สสปน.ฝันปั้นเชียงใหม่ นครแห่งไมซ์ กินรวบพื้นที่ภาคเหนือและประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมจับมือ 9 สถาบันการศึกษา ฝึกบุคลากรรองรับการเติบโต ด้านผู้ว่าราชการเชียงใหม่ แย้ม 2 โครงการยักษ์ เมดดิคัลฮับ และ สปอร์ต คอมเพล็ก ตอกย้ำ ศักยภาพเมือง
หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานกรรมการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สสปน. เปิดเผยว่า ได้ลงนามMOU ร่วมกับ จ.เชียงใหม่ และ สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ทิก้า) เพื่อตกลงที่จะดำเนินโครงการส่งเสริมจ.เชียงใหม่เป็นเป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติ(ฮับ)ในภูมิภาคภาคเหนือ เพราะศักยภาพของเมืองเชียงใหม่ สถานที่จัดงานที่มีโรงแรมระดับ 5 ดาว จำนวนมาก ที่มีห้องประชุมเพียงพอรองรับตลาดประชุมสัมมนาตั้งแต่กรุ๊ปเล็กถึงกลุ่มขนาดใหญ่ โดยหลายๆแห่งมีความจุของห้องประชุม สูงสุดได้ 1,500-3,500 คน ทำให้ทั้งจังหวัดรองรับการประชุมได้รวมกว่า 10,000 คน
“เชียงใหม่มีทั้งที่เที่ยวและสถานที่จัดงาน ทำให้เป็นจุดขายที่น่าสนใจของกลุ่มลูกค้าเอเชียและยุโรป หากการส่งเสริมเห็นผลดีจะช่วยอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศเติมโตราว 5% ต่อปี กลยุทธ์ของ สสปน. จะดึงสินค้าที่เป็นจุดเด่นของแต่ละภูมิภาคมานำเสนอให้น่าสนใจ ทำงานเชิงรุก โดยเชียงใหม่ จะเป็น 1 ใน 4 เดสติเนชั่น ที่ สสปน.คาดหวังให้เป็นเมืองธุรกิจและท่องเที่ยวที่สำคัญ หรือนครแห่งไมซ์ รองจากกรุงเทพ ส่วนอีก 2 แห่ง คือ พัทยาและภูเก็ต”
รูปแบบการร่วมมือกันทำงานของทั้ง 3 หน่วยงานในครั้งนี้ เป็นการเตรียมพร้อมเพื่อการให้บริการตลาดไมซ์ล่วงหน้า ก่อนที่ศูนย์การประชุมนานาชาติ จ.เชียงใหม่จะก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยจะมีพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างในเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้ และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการประมาณปี 2554
ล่าสุด สสปน.เปิดโครงการ Mice 4 Youth โดยจะเปิดอบรมความรู้แก่เด็กนักเรียน นักศึกษา ในจ.เชียงใหม่ ประเดิม 9 สถาบัน เสริมสร้างความรู้ในธุรกิจไมซ์แก่เยาวชน พร้อมกันนี้จะฝึกอบรมบุคคลากรผู้สอนให้มีความรู้และเชี่ยวชาญในการบริการด้านนี้ เช่น อาจารย์จากกรุงเวียนนาประเทศออสเตรีย และ จากประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งทั้งสองแห่งเป็นแหล่งมีชื่อเสียงด้านธุรกิจไมซ์ในเวทีระดับโลก
นายกนก นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ภาคเหนือ กล่าวว่า สถานการณ์ท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ยังไม่ฟื้นตัว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 40% เทียบกับปีก่อน แต่ก็ยังหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นบ้างช่วงไฮซีซั่นปลายปีนี้ โดยมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 75% เพิ่มจากปัจจุบันที่มีประมาณ 33% ส่วนแผนประชาสัมพันธ์ตลาดในประเทศที่ใช้กลยุทธ์ชวนนักท่องเที่ยวมาชมหมีแพนด้า “หลินปิง”
นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ได้ให้เงินแก่งจ.เชียงใหม่ 2,880 ล้านบาท เพื่อร่วมกับคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดตั้ง เมดดิคัล ฮับ หรือศูนย์บริการการแพทย์ขนาดใหญ่รองรับภาคเหนือทั้งหมด และประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง โครงการนี้จะใช้งบประมาณ 5,348 ล้านบาท
ซึ่งส่วนที่เหลือรัฐบาลไทยจะเป็นผู้ออกโดยนำเงินมาจาก โครงการไทยเข้มแข็ง เบื้องต้นกำหนดสร้างตรงพื้นที่กรมทางหลวงเก่าขนาดพื้นที่ 20 ไร่
นอกจากนั้น ทางจังหวัด ยังทบทวนแผนงานโครงการสปอร์ต คอมเพล็กซ์ บนพื้นที่สูง มูลค่าโครงการ 200-300 ล้านบาท ที่อำเภอกัลยานิวัฒนา จ.เชียงใหม่ โดยจะนำเสนอต่อ กระทรวงการท่องเที่ยวใหม่อีกครั้ง
หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานกรรมการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สสปน. เปิดเผยว่า ได้ลงนามMOU ร่วมกับ จ.เชียงใหม่ และ สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ทิก้า) เพื่อตกลงที่จะดำเนินโครงการส่งเสริมจ.เชียงใหม่เป็นเป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติ(ฮับ)ในภูมิภาคภาคเหนือ เพราะศักยภาพของเมืองเชียงใหม่ สถานที่จัดงานที่มีโรงแรมระดับ 5 ดาว จำนวนมาก ที่มีห้องประชุมเพียงพอรองรับตลาดประชุมสัมมนาตั้งแต่กรุ๊ปเล็กถึงกลุ่มขนาดใหญ่ โดยหลายๆแห่งมีความจุของห้องประชุม สูงสุดได้ 1,500-3,500 คน ทำให้ทั้งจังหวัดรองรับการประชุมได้รวมกว่า 10,000 คน
“เชียงใหม่มีทั้งที่เที่ยวและสถานที่จัดงาน ทำให้เป็นจุดขายที่น่าสนใจของกลุ่มลูกค้าเอเชียและยุโรป หากการส่งเสริมเห็นผลดีจะช่วยอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศเติมโตราว 5% ต่อปี กลยุทธ์ของ สสปน. จะดึงสินค้าที่เป็นจุดเด่นของแต่ละภูมิภาคมานำเสนอให้น่าสนใจ ทำงานเชิงรุก โดยเชียงใหม่ จะเป็น 1 ใน 4 เดสติเนชั่น ที่ สสปน.คาดหวังให้เป็นเมืองธุรกิจและท่องเที่ยวที่สำคัญ หรือนครแห่งไมซ์ รองจากกรุงเทพ ส่วนอีก 2 แห่ง คือ พัทยาและภูเก็ต”
รูปแบบการร่วมมือกันทำงานของทั้ง 3 หน่วยงานในครั้งนี้ เป็นการเตรียมพร้อมเพื่อการให้บริการตลาดไมซ์ล่วงหน้า ก่อนที่ศูนย์การประชุมนานาชาติ จ.เชียงใหม่จะก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยจะมีพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างในเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้ และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการประมาณปี 2554
ล่าสุด สสปน.เปิดโครงการ Mice 4 Youth โดยจะเปิดอบรมความรู้แก่เด็กนักเรียน นักศึกษา ในจ.เชียงใหม่ ประเดิม 9 สถาบัน เสริมสร้างความรู้ในธุรกิจไมซ์แก่เยาวชน พร้อมกันนี้จะฝึกอบรมบุคคลากรผู้สอนให้มีความรู้และเชี่ยวชาญในการบริการด้านนี้ เช่น อาจารย์จากกรุงเวียนนาประเทศออสเตรีย และ จากประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งทั้งสองแห่งเป็นแหล่งมีชื่อเสียงด้านธุรกิจไมซ์ในเวทีระดับโลก
นายกนก นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ภาคเหนือ กล่าวว่า สถานการณ์ท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ยังไม่ฟื้นตัว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 40% เทียบกับปีก่อน แต่ก็ยังหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นบ้างช่วงไฮซีซั่นปลายปีนี้ โดยมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 75% เพิ่มจากปัจจุบันที่มีประมาณ 33% ส่วนแผนประชาสัมพันธ์ตลาดในประเทศที่ใช้กลยุทธ์ชวนนักท่องเที่ยวมาชมหมีแพนด้า “หลินปิง”
นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ได้ให้เงินแก่งจ.เชียงใหม่ 2,880 ล้านบาท เพื่อร่วมกับคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดตั้ง เมดดิคัล ฮับ หรือศูนย์บริการการแพทย์ขนาดใหญ่รองรับภาคเหนือทั้งหมด และประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง โครงการนี้จะใช้งบประมาณ 5,348 ล้านบาท
ซึ่งส่วนที่เหลือรัฐบาลไทยจะเป็นผู้ออกโดยนำเงินมาจาก โครงการไทยเข้มแข็ง เบื้องต้นกำหนดสร้างตรงพื้นที่กรมทางหลวงเก่าขนาดพื้นที่ 20 ไร่
นอกจากนั้น ทางจังหวัด ยังทบทวนแผนงานโครงการสปอร์ต คอมเพล็กซ์ บนพื้นที่สูง มูลค่าโครงการ 200-300 ล้านบาท ที่อำเภอกัลยานิวัฒนา จ.เชียงใหม่ โดยจะนำเสนอต่อ กระทรวงการท่องเที่ยวใหม่อีกครั้ง