**สัญญาณอันตรายมาแล้ว!
**เหตุกลางดึกคืนวันที่13 ก.พ. ระเบิดเอ็ม 79 ที่ถูกยิงเข้าไปในมหาวิทยาลัยราชมงคล วิทยาเขตพาณิชย์ พระนคร บริเวณเดียวกันกับศูนย์กลางบริหารราชการแผ่นดิน ใกล้เคียงกับทำเนียบรัฐบาล แค่คลองผดุงกรุงเกษมกั้น
เกิดระเบิดกลางเมือง หลังจากที่มีการประเมินถึงเหตุรุนแรง ความวุ่นวาย การก่อเหตุการณ์ความไม่สงบ เกิดขึ้นแน่ในช่วงนับจากนี้ ก่อนที่จะถึงวันพิพากษาคดียึดทรัพย์ทักษิณและครอบครัว 7.6 หมื่นล้านบาท 26 ก.พ.นี้
ระเบิดในช่วงที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ไม่ปกติเต็มกำลัง มีการบุกกวาดล้างแหล่งระเบิด จับกุมอาวุธที่บ้านพัก และเครือข่ายของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล
เอ็ม 79 ลูกนี้จะมาจากฝ่ายไหนต้องรอผลการตรวจสอบพิสูจน์ของฝ่ายเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง แต่ที่แน่ๆแรงระเบิดได้สะท้อนแรงสั่นสะเทือนไปทั้งบ้านเมือง ที่สำคัญเป็นการเย้ยหยันหยามฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ และรัฐบาล หน้าชาหน้าม้าน ไปตามกันๆ
**ระเบิดเอ็ม 79 ครั้งนี้ เหมือนเป็นสัญญาณเริ่มต้นเหตุการณ์ความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นอย่างที่หลายฝ่ายกังวล โดยเฉพาะจากการชุมนุมของกลุ่มนปช. คนเสื้อแดง หลังจากเคลื่อนไหวไปชุมนุมยังจุดต่างๆ เพื่อวอร์มอัพ เช็กกำลัง เตรียมความพร้อมก่อน“นายใหญ่”จะส่งสัญญาณชุมนุมใหญ่เผด็จศึก
**“นายใหญ่” เปิดก๊อก ส่งผ่านท่อน้ำเลี้ยงแล้ว?!
ที่ต้องจับตา“แดงฮาร์ดคอร์” ที่ ไม่ใช่แค่ “เสธ.แดง-พล.อ.พัลลภ” ที่โชว์ตัวขอเอี่ยวส่วนแบ่งกับ “คางคกมหาประลัย” ตู่ จตุพร พรหมพันธุ์ “จำอวดจำอิ่ม” -“เต้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ- “ไอ้ซ่าจอมเนรคุณ” วีระ มุสิกพงศ์ ที่มาดนิ่ง กินนิ่ม
**ให้ระวัง “ตัวพ่อ” โดยเฉพาะ เครือข่าย “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นี่แหละ ตัวจริงเสียงจริง เกมเร้าสถานการณ์ด้วยของแรง!
ส่วนที่พูดถึง “น้ำเลี้ยง” พร้อมอัดฉีด ก็เป็นไปอย่างข้อมูลจากหน่วยข่าว เบาะแสที่คนรัฐบาลออกมาเปิดประเด็น ข้อมูล “หัวจ่าย” ที่รับต่อมาจาก “คลังน้ำเลี้ยง” เป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลที่เป็นความจริง ที่เมื่อรู้แล้วก็ต้องไล่เช็กไล่บล็อกให้อยู่!
** 2 ส. 1 ว. 1 พ. 1 ป.
ข้อมูลจากวงในประชาธิปัตย์ และหน่วยข่าวรัฐ ที่เปิดมา ถึงวันนี้ก็ยังมีบางส่วนที่ยังใช้อักษรย่อให้คลุมเครือ คนอ่านต้องไปถอดรหัสกันเอง ที่จริงไม่ใช่เรื่องที่เกินการรับรู้ของคนการเมืองกันอยู่แล้ว
ชื่อย่อต่างๆ ที่อยู่ในข่าย ก็ล้วนเป็นลูกข่ายที่มีความสนิทสนมกับนักโทษชายทักษิณ ตั้งแต่ได้ใบบุญจากครั้งที่นักโทษชายยังครองเมือง เฟื่องฟูในอำนาจระบอบทักษิณ และวันนี้บางส่วนก็ถอนตัวออกไป บางส่วนก็ยังเป็นกำลังหลักให้ทักษิณ เดินเกมป่วนเมือง
ส.แรก เจ้าของห้างสรรพสินค้า ก็เปิดตัวออกมาแล้ว “สงคราม กิจเลิศไพโรจน์” เจ้าของห้างอิมพิเรียล ที่ใช้เป็นฐานของกลุ่มนปช. และสถานที่ตั้งของ สื่อทีวี พีเพิลชาแนล ของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่สาขาห้างย่านลาดพร้าว
ส. ที่สอง ที่มีการเปิดข้อมูลมาว่า เป็นอดีตรัฐมนตรี ที่อยู่ในข่ายมีหลาย ส. แต่ที่โดดเด่นในเรื่องความเป็นเจ้าบุญทุ่ม เคยตั้งกลุ่มดูแล ส.ส.ในยุคพลังประชาชน และต่อเนื่องมาสมัยรัฐบาลนอมินี-เพื่อไทย “สันติ พร้อมพัฒน์” อดีต รมว.คมนาคม
อดีตเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ “ชนเล็กชนใหญ่ สันติซ่อมได้” อยู่แล้ว วันนี้อยู่ในฐานะมหาเศรษฐีคนหนึ่ง จึงไม่เหลือบ่ากว่าแรง หากนายใหญ่จะไหว้วานหยิบยืมอัดฉีด
นอกจากนี้ ส. ที่มีการพูดถึง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีจากเครือไทยซัมมิต ที่แม้พลิกขั้ว ย้ายค่ายไปแล้ว ก็ยังมีข่าวต่อสายบ้านจันทร์ส่องหล้า ขอคืนดี “ทักษิณ”
ส่วน 1ป. เจ้าของเครื่องดื่มเจ้าดัง ที่ไม่แน่ใจว่าใช่ ป.ประยุทธ์ มหากิจศิริ แห่งเนสกาแฟ หรือไม่ แต่ตามข้อมูลเก่า ก็เป็นเจ้าสัวรายนี้ที่เป็นสปอนเซอร์ใหญ่ของค่ายทักษิณ ส่งลูกชายเข้าไปฝึกงานกับระบอบทุนนิยมสามานย์ มาแล้ว
1 พ. ชื่อย่อที่ถูกเปิดออกมา บ้างก็ว่า “เฮียเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ รัตกพงศ์ไพศาล ที่ก็เข้าเค้า เพราะร่วมงานกับทักษิณมานาน ทั้งดีลซื้อขาย เรื่องที่ดินคนบาป สนามกอล์ฟอัลไพน์ ระหว่าง “เสนาะ เทียนทอง- ทักษิณ ชินวัตร และวันนี้ก็ยังเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของทักษิณ
**พ.เพ้ง พ.พงษ์ศักดิ์ รายนี้ ยังกว้างขวางในประเทศจีน ฮ่องกง จึงมีข้อมูลที่ถูกเปิดว่า เป็นเอเย่นต์ใหญ่สาขาฮ่องกง ของทักษิณ ในการส่งเสบียงข้ามประเทศ
เพียงแต่ว่า ยังมีอีก พ. ที่มาแรงในพรรคเพื่อไทย ในฐานะเจ้าบุญทุ่ม พ.พิชัย นริพทะพันธุ์ ที่เคยลงทุนในพรรคเพื่อแผ่นดิน แล้วขาดทุนบักโกรก นั่งเก้าอี้รมช.คลัง ในยุครัฐบาลร่างทรงได้ไม่กี่วัน เข็ดกับการลงทุนพรรคเล็ก ย้ายมาอยู่พรรคเพื่อไทย ได้พักใหญ่แล้ว
เจ้าสัวเหมืองแร่ และอสังหาริมทรัพย์ สนุกกับการทำงานในฐานะทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และเขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์นโยบาย และการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลประชาธิปัตย์ทางหน้าสื่อ โปรโมตตัวเอง รอรับตำแหน่งใหญ่ในวันข้างหน้า
ส่วนอีก 1 ว. เป็นปัญหา เพราะคุณสมบัติที่ระบุมาว่า เป็นนักกฎหมาย มีบางสื่อถอดรหัสไปบ้างแล้วว่าเป็น วิชิต ปลั่งศรีสกุล เจ้าพ่อประจวบฯ นักกฎหมายประจำเครือข่ายระบอบทักษิณ ยังมีอีก ว. ที่อย่ามองข้าม
ว. วิชัย ทองแตง อดีตหัวหน้าทีมทนายของทักษิณ ในการสู้คดีซุกหุ้นภาคแรก ที่ปลีกตัวไปเติบโตทางธุรกิจ วงการตลาดหุ้น ในฐานะเซียนเจ้าใหญ่ จอมปั่นฟรีคิก ทนายนักธุรกิจรายนี้ สัมพันธ์แนบแน่นกับทักษิณ
**นอกจากนี้ ยังมี “หัวจ่าย” อีกหลายรายที่อยู่ในข่าย และยังไม่ถูกเปิดชื่อ อย่าง สมหวัง อัสราษี เจ้าของบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องดื่มชูกำลัง ที่ประกาศเข้าร่วมกับทัพเสื้อแดงเต็มตัว ออกเครื่องดื่มชูกำลัง “ความจริงวันนี้” และ “ทักษิณสู้” ออกวางตลาด
ตั้งแต่เข้าสู่ระบบทักษิณ ธุรกิจในเครือของ สมหวัง เฟื่องฟูผิดหูผิดตา โดยเฉพาะในสายเครื่องดื่มชูกำลัง ไม่รู้ว่า “ทักษิณสู้” ขายดิบขายดี หรือว่าเป็นเพราะ “ส่วนต่าง” จากการทำหน้าที่ ส่งเสบียงกำลังบำรุง
นอกจากนี้ ยังมีอีกแหล่งของการจ่ายน้ำเลี้ยง ที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์พูดถึงการใช้
บ่อนกาสิโนเพื่อนบ้าน เป็นคลังใหญ่จ่ายทุนเคลื่อนไหวให้แกนนำเสื้อแดง และ ส.ส.เพื่อไทย
นอกจากกาสิโนทางภาคเหนือ จ.เชียงราย ในเครือของตระกูล โพธสุธน ยังมี
บ่อนกาสิโนทางด้านกัมพูชา ฝั่งปอยเปต ของ “เสี่ยตือ คอสโม” ที่เชื่อมโยงกับบิ๊กการเมืองหลายราย
แต่ที่น่าสนใจ กับการที่สื่อในเครือเอเอสทีวี เปิดออกมา และสอดคล้องกับการเปิดข้อมูลของโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ การโอนเงินจากดูไบ ในรูปแบบ “ฟอร์เล็คทรานเฟอร์”เข้ามายังสถาบันการเงินในประเทศเพื่อนบ้าน ธนาคารที่สิงคโปร์ และฮ่องกง
รูปแบบที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ยากที่จะติดตามตรวจสอบ จุดต้นทางที่มีการพูดถึงชื่อที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาลดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ Dr. Khalid Kadfoor Al-Mehairi
ที่เปิดดูหน้าตาและปูมประวัติกันได้ที่เว็บไซต์ www.emiratesadvocates.com
**ว่ากันว่า แขกดูไบรายนี้ ดีลธุรกิจกับ นช.ทักษิณ และ ไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์สานต์ มาตั้งแต่ซื้อทีมฟุตบอลแมนฯซีตี้ และการลงทุนทั่วโลก แม้ไพโรจน์ แตกหักกับ ทักษิณ เรื่องเงินๆทองๆไป แต่แขกรายนี้ก็ยังอยู่ช่วยงานจอมเจ้าเล่ห์ โดยเฉพาะการเงินระหว่างประเทศ
**ข้อมูลข้างต้นทั้งหมด คือผู้ที่อยู่ในข่าย เป็นขุมข่ายด้านการเงิน คุมหัวจ่าย หรือร่วมลงขันอัดฉีดในการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ผู้คุมคลังหลักที่ระดมมาจากทุกสายจริงๆ ก็คือคนในตระกูลชินวัตร ที่ทักษิณไว้วางใจ “ปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
น้องสาวคนสวย ในบทบาทหน้าที่ “ขุนคลัง” ของระบอบทักษิณตัวจริง คอยคุมบัญชีค่าใช้จ่าย และเคลียร์ปัญหาเรื่องการเงินให้ทักษิณ ตั้งแต่สมัย ดีลและเคลียร์บัญชีกับ เนวิน ชิดชอบ ก่อนที่จะแยกค่ายพลิกขั้วไป
รวมทั้งในยุค จักรภพ เพ็ญแข ที่ ทำหน้าที่คุมพีทีวี ช่องโทรทัศน์ของทักษิณ ที่เปิดในยุคแรกของการต้านรัฐประหาร ก็เป็นน้องสาวนายใหญ่ ที่เข้าไปแก้ปัญหายุ่งๆเรื่องเงินทอง
วันนี้ทั้งในพรรคเพื่อไทย กลุ่มนปช. รวมทั้งสื่อในเครือข่าย ทั้งทีวีดาวเทียม วิทยุชุมชน สื่อสิ่งพิมพ์ รวมทั้ง VOICE TV ของเล่นใหม่ของ“หลานโอ๊ค พานทองแท้” ก็มี“อาปู” ดูแลเรื่องเงินๆทองๆ ค่าใช้จ่ายให้
**และที่เหนือกว่าทุกท่อจ่าย และการลงขัน อัดฉีดจากหลายๆ สาย อยู่ที่คลังส่งกำลังสนับสนุน ที่ฐานบัญชาการ บ้านจันทร์ส่องหล้า ของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ที่วันนี้ก็แน่ชัดแล้วว่า ที่หย่าขาดกับทักษิณ ก็แค่ลวงโลก เพื่อป้องทรัพย์สมบัติ
**ของจริงรายนี้ยังเป็น “นายหญิงใหญ่” ของระบอบทักษิณ ทั้งพรรคเพื่อไทย ทัพเสื้อแดง ที่ยังคงทรงอิทธิพล ในการสั่งการสนับสนุนการเคลื่อนไหวต่างๆ เพื่อช่วยอดีตสามี ที่ก็รวมถึงปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองด้วย
เพราะสามีภรรยาที่สร้างเนื้อสร้างตัว และใช้เล่ห์เหลี่ยมทางธุรกิจ จนเป็นครอบครัวอภิมหาเศรษฐี และร่วมกันสร้างฐานทุนนิยมสามานย์จนเติบโตเฟื่องฟู วันนี้“พจมาน” จึงแยกไม่ขาดจาก “ทักษิณ”
**ถ้าเรียกว่าเป็นหัวจ่ายก็ต้องเรียกว่า “หัวจ่าย” ระดับ “ตัวแม่” อย่างนั้นเลย!!
**เหตุกลางดึกคืนวันที่13 ก.พ. ระเบิดเอ็ม 79 ที่ถูกยิงเข้าไปในมหาวิทยาลัยราชมงคล วิทยาเขตพาณิชย์ พระนคร บริเวณเดียวกันกับศูนย์กลางบริหารราชการแผ่นดิน ใกล้เคียงกับทำเนียบรัฐบาล แค่คลองผดุงกรุงเกษมกั้น
เกิดระเบิดกลางเมือง หลังจากที่มีการประเมินถึงเหตุรุนแรง ความวุ่นวาย การก่อเหตุการณ์ความไม่สงบ เกิดขึ้นแน่ในช่วงนับจากนี้ ก่อนที่จะถึงวันพิพากษาคดียึดทรัพย์ทักษิณและครอบครัว 7.6 หมื่นล้านบาท 26 ก.พ.นี้
ระเบิดในช่วงที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ไม่ปกติเต็มกำลัง มีการบุกกวาดล้างแหล่งระเบิด จับกุมอาวุธที่บ้านพัก และเครือข่ายของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล
เอ็ม 79 ลูกนี้จะมาจากฝ่ายไหนต้องรอผลการตรวจสอบพิสูจน์ของฝ่ายเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง แต่ที่แน่ๆแรงระเบิดได้สะท้อนแรงสั่นสะเทือนไปทั้งบ้านเมือง ที่สำคัญเป็นการเย้ยหยันหยามฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ และรัฐบาล หน้าชาหน้าม้าน ไปตามกันๆ
**ระเบิดเอ็ม 79 ครั้งนี้ เหมือนเป็นสัญญาณเริ่มต้นเหตุการณ์ความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นอย่างที่หลายฝ่ายกังวล โดยเฉพาะจากการชุมนุมของกลุ่มนปช. คนเสื้อแดง หลังจากเคลื่อนไหวไปชุมนุมยังจุดต่างๆ เพื่อวอร์มอัพ เช็กกำลัง เตรียมความพร้อมก่อน“นายใหญ่”จะส่งสัญญาณชุมนุมใหญ่เผด็จศึก
**“นายใหญ่” เปิดก๊อก ส่งผ่านท่อน้ำเลี้ยงแล้ว?!
ที่ต้องจับตา“แดงฮาร์ดคอร์” ที่ ไม่ใช่แค่ “เสธ.แดง-พล.อ.พัลลภ” ที่โชว์ตัวขอเอี่ยวส่วนแบ่งกับ “คางคกมหาประลัย” ตู่ จตุพร พรหมพันธุ์ “จำอวดจำอิ่ม” -“เต้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ- “ไอ้ซ่าจอมเนรคุณ” วีระ มุสิกพงศ์ ที่มาดนิ่ง กินนิ่ม
**ให้ระวัง “ตัวพ่อ” โดยเฉพาะ เครือข่าย “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นี่แหละ ตัวจริงเสียงจริง เกมเร้าสถานการณ์ด้วยของแรง!
ส่วนที่พูดถึง “น้ำเลี้ยง” พร้อมอัดฉีด ก็เป็นไปอย่างข้อมูลจากหน่วยข่าว เบาะแสที่คนรัฐบาลออกมาเปิดประเด็น ข้อมูล “หัวจ่าย” ที่รับต่อมาจาก “คลังน้ำเลี้ยง” เป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลที่เป็นความจริง ที่เมื่อรู้แล้วก็ต้องไล่เช็กไล่บล็อกให้อยู่!
** 2 ส. 1 ว. 1 พ. 1 ป.
ข้อมูลจากวงในประชาธิปัตย์ และหน่วยข่าวรัฐ ที่เปิดมา ถึงวันนี้ก็ยังมีบางส่วนที่ยังใช้อักษรย่อให้คลุมเครือ คนอ่านต้องไปถอดรหัสกันเอง ที่จริงไม่ใช่เรื่องที่เกินการรับรู้ของคนการเมืองกันอยู่แล้ว
ชื่อย่อต่างๆ ที่อยู่ในข่าย ก็ล้วนเป็นลูกข่ายที่มีความสนิทสนมกับนักโทษชายทักษิณ ตั้งแต่ได้ใบบุญจากครั้งที่นักโทษชายยังครองเมือง เฟื่องฟูในอำนาจระบอบทักษิณ และวันนี้บางส่วนก็ถอนตัวออกไป บางส่วนก็ยังเป็นกำลังหลักให้ทักษิณ เดินเกมป่วนเมือง
ส.แรก เจ้าของห้างสรรพสินค้า ก็เปิดตัวออกมาแล้ว “สงคราม กิจเลิศไพโรจน์” เจ้าของห้างอิมพิเรียล ที่ใช้เป็นฐานของกลุ่มนปช. และสถานที่ตั้งของ สื่อทีวี พีเพิลชาแนล ของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่สาขาห้างย่านลาดพร้าว
ส. ที่สอง ที่มีการเปิดข้อมูลมาว่า เป็นอดีตรัฐมนตรี ที่อยู่ในข่ายมีหลาย ส. แต่ที่โดดเด่นในเรื่องความเป็นเจ้าบุญทุ่ม เคยตั้งกลุ่มดูแล ส.ส.ในยุคพลังประชาชน และต่อเนื่องมาสมัยรัฐบาลนอมินี-เพื่อไทย “สันติ พร้อมพัฒน์” อดีต รมว.คมนาคม
อดีตเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ “ชนเล็กชนใหญ่ สันติซ่อมได้” อยู่แล้ว วันนี้อยู่ในฐานะมหาเศรษฐีคนหนึ่ง จึงไม่เหลือบ่ากว่าแรง หากนายใหญ่จะไหว้วานหยิบยืมอัดฉีด
นอกจากนี้ ส. ที่มีการพูดถึง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีจากเครือไทยซัมมิต ที่แม้พลิกขั้ว ย้ายค่ายไปแล้ว ก็ยังมีข่าวต่อสายบ้านจันทร์ส่องหล้า ขอคืนดี “ทักษิณ”
ส่วน 1ป. เจ้าของเครื่องดื่มเจ้าดัง ที่ไม่แน่ใจว่าใช่ ป.ประยุทธ์ มหากิจศิริ แห่งเนสกาแฟ หรือไม่ แต่ตามข้อมูลเก่า ก็เป็นเจ้าสัวรายนี้ที่เป็นสปอนเซอร์ใหญ่ของค่ายทักษิณ ส่งลูกชายเข้าไปฝึกงานกับระบอบทุนนิยมสามานย์ มาแล้ว
1 พ. ชื่อย่อที่ถูกเปิดออกมา บ้างก็ว่า “เฮียเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ รัตกพงศ์ไพศาล ที่ก็เข้าเค้า เพราะร่วมงานกับทักษิณมานาน ทั้งดีลซื้อขาย เรื่องที่ดินคนบาป สนามกอล์ฟอัลไพน์ ระหว่าง “เสนาะ เทียนทอง- ทักษิณ ชินวัตร และวันนี้ก็ยังเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของทักษิณ
**พ.เพ้ง พ.พงษ์ศักดิ์ รายนี้ ยังกว้างขวางในประเทศจีน ฮ่องกง จึงมีข้อมูลที่ถูกเปิดว่า เป็นเอเย่นต์ใหญ่สาขาฮ่องกง ของทักษิณ ในการส่งเสบียงข้ามประเทศ
เพียงแต่ว่า ยังมีอีก พ. ที่มาแรงในพรรคเพื่อไทย ในฐานะเจ้าบุญทุ่ม พ.พิชัย นริพทะพันธุ์ ที่เคยลงทุนในพรรคเพื่อแผ่นดิน แล้วขาดทุนบักโกรก นั่งเก้าอี้รมช.คลัง ในยุครัฐบาลร่างทรงได้ไม่กี่วัน เข็ดกับการลงทุนพรรคเล็ก ย้ายมาอยู่พรรคเพื่อไทย ได้พักใหญ่แล้ว
เจ้าสัวเหมืองแร่ และอสังหาริมทรัพย์ สนุกกับการทำงานในฐานะทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และเขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์นโยบาย และการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลประชาธิปัตย์ทางหน้าสื่อ โปรโมตตัวเอง รอรับตำแหน่งใหญ่ในวันข้างหน้า
ส่วนอีก 1 ว. เป็นปัญหา เพราะคุณสมบัติที่ระบุมาว่า เป็นนักกฎหมาย มีบางสื่อถอดรหัสไปบ้างแล้วว่าเป็น วิชิต ปลั่งศรีสกุล เจ้าพ่อประจวบฯ นักกฎหมายประจำเครือข่ายระบอบทักษิณ ยังมีอีก ว. ที่อย่ามองข้าม
ว. วิชัย ทองแตง อดีตหัวหน้าทีมทนายของทักษิณ ในการสู้คดีซุกหุ้นภาคแรก ที่ปลีกตัวไปเติบโตทางธุรกิจ วงการตลาดหุ้น ในฐานะเซียนเจ้าใหญ่ จอมปั่นฟรีคิก ทนายนักธุรกิจรายนี้ สัมพันธ์แนบแน่นกับทักษิณ
**นอกจากนี้ ยังมี “หัวจ่าย” อีกหลายรายที่อยู่ในข่าย และยังไม่ถูกเปิดชื่อ อย่าง สมหวัง อัสราษี เจ้าของบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องดื่มชูกำลัง ที่ประกาศเข้าร่วมกับทัพเสื้อแดงเต็มตัว ออกเครื่องดื่มชูกำลัง “ความจริงวันนี้” และ “ทักษิณสู้” ออกวางตลาด
ตั้งแต่เข้าสู่ระบบทักษิณ ธุรกิจในเครือของ สมหวัง เฟื่องฟูผิดหูผิดตา โดยเฉพาะในสายเครื่องดื่มชูกำลัง ไม่รู้ว่า “ทักษิณสู้” ขายดิบขายดี หรือว่าเป็นเพราะ “ส่วนต่าง” จากการทำหน้าที่ ส่งเสบียงกำลังบำรุง
นอกจากนี้ ยังมีอีกแหล่งของการจ่ายน้ำเลี้ยง ที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์พูดถึงการใช้
บ่อนกาสิโนเพื่อนบ้าน เป็นคลังใหญ่จ่ายทุนเคลื่อนไหวให้แกนนำเสื้อแดง และ ส.ส.เพื่อไทย
นอกจากกาสิโนทางภาคเหนือ จ.เชียงราย ในเครือของตระกูล โพธสุธน ยังมี
บ่อนกาสิโนทางด้านกัมพูชา ฝั่งปอยเปต ของ “เสี่ยตือ คอสโม” ที่เชื่อมโยงกับบิ๊กการเมืองหลายราย
แต่ที่น่าสนใจ กับการที่สื่อในเครือเอเอสทีวี เปิดออกมา และสอดคล้องกับการเปิดข้อมูลของโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ การโอนเงินจากดูไบ ในรูปแบบ “ฟอร์เล็คทรานเฟอร์”เข้ามายังสถาบันการเงินในประเทศเพื่อนบ้าน ธนาคารที่สิงคโปร์ และฮ่องกง
รูปแบบที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ยากที่จะติดตามตรวจสอบ จุดต้นทางที่มีการพูดถึงชื่อที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาลดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ Dr. Khalid Kadfoor Al-Mehairi
ที่เปิดดูหน้าตาและปูมประวัติกันได้ที่เว็บไซต์ www.emiratesadvocates.com
**ว่ากันว่า แขกดูไบรายนี้ ดีลธุรกิจกับ นช.ทักษิณ และ ไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์สานต์ มาตั้งแต่ซื้อทีมฟุตบอลแมนฯซีตี้ และการลงทุนทั่วโลก แม้ไพโรจน์ แตกหักกับ ทักษิณ เรื่องเงินๆทองๆไป แต่แขกรายนี้ก็ยังอยู่ช่วยงานจอมเจ้าเล่ห์ โดยเฉพาะการเงินระหว่างประเทศ
**ข้อมูลข้างต้นทั้งหมด คือผู้ที่อยู่ในข่าย เป็นขุมข่ายด้านการเงิน คุมหัวจ่าย หรือร่วมลงขันอัดฉีดในการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ผู้คุมคลังหลักที่ระดมมาจากทุกสายจริงๆ ก็คือคนในตระกูลชินวัตร ที่ทักษิณไว้วางใจ “ปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
น้องสาวคนสวย ในบทบาทหน้าที่ “ขุนคลัง” ของระบอบทักษิณตัวจริง คอยคุมบัญชีค่าใช้จ่าย และเคลียร์ปัญหาเรื่องการเงินให้ทักษิณ ตั้งแต่สมัย ดีลและเคลียร์บัญชีกับ เนวิน ชิดชอบ ก่อนที่จะแยกค่ายพลิกขั้วไป
รวมทั้งในยุค จักรภพ เพ็ญแข ที่ ทำหน้าที่คุมพีทีวี ช่องโทรทัศน์ของทักษิณ ที่เปิดในยุคแรกของการต้านรัฐประหาร ก็เป็นน้องสาวนายใหญ่ ที่เข้าไปแก้ปัญหายุ่งๆเรื่องเงินทอง
วันนี้ทั้งในพรรคเพื่อไทย กลุ่มนปช. รวมทั้งสื่อในเครือข่าย ทั้งทีวีดาวเทียม วิทยุชุมชน สื่อสิ่งพิมพ์ รวมทั้ง VOICE TV ของเล่นใหม่ของ“หลานโอ๊ค พานทองแท้” ก็มี“อาปู” ดูแลเรื่องเงินๆทองๆ ค่าใช้จ่ายให้
**และที่เหนือกว่าทุกท่อจ่าย และการลงขัน อัดฉีดจากหลายๆ สาย อยู่ที่คลังส่งกำลังสนับสนุน ที่ฐานบัญชาการ บ้านจันทร์ส่องหล้า ของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ที่วันนี้ก็แน่ชัดแล้วว่า ที่หย่าขาดกับทักษิณ ก็แค่ลวงโลก เพื่อป้องทรัพย์สมบัติ
**ของจริงรายนี้ยังเป็น “นายหญิงใหญ่” ของระบอบทักษิณ ทั้งพรรคเพื่อไทย ทัพเสื้อแดง ที่ยังคงทรงอิทธิพล ในการสั่งการสนับสนุนการเคลื่อนไหวต่างๆ เพื่อช่วยอดีตสามี ที่ก็รวมถึงปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองด้วย
เพราะสามีภรรยาที่สร้างเนื้อสร้างตัว และใช้เล่ห์เหลี่ยมทางธุรกิจ จนเป็นครอบครัวอภิมหาเศรษฐี และร่วมกันสร้างฐานทุนนิยมสามานย์จนเติบโตเฟื่องฟู วันนี้“พจมาน” จึงแยกไม่ขาดจาก “ทักษิณ”
**ถ้าเรียกว่าเป็นหัวจ่ายก็ต้องเรียกว่า “หัวจ่าย” ระดับ “ตัวแม่” อย่างนั้นเลย!!
