นางพรพรรณ โต๊ะตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TOG แจ้งผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 130.61 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 143.38 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 12.77
ล้านบาท หรือ 8.90% เนื่องจากบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและให้บริการรวมทั้งปี 1,303.72 ล้านบาทลดจากปีก่อน 154.41 ล้านบาท หรือ 10.58 % และมีกำไรสุทธิ 130.62 ล้านบาท ลดจากปีก่อน 12.76 ล้านบาท หรือ 8.89% ผลจากภาวะเศรษฐกิจโลก และการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง ทำให้ยอดขายลดลง อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ได้พยายามควบคุมการใช้จ่าย จึงทำให้สุดท้ายอัตรากำไรสุทธิของปี 52 เท่ากับ 10.27 % ซึ่งสูงกว่าอัตรากำไรสุทธิปี 51 เล็กน้อย
พร้อมกันนี้บอร์ดยังนุมัติในการร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติ เพื่อลงทุนสร้างห้องแล๊ปฝนเลนส์พิเศษ ซึ่งเป็นการจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ในประเทศมาเลเซีย และประเทศสิงคโปร์ เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตเลนส์สั่งฝนพิเศษ คาดดำเนินงานในไตรมาส 2 ปีนี้ ด้วยทุนจดทะเบียน 3 ล้านริงกิต และ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ
โดยอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 52 ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาทต่อหุ้น โดยจ่ายระหว่างกาลแล้ว 0.10 บาทต่อหุ้น คงเหลือจ่ายปันผลงวดนี้ 0.15 บาทต่อหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นและได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผล ( Record Date ) วันที่ 19 เมษายน 53 และปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อรวบรวมรายชื่อตาม มาตรา 225 ของ พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ในวันที่20 เมษายน 53 โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 30 เมษายน 53 และกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมสามัญประจำปี 53 (Record Date) ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 53 และให้รวบรวมรายชื่อตาม มาตรา 225 ของ พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 53
นางพิมพ์ใจ เหล่าจินดา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ IRC แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสแรก ( 1 ต.ค. 52 - 31 ธ.ค. 52) สิ้นสุด 31 ธันวาคม 52 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 105.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 68.01 ล้านบาทหรือลดลง 37.24 ล้านบาท คิดเป็น 54.75% ผลจากต้นทุนวัตถุดิบของไตรมาสนี้เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2552 ( 1 ต.ค. 51-31 ธ.ค. 51) ลดลง เนื่องจากภาวะราคาวัตถุดิบในช่วงไตรมาสนี้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับราคาวัตถุดิบของไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 20.13 ล้านบาท หรือ 29.17 % เนื่องจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิผลและในไตรมาสที่ 1 /2552 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมีผลจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 8.13 ล้านบาท
โดยงวดนี้บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 1,252.50 ล้านบาทลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ต้นทุนขายและบริการมี 1,074.79ล้านบาท ลดลง 18.99 % เป็นผลทำให้มีกำไรในขั้นต้น 177.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.24% ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมี 48.90 ล้านบาท ลดลง 29.17% ดอกเบี้ยจ่ายมี 1.77 ล้านบาท ลดลง 52.12 % และมีภาษีเงินได้นิติบุคคล30.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.37%
ล้านบาท หรือ 8.90% เนื่องจากบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและให้บริการรวมทั้งปี 1,303.72 ล้านบาทลดจากปีก่อน 154.41 ล้านบาท หรือ 10.58 % และมีกำไรสุทธิ 130.62 ล้านบาท ลดจากปีก่อน 12.76 ล้านบาท หรือ 8.89% ผลจากภาวะเศรษฐกิจโลก และการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง ทำให้ยอดขายลดลง อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ได้พยายามควบคุมการใช้จ่าย จึงทำให้สุดท้ายอัตรากำไรสุทธิของปี 52 เท่ากับ 10.27 % ซึ่งสูงกว่าอัตรากำไรสุทธิปี 51 เล็กน้อย
พร้อมกันนี้บอร์ดยังนุมัติในการร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติ เพื่อลงทุนสร้างห้องแล๊ปฝนเลนส์พิเศษ ซึ่งเป็นการจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ในประเทศมาเลเซีย และประเทศสิงคโปร์ เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตเลนส์สั่งฝนพิเศษ คาดดำเนินงานในไตรมาส 2 ปีนี้ ด้วยทุนจดทะเบียน 3 ล้านริงกิต และ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ
โดยอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 52 ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาทต่อหุ้น โดยจ่ายระหว่างกาลแล้ว 0.10 บาทต่อหุ้น คงเหลือจ่ายปันผลงวดนี้ 0.15 บาทต่อหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นและได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผล ( Record Date ) วันที่ 19 เมษายน 53 และปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อรวบรวมรายชื่อตาม มาตรา 225 ของ พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ในวันที่20 เมษายน 53 โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 30 เมษายน 53 และกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมสามัญประจำปี 53 (Record Date) ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 53 และให้รวบรวมรายชื่อตาม มาตรา 225 ของ พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 53
นางพิมพ์ใจ เหล่าจินดา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ IRC แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสแรก ( 1 ต.ค. 52 - 31 ธ.ค. 52) สิ้นสุด 31 ธันวาคม 52 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 105.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 68.01 ล้านบาทหรือลดลง 37.24 ล้านบาท คิดเป็น 54.75% ผลจากต้นทุนวัตถุดิบของไตรมาสนี้เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2552 ( 1 ต.ค. 51-31 ธ.ค. 51) ลดลง เนื่องจากภาวะราคาวัตถุดิบในช่วงไตรมาสนี้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับราคาวัตถุดิบของไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 20.13 ล้านบาท หรือ 29.17 % เนื่องจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิผลและในไตรมาสที่ 1 /2552 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมีผลจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 8.13 ล้านบาท
โดยงวดนี้บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 1,252.50 ล้านบาทลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ต้นทุนขายและบริการมี 1,074.79ล้านบาท ลดลง 18.99 % เป็นผลทำให้มีกำไรในขั้นต้น 177.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.24% ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมี 48.90 ล้านบาท ลดลง 29.17% ดอกเบี้ยจ่ายมี 1.77 ล้านบาท ลดลง 52.12 % และมีภาษีเงินได้นิติบุคคล30.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.37%
