xs
xsm
sm
md
lg

สสปน.พุ่งเป้าตลาดโอเชียนเนีย คาดมี.ค.ชงครม.ชิงเวิลด์เอ็กซ์โป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน -  สสปน.ฝันงานAIME ดึงนักท่องเที่ยวไมซ์จากโอเชียนเนียเข้าไทยปีนี้แตะ 5 หมื่นคน ยอมรับตลาดแข่งขันสูงคู่แข่งขันจองบุกธุรกิจไมซ์ตาเป็นมัน แต่ไทยยังย่ำกลยุทธ์เดิม “แวลู ฟอร์ มันนี่” พร้อมจีบการบินไทยเพิ่มผู้โดยสารในเส้นทางโลว์ซีซั่น ขณะที่ความคืบหน้าประมูลสิทธิ์ เวิลด์เอ็กซ์โป เร่งเสนอ ครม.มี.ค.นี้
หวังใช้เวิลด์เอ็กซ์โปเชี่ยงไฮ้ประกาศตัว

นายอรรคพล สรสุชาติ   ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า  สสปน.วางยุทธศาสตร์เชิงรุก ในการจับมือกับไทยทีมโปรโมทประเทศไทยเป็นไมซ์เดสติเนชั่น  พร้อมกันนี้ยังใช้โอกาสนโยบายเปิดการค้าเสรีในกรอบอาเซียน+6 สร้างประโยชน์ให้แก่อุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทยด้วย
 ล่าสุด เตรียมนำผู้ประกอบการไมซ์ของไทยด้านการจัดประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล 30 ราย เข้าร่วมงาน AIME 2010 (Asia-Pacific Incentive & Meetings Expo ระหว่างวันที่ 2-3 มี.ค.53  คาดมีผู้ร่วมงานนี้รวม 4-5 หมื่นราย จากออสเตรเลียและทุกประเทศทั่วโลก โดยงานนี้คาดว่าผู้ประกอบการไทยที่ร่วมเดินทาง ได้แก่กลุ่มโรงแรม บริษัทนำเที่ยว และธุรกิจบริการต่างๆ จะได้เจรจากับคู่ค้า 400-500  นัดหมาย
เกิดผู้เดินทางมาไทยจากงานนี้ไม่ต่ำกว่า 5 ราย สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 250 ล้านบาท
***ชูแวลูฟอร์มันนี่สู้คู่แข่งขัน***
ทั้งนี้ออสเตรเลีย ถือเป็นตลาดสำคัญของธุรกิจไมซ์ ประกอบกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจออสเตรเลียที่ดีขึ้น ทำให้เป็นเป้าหมายให้หลายประเทศจับตามองตลาดนี้เช่นเดียวกับประเทศไทย โดยคู่แข่งขันสำคัญ ได้แก่  ฮาวาย และ ฮ่องกง  เนื่องจากมีจุดขายและระยะทางใกล้เคียงกับประเทศไทย คือ ความสะดวกสบาย และ หาดทรายชายทะเล  ซึ่งกลยุทธ์ของ สสปน.ยังคงชูความเป็นเดสติเนชั่นแห่งความคุ้มค่าเงิน(แวลู ฟอร์มันนี่) เช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม จากการเปิดเสรีอาเซียน+6 สสปน.จะเพิ่มความเข้มข้นในการทำตลาดเอเชียและโอเชียนเนียมากขึ้น เน้นกิจกรรมการตลาดและการประชาสัมพันธ์ โดยครึ่งแรกของปี 2553 จะเน้นเดินทางร่วมงานเทรดโชว์และจัดกิจกรรมโรดโชว์ เน้นตลาดศักยภาพสูง เช่น จีน ญี่ปุ่น อินเดีย และประเทศแถบโอเชียนเนียอย่างออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์จากโอเชียนเนียปีนี้ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นคน สร้างรายได้ 4-4.5 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 4-5%
**จีบบินไทยอุดช่องโหว่โลว์ซีซั่น***
นายอรรคพล กล่าวว่า  เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทยเติบโตไปตามเป้าหมายที่ สสปน.วางไว้ปีนี้ คือ  7.85 แสนคน สร้างรายได้ 5.69  หมื่นล้านบาท เติบโตจากปี 2552 ราว 25% มีแนวคิดจะร่วมมือกับการบินไทย และผู้ประกอบการเอกชน จัดแพกเกจทัวร์ เพื่อการประชุมสัมมนาและท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลเข้ามาที่ประเทศไทยในช่วงที่เป็นโลว์ซีซั่นในแต่ละเส้นทาง
“โลว์ซีซั่นของยุโรป กับโอเชียนเนีย จะไม่ตรงกัน ดังนั้นเมื่อเส้นทางใดโลว์ซีซั่นทำให้ซีทของการบินไทยที่บินอยู่ประจำจะเหลือจำนวนมาก ก็นำมาร่วมกันจัดเป็นโปรโมชั่น ทำให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์จะดีกว่า ซึ่งจากการโรดโชว์ตั้งแต่ปลายปีก่อนถึงขณะนี้ พบว่า เทรนการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้รุนแรงมากขึ้น เพราะทุกประเทศเห็นความสำคัญของเม็ดเงินที่ได้มากกว่าการรุกตลดนักท่องเที่ยวปกติเพียงอย่างเดียว โดยประเทศคู่แข่งขัน อยู่ในกลุ่มพื้นที่อบอุ่นแถบตะวันออกกลาง  ตุรกี เกาหลี ฮ่องกง มาเก๊า และสิงคโปร์ เป็นต้น  ดังนั้น ตลาดที่ สสปนจะรุกหนักคืออินเดีน และจีน ซึ่งเป้นประเทศเศรษฐกิจเติบโต”
***จี้ ครม.ตัดสินใจหวังใช้เวทีเซี่ยงไฮ้ประกาศตัว***
นายอรรคพล กล่าวถึง ความคืบหน้าผลการศึกษาข้อมูลการประมูลสิทธิ์จัดงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2020  พบว่าจากคำแนะนำของประเทศญี่ปุ่นที่เคยเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าวนี้ พบว่า มีความคุ้มค่าและผลักดันเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตได้จริง รวมถึงข้อมูลจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่ง สสปน.จะนำข้อมูลทั้งหมดที่ศึกษา เสนอบอร์ด 17 ก.พ.53 จากนั้นจะเปิดรับความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องโดยจัดวัน Open day  วันที่ 22 ก.พ.53  เพื่อสรุปข้อมูล นำเสนอคณะรัฐมนตรีภายในเดือน มี.ค.53 โดยตั้งใจว่าจะให้รัฐบาลตัดสินใจให้แล้วเสร็จก่อนเดือน มิ.ย.53 เพราะหากรัฐบาลตัดสินใจผลักดันประเทศไทยเข้าประมูลสิทธิ์การจัดงาน สสปน.ก็จะใช้โอกาสที่เข้าร่วมงานเวิลด์เอ็กซ์ดป 2010 ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนเดือนมิ.ย.ศกนี้ประกาศให้นานาประเทศรับทราบ ซึ่งยอมรับว่าขณะนี้คู่แข่งขันที่จะเข้าประมูลสิทธิมีเยอะมาก โดยที่จัดทำเว็บไซต์โปรโมตตัวเองแล้วคือ นิวยอร์ก
กำลังโหลดความคิดเห็น