยแพร่ให้สังคมได้รับรู้ ว่ามีคนกลุ่มหนึ่ง เคลื่อนไหวทางการเมืองโดยใช้เงินจากต่างประเทศมาสร้างความวุ่นวายและทำลายชาติบ้านเมือง” นายเทพไทกล่าว
**"เทือก"ยังอุบเรื่องท่อน้ำเลี้ยง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่า พบเส้นทางการเงินของนักการเมืองช่อย่อ "ส." เป็นคนรับโอนเงินจากต่างประเทศ มาสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ตนยังไม่ทราบ ยังไม่มีอะไรที่ชัดเจนมาถึงตนเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายปณิธาน ระบุว่า ข้อมูลต่างๆ อยู่ที่นายสุเทพ หมดแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่มีความชัดเจนเรื่องนี้ ถ้าตนจะพูดอะไรไป ก็ต้องให้มันชัดเจนเสียก่อน
"กลุ่มคนเสื้อแดงมีเป้าหมาย ขั้นตอน วิธีการทำงานที่ชัดเจน ใครจะพูดอะไรหรือไม่เขาก็ทำของเขาตามคำสั่ง ซึ่งคำสั่งนั้นมาจากต่างประเทศแน่นอน ส่วนเงินจะมาจากต่างประเทศด้วยหรือไม่ อย่างไร กำลังติดตามอยู่" นายสุเทพกล่าว
**ไม่มีใครรู้ผลตัดสินล่วงหน้า
นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงก่อน ถึงวันที่ 26 ก.พ. ที่จะมีการพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า น่าจะไม่มีเหตุรุนแรงมากกว่านี้ และตนก็ไม่ทราบว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้จะเป็นการปิดบัญชีของกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ คงต้องเฝ้าดูด้วยความเป็นห่วงต่อไป
"ในฐานะที่เคยเป็นผู้พิพากษา เห็นว่าไม่มีผู้ใดทราบผลการตัดสินล่วงหน้า และข่าวที่ออกมาเป็นเพียงคาดเดาเท่านั้น"
ส่วนกรณีที่นายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุว่า หากศาลยึดทรัพย์หมด ก็มีวิธีเอากลับคืนมาได้นั้น ตนเห็นว่าหากต้องการจะล้างสิ่งใด หรือจะเอากลับคืนมา ก็ต้องมีการออกเป็นกฎหมาย อาทิ กฎหมายนิรโทษกรรมเท่านั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ด้วยวิธีอื่น
**เพิ่มรปภ. อารักขาเข้ม"มาร์ค"
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ในช่วงนี้ว่า หลังจากเหตุการณ์ปาอุจจาระบ้านนายกฯ จำเป็นต้องมีมาตรการดูแลบ้านของผู้นำตลอด 24 ชม. โดยประสานความร่วมมือกับกทม. หน่วยงานความมั่นคง และสารวัตรหาร ให้เข้ามาร่วมมือกัน
นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลออกมาเปิดเผยเรื่องการโอนเงินเข้าบัญชี แกนนำเสื้อแดง เพื่อใช้ในการเคลื่อนไหวในช่วงก่อนและหลัง วันที่ 26 ก.พ. ซึ่งจะมีการพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า เป็นการให้ข้อมูลเท็จ เหมือนต้องการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น หากรัฐบาลโดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงเรื่องดังกล่าวไม่ได้ นายอภิสิทธิ์ ต้องออกจากการเป็นนายกฯ ทันที
ส่วนแหล่งเงินที่กลุ่มเสื้อแดงนำมาใช้ในการเคลื่อนไหว กล่าวว่า รายรับหลักๆมาจากเงินบริจาค ซึ่งส่วนนี้ตนทราบข้อมูลเพียงเพียงเบื้องต้น แต่หลักๆ มีแกนนำทั้ง 3 คน คือ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นผู้ดูแลบัญชี และเท่าที่ทราบในช่วงที่มีการชุมนุมใหญ่ที่ทำเนียบฯ เมื่อวันที่ 8-14 เม.ย. 52 ได้รับบริจาคต่อวัน 2 แสนบาท และการชุมนุมใหญ่ที่โบนันซ่า 7 ล้านบาท และไม่นับการชุมนุมย่อยต่างๆ ที่ได้รับการบริจาคทุกครั้ง
ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการชุมนุมแต่ละครั้ง ถ้าเป็นการชุมนุมใหญ่ วันละไม่เกิน 2 แสนบาท แต่ถ้าเป็นการชุมนุมย่อย ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณวันละหมื่นบาท เพราะมีรถโมบายเคลื่อนที่เป็นของตัวเอง ส่วนค่าตั๋วเครื่องบินแกนนำก็ควักเองบ้าง และมีผู้บริจาคค่าตั๋วเครื่องบินให้บ้าง คนละ 20-30 บาท แต่ยืนยันว่า ไม่มีเงินบริจาคที่มาจากนอกประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่าไม่เงินบริจาคจากพ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ทราบกันแน่ นพ.เหวง กล่าวว่า ตนไม่รู้มีเงินเท่าไหร่ แต่คนที่เก็บเงินคือ สามเกลอ แต่คิดว่าไม่น่ามีเงินบริจาคจากนอกประเทศ
เมื่อถามว่าได้สอบถามสามเกลอหรือไม่ ที่มีข่าวว่าแกนนำสามเกลอ มีพฤติกรรม"สู้แล้วรวย" เช่น ข่าวลูกชายของนายวีระ ซึ่งเป็นนักร้องไปซื้อที่ดินบริเวณดอนเมืองกว่า 10 ล้านบาท รวมทั้งไปเปิดร้านอาหารที่อังกฤษ นพ.เหวง กล่าวว่า เป็นไปได้ว่า ลูกชายนายวีระ อาจจะสะสมเงินจากการขายอัลบั้ม อย่าไปดูถูกอาชีพนักร้อง ขนาดไมเคิล แจ็กสัน ยังร่ำรวยมาจากการเป็นนักร้องเลย
นพ.เหวง ยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวในช่วงก่อนที่จะมีการพิจารณาคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า แกนนำนปช. ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะชุมนุมวันใด แต่เบื่องต้นแกนนำส่วนหนึ่ง และตนมองว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ควรทำให้ประชาชนเข้าใจว่าไปรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อหวังผลในคดียึดทรัพย์ ดังนั้นเห็นว่าควรชุมนุมหลังวันที่ 26 ก.พ. ซึ่งมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อ และเป็นการต่อสู้อย่างสันติวิธี ปราศจากอาวุธ
อย่างไรก็ตาม การชี้ขาดว่าจะชุมนุมก่อน หรือหลังวันที่ 26 ก.พ. คงต้องไปโหวตกันที่ประชุมนปช. แต่จุดยืนชัดเจนว่า จะเป็นการเคลื่อไหวเพื่อล้มอำมาตย์ และรัฐบาล ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพียงเหยื่อเท่านั้น แต่ว่าก่อนจะมีการชุมนุมใหญ่ ก็จะมียุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวเพื่อเปิดเผยพฤติกรรม 2 มาตรฐาน และให้ความรู้เรื่องคดียึดทรัพย์ เชิงวิชาการ รวมทั้งเป็นการอภิปรายนอกสภา เช่น วันที่ 12 ก.พ. จะเดินทางไปชุมนุมที่หน้าสำนักงาน ป.ป.ช. วันที่ 13 ก.พ. จะไปชุมนุมที่หน้าสำนักงานกกต.
**ยันไม่จำเป็นต้องพึ่งเสธ.แดง
เมื่อถามว่า มีรายงานว่ากลุ่ม นปช.ได้ประมินว่า พล.อ.พัลลภ และเสธ.แดง เป็นไส้ศึก นพ.เหวง กล่าวว่า บางคนตัดสินใจเร็ว หรือช้า แต่เมื่อมาอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตยต้องหนักแน่น ส่วนที่จะต้องมีการ์ด มาคอยป้องกันการชุมนุม ก็ไม่จำเป็น เพราะเราเคลื่อนไหวแบบสันติวิธี และ กรณีเมษายน ไม่ใช่ความผิดพลาดของกลุ่มนปช. แต่เป็นการกระทำของรัฐบาล และยืนยันว่า ฝ่ายประชาธิปไตยอาจมีหลายอาณาเขต คือมีฝ่ายสันติ และอีกฝ่าย แต่ฝ่ายที่ไม่ใช้สันติวีธิต้องขีดเส้นให้ชัดเจน
**"เสธ.แดง"ขอแส่ถึงที่สุด
พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวถึงเรื่องท่อน้ำเลี้ยงว่านายปณิธาน วัฒนายากร เป็นเด็กเบตงที่เฟอะฟะ พูดไปเรื่อยเปื่อย ขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะคนเสื้อแดงออกมากันเอง และระดมเงินช่วยเหลือกัน ขนาดตนจะไปปราศรัยที่ไหนก็เรี่ยไรเงินไปกัน อยากถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะเอาเงินมาจากที่ไหน เพราะวันนี้ถูกอายัดหมดแล้ว กลุ่มสามเกลอ ถึงยะโสว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีเสียงเดียว มาสั่งตั้งกองทัพประชาชนไม่ได้ เพราะท่านไม่ได้ให้ทุน
ส่วนกระแสข่าวการจัดตั้งกองกำลังเสือดำ ที่ จ.อุบลราชธานีนั้น พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ตนก็ไปจริงไปพบกองกำลังอดีตทหารพราน ที่ อ.นาจะหลวย ซึ่งตรงนั้นมีการฝึกซ้ายหัน ขวาหันกันอยู่แล้ว เพียงแต่ตนไปเยี่ยมเยียน อย่างไรก็ตามหากมีการชุมนุมใหญ่กลุ่มคนพวกนี้ก็ยินดีที่จะไปอารักขา ดูแลความปลอดภัยให้ ส่วนกองกำลังเสือดำนั้น ไม่มีจริง แม้กลุ่มสามเกลอจะไม่ขอกองกำลังไปช่วยดูแลความปลอดภัย ตนก็จะไป
"มึงไม่เอากู กูก็จะเอามึง เพราะตอนนี้มีการพูดคุยเคลียร์ใจกันเรียบร้อย โดยมีนายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ เป็นคนกลางประสานให้ และที่สำคัญ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนโทรมาหาทั้งผม และนายจตุพร ซึ่งได้ขอบใจผมว่าดีแล้วที่ไม่ตอบโต้นายจตุพร เพราะเขารู้ดีว่าปกติถ้าโดนแบบนี้ ผมก็จะตอบโต้รุนแรง เพราะเกิดมาก็ไม่เคยมีใครด่าขนาดนี้ แต่ไอ้ตู่ มันปากจัดจริง ด่าจนกลับบ้านแทบไม่ถูก พี่พัลลภเกิดมาก็ไม่เคยโดนอย่างนี้ เสียผู้เสียคนหมด" พล.ต.ขัตติยะกล่าว
**อัดรัฐบาลวางแผนปล้น"แม้ว"
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึง กรณีวอร์รูม พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า กลุ่มคนเสื้อแดงวาง 3 ยุทธศาสตร์ป่วนเมือง รวมถึงข่าวการโอนเงินจากนอกเข้ามาว่า เป็นธรรมดาของรัฐบาลที่มีเด็กหลายคน จึงชอบที่จะแต่งนิทานแบบผจญภัย เพื่อเป็นการชี้นำ เพราะใกล้วันที่จะมีการตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วออกมาระบุมีการตั้งด่าน จุดตรวจ มีการระดมกำลัง นี่ถือเป็นแผนปล้นทรัพย์อดีตนายกฯ แต่ยังไม่ถือว่าเป็นการยึดอำนาจ เพราะถ้าเป็นการยึดอำนาจนั้นหมายถึงการปล้นสิทธิเสรีภาพของประชาชนทั้งประเทศ แต่นี้เป็นการปล้นทรัพย์ อดีตนายกฯ
**เส้นทางเงินทั้งหิ้ว-โอนเข้าบัญชี
ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีการพบเส้นทางเงินจากต่างประเทศ ผ่านไปยังบัญชีเงินฝากแกนนำคนเสื้อแดงว่า เรื่องนี้สายข่าวความมั่นคงจะตรวจสอบทุกๆ ด้าน หลังจากพบว่าข้อมูลดังกล่าวมีความเป็นไปได้
ส่วนจะมาด้านไหน มาอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพราะว่ามีความผิดปกติ โดยมีทั้งหิ้วเงินเข้ามา และผ่านทางบัญชี ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ต้องไปถามนายปณิธาน จะมีความชัดเจนกว่า
**ดีเอสไอ รับลูกสอบเส้นทางเงิน
นายฐาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงการโอนเงินเข้ามาป่วนว่า กรณีนี้ทางดีเอสไอ สามารถเข้าไปดำเนินการตรวจสอบได้เลย เพราะจากการตรวจสอบของคณะทำงาน พบว่าเป็นความผิดใน 27 คดีพิเศษ คือเข้าข่ายตามพ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พ.ศ. 2485 ถือเป็นกฎหมายพิเศษ ดีเอสไอ สามารถดำเนินการได้เลย และจะเริ่มดำเนินการสอบสวนที่มาที่ไปทันที เนื่องจากกรณีนี้อยู่ในความสนใจ และถือเป็นหน้าที่
ส่วนในเรื่องของข้อมูล ก็ต้องมีการขอข้อมูลไปยังรัฐบาลด้วย รวมถึงประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เป็นต้น
**ยันมีข้อมูลแต่ยังเปิดเผยไม่ได้
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่บรรดา"ลิ่วล้อทักษิณ" ออกมาโต้เรื่องท่อน้ำเลี้ยงเสื้อแดงว่า รัฐบาลได้รับรายงานว่ามีการเคลื่อนไหวของเงิน อย่างผิดปกติในช่วงหลังปีใหม่เป็นต้นมา จึงได้ติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แต่ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง จึงไม่สามารถที่จะเอาหลักฐานมาเปิดเผยต่อสาธารณะได้ การที่ลิ่วล้อทักษิณ ออกมาท้าทายให้เปิดเผยใบเสร็จนั้น ขอให้รอจังหวะเวลาที่เหมาะสม และรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์มากว่านี้ จะนำมาเปิดเผย ต่อประชาชนอย่างแน่นอน รวมถึงการดำเนินดคีตามกฎหมายด้วย
** ตอกกลับลูกใครฉี่สีม่วง
นายเทพไท ยังกล่าวถึงการที่พ.ต.ท.ทักษิณ ทวิตเตอร์กล่าวหารัฐบาลกลั่นแกล้งใส่ร้าย ว่า ไม่อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมในลักษณะกินปูนร้อนท้อง และเสียดสีว่ารัฐบาลชุดนี้ เป็นรัฐบาลสีม่วง ซึ่งไม่เข้าใจในความหมายที่พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึง แต่ขอชี้แจงว่ารัฐบาลชุดนี้ ไม่ได้เป็นรัฐบาลสีม่วง แต่เป็นรัฐบาลสีธงชาติไทย คือ แดง ขาว น้ำเงิน ถ้าจะเป็นรัฐบาลสีม่วง ก็มีเฉพาะสีม่วงที่เป็นห้องรับแขกในตึกไทยคู่ฟ้าเท่านั้น ถ้าจะตรวจสอบว่าใครสีม่วง ไม่สีม่วงบ้างนั้น ก็อยากแนะนำให้ ไปตรวจสอบลูกผู้นำประเทศบางคน ที่มีกระแสข่าวว่า พัวพันกับยาเสพติดมาโดยตลอดว่ามีฉี่สีม่วงหรือไม่ และเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นคนกลุ่มสีม่วง แล้วหรือยัง
**เชื่อแม้วยังมีเงินนอกประเทศอีกเยอะ
นายเทพไท กล่าวว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของตนเอง ออกมาแก้ต่างว่า เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเงินของพ.ต.ท.ทักษิณ ถูกอายัดไว้หมดแล้วนั้น อยากจะถามว่าเงิน 7.6 หมื่นล้าน ที่อยู่ในการพิจารณาของศาลฎีกาฯ ที่จะตัดสินในวันที่ 26 ก.พ.นั้น มีเพียงจำนวนแค่นี้หรือ อยากจะถามว่า เงินที่ขายสโมสรฟุตบอลแมนฯซิตี้ ได้นำเข้าในประเทศแล้วถูกอายัดหรือยัง
“เรื่องท่อน้ำเลี้ยง ไม่ใช่เป็นเรื่องที่รัฐบาลใช้ใส่ร้ายคนเสื้อแดง แต่เป็นข้อเท็จจริง ที่รัฐบาลต้องตรวจสอบ และเผยแพร่ให้สังคมได้รับรู้ ว่ามีคนกลุ่มหนึ่ง เคลื่อนไหวทางการเมืองโดยใช้เงินจากต่างประเทศมาสร้างความวุ่นวายและทำลายชาติบ้านเมือง” นายเทพไทกล่าว
**"เทือก"ยังอุบเรื่องท่อน้ำเลี้ยง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่า พบเส้นทางการเงินของนักการเมืองช่อย่อ "ส." เป็นคนรับโอนเงินจากต่างประเทศ มาสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ตนยังไม่ทราบ ยังไม่มีอะไรที่ชัดเจนมาถึงตนเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายปณิธาน ระบุว่า ข้อมูลต่างๆ อยู่ที่นายสุเทพ หมดแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่มีความชัดเจนเรื่องนี้ ถ้าตนจะพูดอะไรไป ก็ต้องให้มันชัดเจนเสียก่อน
"กลุ่มคนเสื้อแดงมีเป้าหมาย ขั้นตอน วิธีการทำงานที่ชัดเจน ใครจะพูดอะไรหรือไม่เขาก็ทำของเขาตามคำสั่ง ซึ่งคำสั่งนั้นมาจากต่างประเทศแน่นอน ส่วนเงินจะมาจากต่างประเทศด้วยหรือไม่ อย่างไร กำลังติดตามอยู่" นายสุเทพกล่าว
**ไม่มีใครรู้ผลตัดสินล่วงหน้า
นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงก่อน ถึงวันที่ 26 ก.พ. ที่จะมีการพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า น่าจะไม่มีเหตุรุนแรงมากกว่านี้ และตนก็ไม่ทราบว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้จะเป็นการปิดบัญชีของกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ คงต้องเฝ้าดูด้วยความเป็นห่วงต่อไป
"ในฐานะที่เคยเป็นผู้พิพากษา เห็นว่าไม่มีผู้ใดทราบผลการตัดสินล่วงหน้า และข่าวที่ออกมาเป็นเพียงคาดเดาเท่านั้น"
ส่วนกรณีที่นายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุว่า หากศาลยึดทรัพย์หมด ก็มีวิธีเอากลับคืนมาได้นั้น ตนเห็นว่าหากต้องการจะล้างสิ่งใด หรือจะเอากลับคืนมา ก็ต้องมีการออกเป็นกฎหมาย อาทิ กฎหมายนิรโทษกรรมเท่านั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ด้วยวิธีอื่น
**เพิ่มรปภ. อารักขาเข้ม"มาร์ค"
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ในช่วงนี้ว่า หลังจากเหตุการณ์ปาอุจจาระบ้านนายกฯ จำเป็นต้องมีมาตรการดูแลบ้านของผู้นำตลอด 24 ชม. โดยประสานความร่วมมือกับกทม. หน่วยงานความมั่นคง และสารวัตรหาร ให้เข้ามาร่วมมือกัน