สสปน.ผนึก”ไทยทีม” ตะลุยโรดโชว์แดนปลาดิบ ชูศักยภาพความพร้อมไทย ผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ อัพเดทข้อมูลกิจกรรมผ่านสังคมออนไลน์ เปิดตัวเรียลลิตี้โรดโชว์ครั้งแรก ชวนต่างชาติและชาวญี่ปุ่นชักแถวจัดไมซ์ในประเทศไทย ย้ำเป็นกลยุทธ์แผนการตลาดระยะสั้น หวังโกยไมซ์ยุ่นปีนี้ 3.8 หมื่นคน สร้างรายได้ 3.35 พันล้านบาท
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า สสปน.ได้เริ่ทมดำเนินแผนกลยุทธ์การตลาดระยะสั้น เพื่อส่งเสริมให้ต่างชาติเดินทางเข้ามาจัดประชุมสัมมนา และนิทรรศการในประเทสไทย ได้เพิ่มขึ้นภายในปีนี้ โดยจะเน้นตลาดที่มีศักยภาพที่มีระยะการเดินทางใกล้ ประเดิมแห่งแรกปีนี้ ด้วยการจัดกิจกรรมโรดโชว์ ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกต้นเดือนก.พ.53 ภายใต้การทำงานกับหน่วยงานพันธมิตร”ไทยทีม” ประกอบด้วย ภาคเอกชนในอุตสาหกรรมไมซ์ อาทิ กลุ่มประชุมและท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล กลุ่มงานแสดงสินค้า กลุ่มการประชุมนานาชาติ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ เช่น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง การท่าอากาศยานแห่งประเทสไทย กรมศุลกากร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การบินไทย ผู้บริหารไมซ์ซิตี้ เช่น กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ พัทยา
**ตั้งเป้าโกยไมซ์ญี่ปุ่น 3.8 หมื่นคน****
โดยทั้งหมดจะเดินทางร่วมกันเพื่อไปประกาศศักยภาพความพร้อมของประเทสไทยในการเป็นเมืองไมซ์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการที่ครบถ้วน พร้อมรองรับกลุ่มไมซ์จากนานาประเทศ
“ญี่ปุ่น เป็นประเทศอันดับ 3 ในเอเชีย เดินทางมาประเทศไทยเพื่อดำเนินธุรกิจไมซ์ ซึ่ง IP&C ระบุว่า ตลาดไมซ์ญี่ปุ่น มีอัตราเติบโต 5% ของภาพรวมตลาดไมซ์ทั้งหมด จึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยปี 2551 มีกลุ่มไมซ์จาก ญี่ปุ่นมาไทย 35,000 คน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งปีนี้ สสปน.ตั้งเป้าดึงกลุ่มไมซ์จากประเทศญี่ปุ่นที่ 38,000 คน สร้างรายได้ 3.35 พันล้านบาท “
การเดินทางไปเปิดตลาดไมซ์อย่างเป็นทางการในญี่ปุ่นครั้งนี้ สสปน.เตรียมเสนอความพร้อมของประเทศไทยใน 4 ประการหลัก ได้แก่ 1. พร้อมให้ความเชื่อมั่นด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย 2.ความพร้อมของหน่วยงานรัฐภายใต้ “ไทยทีม”อำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่จะเข้ามาจัดประชุมที่ประเทศไทย เช่น บริการให้ข้อมูลและคำปรึกษา”ไมซ์ คลินิก ฟิรั่ม” บริการช่องทางพิเศษ”ไมซ์ เลน” บริการต่อวีซ่า มาตรการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน และ การอำนวยความสะดวกในการนำสินค้าเข้ามาจัดกิจกรรมไมซ์ในประเทศไทย 3.ความพร้อมของไมซ์ซิตี้ใน 3 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ พัทยา และ เชียงใหม่ 4.ความพร้อมด้สนการตลาดและการส่งเสริมการขาย โดยสสปน.ได้จัดแพกเกจพิเศษเฉพาะตลาดญี่ปุ่น “ไทยแลนด์แมกซิไมซ์” ส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านความคุ้มค่า การจัดกิจกรรมผู้ซื้อพบผู้ขายระหว่างตัวแทนด้านการท่องเที่ยวและสมาคมท่องเที่ยวต่างๆให้มาพบปะเจรจาทางธุรกิจ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการไมซ์ของไทย นอกจากนั้นยังมีการจัดกิจกรรมสัมมนาพิเศษแนะนำประเทศไทยในมุมมองของกลุ่ม C และ E เจาะกลุ่มประชุมสัมมนาและการจัดงานแสดงสินค้า
***ใช้สื่อออนไลน์ร่วมโปรโมท****
เพื่อให้สอดคล้องกับโลกปัจจุบัน สสปน.ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยนำเสนอศักยภาพไมซ์ของประเทศไทยให้ประเทศญี่ปุ่นได้รับทราบผ่านสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ในรูปแบบสังคมออนไลน์ ด้วยการนำเสนอข้อมูลผ่าน Twitter Facebook พร้อมอัพเดทข้อมูลทุกกิจกรรมผ่านภาพเคลื่อนไหวทาง Google VDO และ YouTube ซึ่งถือเป็นการให้ข้อมูลความพร้อมด้านการจัดงานของประเทศไทย ออกสู่สายตาต่างประเทศทั่วโลกผ่านสัมคมออนไลน์ แม้ว่าในบางประเทศที่สสปน.ยังไม่สามารถเดินทางไปโรดโชว์ได้ เนื่องจากงบประมาณมีจำกัด และถือเป็นการสร้างการรับรู้ประเทศไทย เพื่อก้าวไปสู่การเข้าประมูลสิทธิ์การจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โป
อย่างไรก็ตาม สสปน.จะใช้เวทีของการโรดโชว์ ครั้งนี้ เพื่อขอข้อมูลจากญี่ปุ่น ในเรื่องการเป็นเจ้าภาพจัดงาน เวิลด์เอ็กซ์โป ด้วยว่า มีขั้นตอนประมูลเป็นอย่างไร ตลอดจนแนวคิดการนำเสนอธีมการจัดงาน ปัญหาและอุปสรรค ตลอดจนการประเมินผลการจัดงาน ซึ่งการไปโรดโชว์ครั้งนี้ ถือเป็นรียลลิตี้ โรดโชว์ ครั้งแรกของสสปน. ด้วย
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า สสปน.ได้เริ่ทมดำเนินแผนกลยุทธ์การตลาดระยะสั้น เพื่อส่งเสริมให้ต่างชาติเดินทางเข้ามาจัดประชุมสัมมนา และนิทรรศการในประเทสไทย ได้เพิ่มขึ้นภายในปีนี้ โดยจะเน้นตลาดที่มีศักยภาพที่มีระยะการเดินทางใกล้ ประเดิมแห่งแรกปีนี้ ด้วยการจัดกิจกรรมโรดโชว์ ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกต้นเดือนก.พ.53 ภายใต้การทำงานกับหน่วยงานพันธมิตร”ไทยทีม” ประกอบด้วย ภาคเอกชนในอุตสาหกรรมไมซ์ อาทิ กลุ่มประชุมและท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล กลุ่มงานแสดงสินค้า กลุ่มการประชุมนานาชาติ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ เช่น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง การท่าอากาศยานแห่งประเทสไทย กรมศุลกากร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การบินไทย ผู้บริหารไมซ์ซิตี้ เช่น กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ พัทยา
**ตั้งเป้าโกยไมซ์ญี่ปุ่น 3.8 หมื่นคน****
โดยทั้งหมดจะเดินทางร่วมกันเพื่อไปประกาศศักยภาพความพร้อมของประเทสไทยในการเป็นเมืองไมซ์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการที่ครบถ้วน พร้อมรองรับกลุ่มไมซ์จากนานาประเทศ
“ญี่ปุ่น เป็นประเทศอันดับ 3 ในเอเชีย เดินทางมาประเทศไทยเพื่อดำเนินธุรกิจไมซ์ ซึ่ง IP&C ระบุว่า ตลาดไมซ์ญี่ปุ่น มีอัตราเติบโต 5% ของภาพรวมตลาดไมซ์ทั้งหมด จึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยปี 2551 มีกลุ่มไมซ์จาก ญี่ปุ่นมาไทย 35,000 คน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งปีนี้ สสปน.ตั้งเป้าดึงกลุ่มไมซ์จากประเทศญี่ปุ่นที่ 38,000 คน สร้างรายได้ 3.35 พันล้านบาท “
การเดินทางไปเปิดตลาดไมซ์อย่างเป็นทางการในญี่ปุ่นครั้งนี้ สสปน.เตรียมเสนอความพร้อมของประเทศไทยใน 4 ประการหลัก ได้แก่ 1. พร้อมให้ความเชื่อมั่นด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย 2.ความพร้อมของหน่วยงานรัฐภายใต้ “ไทยทีม”อำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่จะเข้ามาจัดประชุมที่ประเทศไทย เช่น บริการให้ข้อมูลและคำปรึกษา”ไมซ์ คลินิก ฟิรั่ม” บริการช่องทางพิเศษ”ไมซ์ เลน” บริการต่อวีซ่า มาตรการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน และ การอำนวยความสะดวกในการนำสินค้าเข้ามาจัดกิจกรรมไมซ์ในประเทศไทย 3.ความพร้อมของไมซ์ซิตี้ใน 3 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ พัทยา และ เชียงใหม่ 4.ความพร้อมด้สนการตลาดและการส่งเสริมการขาย โดยสสปน.ได้จัดแพกเกจพิเศษเฉพาะตลาดญี่ปุ่น “ไทยแลนด์แมกซิไมซ์” ส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านความคุ้มค่า การจัดกิจกรรมผู้ซื้อพบผู้ขายระหว่างตัวแทนด้านการท่องเที่ยวและสมาคมท่องเที่ยวต่างๆให้มาพบปะเจรจาทางธุรกิจ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการไมซ์ของไทย นอกจากนั้นยังมีการจัดกิจกรรมสัมมนาพิเศษแนะนำประเทศไทยในมุมมองของกลุ่ม C และ E เจาะกลุ่มประชุมสัมมนาและการจัดงานแสดงสินค้า
***ใช้สื่อออนไลน์ร่วมโปรโมท****
เพื่อให้สอดคล้องกับโลกปัจจุบัน สสปน.ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยนำเสนอศักยภาพไมซ์ของประเทศไทยให้ประเทศญี่ปุ่นได้รับทราบผ่านสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ในรูปแบบสังคมออนไลน์ ด้วยการนำเสนอข้อมูลผ่าน Twitter Facebook พร้อมอัพเดทข้อมูลทุกกิจกรรมผ่านภาพเคลื่อนไหวทาง Google VDO และ YouTube ซึ่งถือเป็นการให้ข้อมูลความพร้อมด้านการจัดงานของประเทศไทย ออกสู่สายตาต่างประเทศทั่วโลกผ่านสัมคมออนไลน์ แม้ว่าในบางประเทศที่สสปน.ยังไม่สามารถเดินทางไปโรดโชว์ได้ เนื่องจากงบประมาณมีจำกัด และถือเป็นการสร้างการรับรู้ประเทศไทย เพื่อก้าวไปสู่การเข้าประมูลสิทธิ์การจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โป
อย่างไรก็ตาม สสปน.จะใช้เวทีของการโรดโชว์ ครั้งนี้ เพื่อขอข้อมูลจากญี่ปุ่น ในเรื่องการเป็นเจ้าภาพจัดงาน เวิลด์เอ็กซ์โป ด้วยว่า มีขั้นตอนประมูลเป็นอย่างไร ตลอดจนแนวคิดการนำเสนอธีมการจัดงาน ปัญหาและอุปสรรค ตลอดจนการประเมินผลการจัดงาน ซึ่งการไปโรดโชว์ครั้งนี้ ถือเป็นรียลลิตี้ โรดโชว์ ครั้งแรกของสสปน. ด้วย
