xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.ฟุ้งSCIBหอมลุ้นขายตปท. คาดรู้ผลเดือน ม.ค.ปีหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กองทุนฟื้นฟูฯ อ้างที่ปรึกษาทางการเงินแนะเปิดประมูลหุ้นนครหลวงไทย (SCIB) กลางเดือนหน้า คาดรู้ผลเดือน ม.ค. ลั่นได้เวลาขายของดี เหตุฐานะแกร่ง รายใดกดราคาจะไม่เจรจาด้วย แย้มอยากขายต่างชาติราคาหุ้น 2.9 เท่าของราคาตามบัญชี

วานนี้ (25 พ.ย.) นางทองอุไร ลิ้มปิติ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายจัดการกองทุน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และในฐานะผู้จัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฟื้นฟูฯ) แถลงความคืบหน้าการขายหุ้นกองทุนฟื้นฟูฯ ในธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) จำวน 47.58% หรือ 1,005,330,950 หุ้นว่า คณะกรรมการจัดการกองทุนได้อนุมัติแผนกลยุทธ์ที่มีความเหมาะสมเพื่อให้ผู้ซื้อนำนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงระบบไอทีที่ดีเข้ามาพัฒนา SCIB และระบบสถาบันการเงินไทยโดยรวม

ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินได้ส่งเอกสารเชิญชวนผู้สนใจร่วมประมูลทั้งสถาบันการเงิน และไม่ใช่สถาบันการเงินทั่วโลก และจะเปิดประมูลราคารอบแรกประมาณกลางเดือน ธ.ค.นี้ หลังจากนั้นจะมีกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สนใจ และเมื่อได้รายชื่อผู้ที่สนใจแล้วจะเปิดให้เข้าไปดำเนินการประเมินสินทรัพย์และหนี้สินของธนาคารนครหลวงไทยอย่างละเอียด ประมาณ 5-6 สัปดาห์ ก่อนที่จะให้เสนอราคาขั้นสุดท้ายภายในเดือน ม.ค.2553 และใช้ดำเนินการเจรจาต่อรองประมาณ 1-2 เดือนคาดว่ากระบวนการขายนครหลวงไทยจะเสร็จทั้งหมดภายในไตรมาสแรกของปีหน้า

“คุณสมบัติ และความเป็นไปได้ของแผนถือเป็นกระเด็นแรกที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จะพิจารณา เพราะจะเป็นขายทั้งหมดให้กับนักลงทุนรายเดียว แต่ราคาก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ต้องบอกไว้เลยว่า เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาหาซื้อของถูก เพราะไม่ใช่เวลาขายของถูกแต่เป็นการขายของดี ดังนั้น อย่ามาคิดจะกดราคาหุ้นนครหลวงไทย เพราะกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯคงไม่ยอมขายและไม่มีเกณฑ์ใดๆ บังคับให้ต้องรีบขาย ดังนั้น หากราคาที่เสนอมาต่ำเกินไป กองทุนเพื่อการฟื้นฟูก็สามารถที่จะไม่ขายหุ้นได้ โดยในครั้งที่ขายหุ้นไทยธนาคาร เราได้กำไร 2.9 เท่าของราคาตามบัญชี” " นางทองอุไรกล่าว

ปัจจุบันมูลค่าหุ้นทางบัญชี SCIB อยู่ที่ 19.89 บาท เมื่อวานนี้ (25 พ.ย.) ปิดบวก 1.5 บาท หรือ+6.12% อยู่ที่หุ้นละ 26.00 บาท เป็นหุ้นที่สวนทางตลาดในรอบเดือน พ.ย. เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นไทยซบเซา หุ้นส่วนใหญ่ติดลบแต่ SCIB บวก เห็นได้จากราคาหุ้นวันที่ 2 พ.ย. ปิดที่ 23.20 บาทต่อหุ้น ล่าสุดขึ้นมาอยู่ที่หุ้นละ 26 บาท

ผู้จัดการกองทุนฟื้นฟูฯกล่าวว่า หากสถาบันการเงินต่างชาติจะซื้อก็ถือว่าจะเป็นฐานที่ดีมากให้กับสถาบันการเงินต่างชาติ และหากสัดส่วนการถือหุ้นติดเพดาน ในกรณีถือหุ้นเกิน 49% กองทุนฟื้นฟูฯจะมีการเสนอ รมว.คลังให้ผ่อนผันต่อไป แต่หากเป็นสถาบันการเงินไทยก็จะเป็นการเสริมฐาน และความแข็งแกร่งของธนาคารยกระดับสู่ 4-5 อันดับต้นของธนาคารไทยได้ จากปัจจุบันอยู่อันดับ 7

"การขายหุ้นทั้งหมดจะทำให้ผู้ลงทุนรายใหม่มีสิทธิเข้ามาบริหารงาน ซึ่งส่วนนี้ถือเป็นจุดสำคัญ ที่กองทุนฟื้นฟูจะได้ราคาหุ้นที่ดีขึ้น เพราะเท่ากับขายสิทธิการบริหารธนาคารพ่วงไปด้วย"

ทั้งนี้ บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินได้วิเคราะห์แนวทางในการดูแลหุ้นธนาคารหลวงไทยที่มีหลากหลายทางเลือกที่ไม่ว่าจะเป็นการถือหุ้นต่อไป ควบโอน ขายบางส่วน หรือขายทั้งหมด ซึ่งมีโอกาสทำได้ทุกทาง แต่เหตุผลหลักที่มองว่าควรขายหุ้นธนาคารนครหลวงไทยในช่วงนี้ ซึ่งกองทุนฟื้นฟูฯ จะได้รับประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากสภาพคล่องในตลาดการเงินจำนวนมาก และภาวะเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียก็ยังเข้มแข็ง ทำให้การฟื้นตัวเศรษฐกิจในแถบภูมิภาคนี้มีบรรยากาศน่าลงทุน การขายหุ้นธนาคารนครหลวงไทยยังสอดรับกับแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (มาสเตอร์แพลน) ฉบับที่ 2 ของ ธปท.ด้วย โดยเมื่อกองทุนฟื้นฟูฯ ขายหุ้นได้แล้วเงินดังกล่าวจะกลับคืนสู่มือประชาชนและระบบสถาบันการเงินต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น