ASTVผู้จัดการรายวัน - กองทุนฟื้นฟูสั่งที่ปรึกษาชงผลการต่อรองผู้ประมูลซื้อหุ้น SCIB เข้าบอร์ด 17 ก.พ.นี้ บิ๊กแบงก์นครหลวงไทยยันปันเงินปันผลปี 52 ไม่ต่ำกว่า 40%
นางทองอุไร ลิ้มปิติ ผู้จัดการ กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน กล่าวว่า ขณะนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ได้มอบหมายให้ที่ปรึกษาทางการเงินการประมูลขายหุ้นธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) ศึกษาเพิ่มเติมว่ากองทุนฟื้นฟูฯ จะสามารถผ่อนคลายหลักเกณฑ์ใดได้บ้าง หลังจากที่มีผู้เข้าประมูลเสนอเงื่อนไขมาก่อนหน้านี้
"กองทุนฟื้นฟูฯ กำหนดให้ FA เสนอผลการศึกษากลับมาภายในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าจะนำผลการประมูลเสนอให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ พิจารณาในวันที่ 17 ก.พ.นี้" นางทองอุไรกล่าว
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย กล่าวว่า ปี 2552 ธนาคารกำหนดนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ โดยขณะนี้ ธนาคารมีกำไรสะสมในส่วนของผู้ถือหุ้น 4 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ปี 2551 ได้จ่ายเงินปันผล 0.70 บาท/หุ้น
"บอร์ดธนาคารฯ จะมีการประชุม ในเดือน เม.ย.นี้ เพื่อพิจารณาการจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการปี 2552 ให้กับผู้ถือหุ้น" นายชัยวัฒน์กล่าวและคาดว่า ผลประกอบการในปีนี้จะดีขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากธนาคารได้มีการเพิ่มทุนรองรับการขยายธุรกิจไว้แล้ว ทำให้มีเงินกองทุนอย่างเพียงพอ ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่มีการฟื้นตัวดีขึ้น
สำหรับกระแสข่าวก่อนหน้านี้ที่กองทุนฟื้นฟูฯ ต้องการเงินปันผล คงไม่สามารถตอบแทนกองทุนฟื้นฟูฯได้ แต่จากหลักการจ่ายเงินปันผลแล้วจะต้องพิจารณาถึงความเพียงพอของเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) ด้วย
ส่วนแผนการขายหุ้นธนาคารให้กับพันธมิตรรายใหม่ที่จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง และยังคงดำเนินไปตามขั้นตอนปกติ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ก.พ. บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA)ได้เข้ามาขอดูตัวเลขบางตัวที่เกี่ยวกับเงื่อนไขของภาระการผูกพันจากการควบรวมกิจการธนาคารฯ กับธนาคารศรีนครเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เพื่อยืนยันถึงความถูกต้อง ซึ่งทุกอย่างก็เสร็จสิ้นเรียบร้อยไปแล้ว
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า การตัดขายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่หลายคนมองว่าอาจจะเป็นปัญหาต่อการขายหุ้นธนาคารนั้น ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดและต้องรอให้มีผู้ถือหุ้นรายใหม่เข้ามาตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางการบริหารหนี้ดังกล่าวเอง ซึ่งแผนการขายหนี้เอ็นพีแอลของธนาคารมีแนวคิดมาตั้งแต่ก่อนหน้าที่จะขายหุ้นแล้ว มีมูลหนี้ประมาณหมื่นล้าน"
ทั้งนี้ จำนวนหนี้เอ็นพีแอลรวมของธนาคาร ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 7.8% ซึ่งถ้ามีการขายออกไปตามจำนวนดังกล่าวคิดเป็น 2% ก็จะทำให้เอ็นพีแอลเหลือ 5% เท่านั้น ขณะเดียวกันภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เชื่อว่าระยะต่อไปราคาของ เอ็นพีแอลก็ควรจะดีขึ้นกว่าปีก่อนด้วย.
นางทองอุไร ลิ้มปิติ ผู้จัดการ กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน กล่าวว่า ขณะนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ได้มอบหมายให้ที่ปรึกษาทางการเงินการประมูลขายหุ้นธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) ศึกษาเพิ่มเติมว่ากองทุนฟื้นฟูฯ จะสามารถผ่อนคลายหลักเกณฑ์ใดได้บ้าง หลังจากที่มีผู้เข้าประมูลเสนอเงื่อนไขมาก่อนหน้านี้
"กองทุนฟื้นฟูฯ กำหนดให้ FA เสนอผลการศึกษากลับมาภายในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าจะนำผลการประมูลเสนอให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ พิจารณาในวันที่ 17 ก.พ.นี้" นางทองอุไรกล่าว
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย กล่าวว่า ปี 2552 ธนาคารกำหนดนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ โดยขณะนี้ ธนาคารมีกำไรสะสมในส่วนของผู้ถือหุ้น 4 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ปี 2551 ได้จ่ายเงินปันผล 0.70 บาท/หุ้น
"บอร์ดธนาคารฯ จะมีการประชุม ในเดือน เม.ย.นี้ เพื่อพิจารณาการจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการปี 2552 ให้กับผู้ถือหุ้น" นายชัยวัฒน์กล่าวและคาดว่า ผลประกอบการในปีนี้จะดีขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากธนาคารได้มีการเพิ่มทุนรองรับการขยายธุรกิจไว้แล้ว ทำให้มีเงินกองทุนอย่างเพียงพอ ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่มีการฟื้นตัวดีขึ้น
สำหรับกระแสข่าวก่อนหน้านี้ที่กองทุนฟื้นฟูฯ ต้องการเงินปันผล คงไม่สามารถตอบแทนกองทุนฟื้นฟูฯได้ แต่จากหลักการจ่ายเงินปันผลแล้วจะต้องพิจารณาถึงความเพียงพอของเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) ด้วย
ส่วนแผนการขายหุ้นธนาคารให้กับพันธมิตรรายใหม่ที่จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง และยังคงดำเนินไปตามขั้นตอนปกติ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ก.พ. บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA)ได้เข้ามาขอดูตัวเลขบางตัวที่เกี่ยวกับเงื่อนไขของภาระการผูกพันจากการควบรวมกิจการธนาคารฯ กับธนาคารศรีนครเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เพื่อยืนยันถึงความถูกต้อง ซึ่งทุกอย่างก็เสร็จสิ้นเรียบร้อยไปแล้ว
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า การตัดขายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่หลายคนมองว่าอาจจะเป็นปัญหาต่อการขายหุ้นธนาคารนั้น ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดและต้องรอให้มีผู้ถือหุ้นรายใหม่เข้ามาตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางการบริหารหนี้ดังกล่าวเอง ซึ่งแผนการขายหนี้เอ็นพีแอลของธนาคารมีแนวคิดมาตั้งแต่ก่อนหน้าที่จะขายหุ้นแล้ว มีมูลหนี้ประมาณหมื่นล้าน"
ทั้งนี้ จำนวนหนี้เอ็นพีแอลรวมของธนาคาร ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 7.8% ซึ่งถ้ามีการขายออกไปตามจำนวนดังกล่าวคิดเป็น 2% ก็จะทำให้เอ็นพีแอลเหลือ 5% เท่านั้น ขณะเดียวกันภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เชื่อว่าระยะต่อไปราคาของ เอ็นพีแอลก็ควรจะดีขึ้นกว่าปีก่อนด้วย.