นายชวรัตน์ ชาญวัรกูล รมว.มหาดไทยกล่าวถึงข่าวที่กรมการปกครอง(ปค.) ล็อคสเปกบริษัท เกี่ยวกับการเช่าซื้อระบบคอมพิวเตอร์จำนวน 3,490 ล้านบาท ว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบรายละเอียด แต่การจัดซื้อคอมพิวเตอร์เป็นงานต่อเนื่อง ต้องให้ทางกรมการปกครอง
ส่วนที่มีข่าวว่าน้องชายนักการเมืองใหญ่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังและมีการมีการแก้ สเปคทีโออาร์ เพื่อเอื้อประโยชน์ ให้กับบางบริษัท จนมีข้าราชการที่ไม่เห็นด้วย ถูกโยกย้าย15 ราย นายชวรัตน์กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียด ส่วนจะตั้งกรรมการตรวจสอบรือไม่ต้องให้มีการเสนอขึ้นมาก่อน เพราะการโยกย้ายข้าราชการ คงไม่ต้องให้ถึงมือรัฐมนตรีเพราะว่าแค่ ซี 7-8 เอง เป็นสิทธิ์การโยกย้ายของ กรมการปกครอง เมื่อถามว่าจะกลายเป็นประเด็นให้ถูกอภิปรายหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ประเด็นที่ถูกอภิปรายอาจจะมีหลายประเด็นหรืออาจจะไม่มีก็ได้
ด้านนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร รองอธิบดีกรมการปกครอง แถลงกรณีมีข่าวการประมูลเช่าคอมพิวเตอร์ระบบทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง มูลค่าโครงการ 3,490. 84 ล้านบาท ระหว่างปี 2553-2559 มีการล็อคสเปค และโยกย้ายข้าราชการ ด้านเทคนิคที่ไม่เห็นด้วยกับการประมูล และเอาข้าราชการปกครองทั่วไป มาดูเพื่อเอื้อให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาควบคุมการประมูลได้ว่า การทำทีโออาร์ในเรื่องนี้กรมการปกครอง ได้ทำตามระเบียบพัสดุ ปี พ.ศ.2546 แต่ปรับปรุงให้ทันสมัยกว่าเดิม และต้องขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการของกระทรวงไอซีที จึงประกาศลงเวบไซด์ได้ จากนั้นจึงมีการประกวดราคา ซึ่งคณะกรรมการได้แจกเอกสารแก่บริษัทที่สนใจตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. และให้เตรียมทดสอบระบบในวันที่ 3-4 ก.พ. เท่ากับว่า มีเวลาเตรียมตัวถึง 26 วัน ไม่ใช่ 7 วันตามที่เป็นข่าว โดยในการทดสอบ มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้สังเกตการจากบริษัทการสื่อสารแห่งประเทศไทย ( กสท )
นายนิรันดร์ กล่าวว่า ครม.มีมติเรื่องนี้ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.2552 และสัญญาจะหมดอายุในวันที่ 15 ก.พ.2553 จึงต้องเร่งดำเนินการ อีกทั้งการประกวดราคา บริษัทที่ชนะคือบริษัทคอนโทรล ดาต้า ( ประเทศไทย ) จำกัด ก็ยอมลดราคา ต่ำกว่าราคากลาง 15 ล้านบาท ไม่คิดค่าบำรุงรักษาจนกว่าจะติดตั้งระบบเสร็จ เป็นประโยชน์ที่รัฐบาลจะได้รับ ส่วนที่มีข่าวเรื่องการโยกย้ายข้าราชการ 15 คนนั้น เป็นนโยบายบริหารงานบุคคล ซึ่งเป็นอำนาจของอธิบดีกรมการปกครองเท่าที่ทราบ มีการขอตัวไปช่วยราชการ เพื่อไปทำระบบงานให้กลุ่มจังหวัด และคนที่มาแทน ก็มีความรู้ในเรื่องเทคนิคเช่นกัน คนทำงานนี้ได้ไม่ได้มีแค่ 1-2 คน แต่มีเป็นร้อยคน
ด้านนายอวยชัย อินทร์นาค ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานทะเบียน ที่ได้รับคำสั่งย้ายเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ให้เป็นปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ในช่วงที่ตนยังดูแลงานเรื่องนี้ ก็ทำอย่างเรียบร้อย แต่ขอย้ายเพราะมีปัญหาสุขภาพที่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ถูกกลั่นแกล้ง หรือถูกย้ายเพราะจะไม่ให้ทีโออาร์ผ่าน ยืนยันว่า การทำทีโออาร์เรื่องนี้ทำมาเกือบปีแล้ว
นายพิภพ ดำทองสุข ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ได้โยกย้ายมาเป็นผู้อำนวยการสำนักบริหารงานทะเบียนคนใหม่กล่าวว่า ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่มีฝ่ายการเมืองเข้ามา เกี่ยวข้อง การพิจารณาบริษัทประมูลทำอย่างอิสระ และที่ตนมารับหน้าที่นี้ฝ่ายการเมือง ก็ไม่ได้มาจากการแต่งตั้งของฝ่ายการเมือง เพราะในอดีตตนก็ทำงานเกี่ยวกับงานทะเบียนมานานกว่า 10 ปี ถึงแม้จะไม่รุ้เรื่องเทคนิคคอมพิวเตอร์มากนัก แต่มีลูกน้องที่มีความชำนาญเรื่องนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงที่ข้าราชการทั้ง 15 คนที่ถูกย้ายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ในจังหวัดภาคใต้ และย้ายไปเป็นปลัดจังหวัดบุรีรัมย์นั้น มีเสียงวิจารณ์จากข้าราชการ ปค.ว่า ข้าราชการทั้ง 15 คนเตรียมการยื่นเรื่องร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมทีเกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ของ ก.พ. แต่ปรากฏว่ามีผู้ใหญ่ใน ปค. ท่านหนึ่ง ได้เรียกทั้ง 15 คนเข้าไปไกล่เกลี่ยขอร้องในห้องเป็นรายบุคคล เพื่อไม่ให้ฟ้องร้อง เพราะเกรงว่าเรื่องดังกล่าวจะบานปลาย และทำให้ภาพลักษณ์ของ ปค.เสียหาย
ส่วนที่มีข่าวว่าน้องชายนักการเมืองใหญ่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังและมีการมีการแก้ สเปคทีโออาร์ เพื่อเอื้อประโยชน์ ให้กับบางบริษัท จนมีข้าราชการที่ไม่เห็นด้วย ถูกโยกย้าย15 ราย นายชวรัตน์กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียด ส่วนจะตั้งกรรมการตรวจสอบรือไม่ต้องให้มีการเสนอขึ้นมาก่อน เพราะการโยกย้ายข้าราชการ คงไม่ต้องให้ถึงมือรัฐมนตรีเพราะว่าแค่ ซี 7-8 เอง เป็นสิทธิ์การโยกย้ายของ กรมการปกครอง เมื่อถามว่าจะกลายเป็นประเด็นให้ถูกอภิปรายหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ประเด็นที่ถูกอภิปรายอาจจะมีหลายประเด็นหรืออาจจะไม่มีก็ได้
ด้านนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร รองอธิบดีกรมการปกครอง แถลงกรณีมีข่าวการประมูลเช่าคอมพิวเตอร์ระบบทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง มูลค่าโครงการ 3,490. 84 ล้านบาท ระหว่างปี 2553-2559 มีการล็อคสเปค และโยกย้ายข้าราชการ ด้านเทคนิคที่ไม่เห็นด้วยกับการประมูล และเอาข้าราชการปกครองทั่วไป มาดูเพื่อเอื้อให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาควบคุมการประมูลได้ว่า การทำทีโออาร์ในเรื่องนี้กรมการปกครอง ได้ทำตามระเบียบพัสดุ ปี พ.ศ.2546 แต่ปรับปรุงให้ทันสมัยกว่าเดิม และต้องขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการของกระทรวงไอซีที จึงประกาศลงเวบไซด์ได้ จากนั้นจึงมีการประกวดราคา ซึ่งคณะกรรมการได้แจกเอกสารแก่บริษัทที่สนใจตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. และให้เตรียมทดสอบระบบในวันที่ 3-4 ก.พ. เท่ากับว่า มีเวลาเตรียมตัวถึง 26 วัน ไม่ใช่ 7 วันตามที่เป็นข่าว โดยในการทดสอบ มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้สังเกตการจากบริษัทการสื่อสารแห่งประเทศไทย ( กสท )
นายนิรันดร์ กล่าวว่า ครม.มีมติเรื่องนี้ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.2552 และสัญญาจะหมดอายุในวันที่ 15 ก.พ.2553 จึงต้องเร่งดำเนินการ อีกทั้งการประกวดราคา บริษัทที่ชนะคือบริษัทคอนโทรล ดาต้า ( ประเทศไทย ) จำกัด ก็ยอมลดราคา ต่ำกว่าราคากลาง 15 ล้านบาท ไม่คิดค่าบำรุงรักษาจนกว่าจะติดตั้งระบบเสร็จ เป็นประโยชน์ที่รัฐบาลจะได้รับ ส่วนที่มีข่าวเรื่องการโยกย้ายข้าราชการ 15 คนนั้น เป็นนโยบายบริหารงานบุคคล ซึ่งเป็นอำนาจของอธิบดีกรมการปกครองเท่าที่ทราบ มีการขอตัวไปช่วยราชการ เพื่อไปทำระบบงานให้กลุ่มจังหวัด และคนที่มาแทน ก็มีความรู้ในเรื่องเทคนิคเช่นกัน คนทำงานนี้ได้ไม่ได้มีแค่ 1-2 คน แต่มีเป็นร้อยคน
ด้านนายอวยชัย อินทร์นาค ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานทะเบียน ที่ได้รับคำสั่งย้ายเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ให้เป็นปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ในช่วงที่ตนยังดูแลงานเรื่องนี้ ก็ทำอย่างเรียบร้อย แต่ขอย้ายเพราะมีปัญหาสุขภาพที่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ถูกกลั่นแกล้ง หรือถูกย้ายเพราะจะไม่ให้ทีโออาร์ผ่าน ยืนยันว่า การทำทีโออาร์เรื่องนี้ทำมาเกือบปีแล้ว
นายพิภพ ดำทองสุข ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ได้โยกย้ายมาเป็นผู้อำนวยการสำนักบริหารงานทะเบียนคนใหม่กล่าวว่า ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่มีฝ่ายการเมืองเข้ามา เกี่ยวข้อง การพิจารณาบริษัทประมูลทำอย่างอิสระ และที่ตนมารับหน้าที่นี้ฝ่ายการเมือง ก็ไม่ได้มาจากการแต่งตั้งของฝ่ายการเมือง เพราะในอดีตตนก็ทำงานเกี่ยวกับงานทะเบียนมานานกว่า 10 ปี ถึงแม้จะไม่รุ้เรื่องเทคนิคคอมพิวเตอร์มากนัก แต่มีลูกน้องที่มีความชำนาญเรื่องนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงที่ข้าราชการทั้ง 15 คนที่ถูกย้ายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ในจังหวัดภาคใต้ และย้ายไปเป็นปลัดจังหวัดบุรีรัมย์นั้น มีเสียงวิจารณ์จากข้าราชการ ปค.ว่า ข้าราชการทั้ง 15 คนเตรียมการยื่นเรื่องร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมทีเกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ของ ก.พ. แต่ปรากฏว่ามีผู้ใหญ่ใน ปค. ท่านหนึ่ง ได้เรียกทั้ง 15 คนเข้าไปไกล่เกลี่ยขอร้องในห้องเป็นรายบุคคล เพื่อไม่ให้ฟ้องร้อง เพราะเกรงว่าเรื่องดังกล่าวจะบานปลาย และทำให้ภาพลักษณ์ของ ปค.เสียหาย