xs
xsm
sm
md
lg

รบ.มาเลเซียปฏิเสธข้อเสนอ“มหาเธร์”จะไม่นำ“ริงกิต”ผูกตรึงกับดอลลาร์อีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอยเตอร์ – รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของมาเลเซียประสานเสียงกับธนาคารกลางว่า จะไม่นำเอาเงินริงกิตกลับไปผูกตรึงกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอีก แม้ว่าอดีตนายกฯมหาเธร์ โมฮัมหมัด ออกมาเรียกร้องเพื่อกดดันผู้นำประเทศในปัจจุบัน
มหาเธร์ได้ออกมาเรียกร้องให้นำเอาค่าเงินริงกิตกลับเข้าไปผูกกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯอย่างตายตัวอีกครั้งหนึ่ง ด้วยเหตุผลว่าเพื่อลดความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนอย่างรุนแรงในขณะนี้ ทั้งนี้เมื่อ 10 ปีก่อนเขาประสบความสำเร็จในการปกป้องประเทศจากวิกฤตต้มยำกุ้ง โดยกำหนดค่าเงินริงกิตตายตัวไว้ 3.80 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการทำที่ตรงกันข้ามกับคำแนะนำของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)ที่ให้ลอยตัวค่าเงิน เพื่อที่ว่ารัฐบาลจะไม่ต้องเอาเงินตราต่างประเทศสำรองไปสู้กับพวกโจมตีค่าเงินในตอนนั้น
ขณะนี้ นอกจากรัฐบาลมาเลเซียจะเผชิญหน้ากับวิกฤตการเงินระหว่างประเทศครั้งรุนแรงแล้ว ยังต้องรับมือกับแรงกดดันทางการเมืองภายในที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก จนอาจทำให้แนวร่วมฝ่ายรัฐบาลที่ปกครองประเทศมานานถึง 50 ปีต้องกระเด็นออกจากเก้าอี้ก็ได้
“ผมอยากจะแถลงอย่างชัดเจนว่าเราไม่มีเจตจำนงที่จะนำเอาริงกิตไปผูกติดกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอีกไม่ว่าจะตอนนี้หรือในอนาคต” นาจิบ ราซัค รองนายกฯผู้รับตำแหน่งรัฐมนตรีคลังหมาดๆ กล่าวในการแถลงข่าวหลังจากได้รับฟังบรรยายสรุปจากกระทรวงการคลังและธนาคารกลางในวันแรกที่เขามาทำงานในตำแหน่งนี้
ส่วนเซติ อัคทาร์ อาซิส ผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งมาเลเซียก็ออกมายืนยันว่าไม่มีการคิดถึงเรื่องการเอาค่าเงินริงกิตไปผูกกับค่าเงินดอลลาร์แม้แต่น้อย
“การทำเช่นนั้นจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของมาเลเซียอย่างใหญ่หลวง การกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินริงกิตจะใช้ระบบลอยตัวแบบกำหนดช่วงการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นระบบที่กำหนดโดยตลาด” เซติกล่าวในคำแถลง
การเก็งกันว่ารัฐบาลจะผูกค่าเงินริงกิตกับเงินดอลลาร์อีกครั้ง ทำให้เงินริงกิตพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.4020 ริงกิตต่อดอลลาร์ อันเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ แต่ก็ร่วงกลับลงมาที่ 3.42 ริงกิตต่อดอลลาร์เมื่อนาจิบออกมาแถลง
มหาเธร์นั้นกำลังขัดแย้งกับนายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี ถึงขั้นที่มหาเธร์ประกาศถอนตัวจากพรรคอัมโนที่เป็นแกนนำของแนวร่วมฝ่ายรัฐบาล เพราะต้องการบีบให้อับดุลเลาะห์ลาออก และการออกมาเรียกร้องเรื่องการผูกตรึงค่าเงินก็เป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อนายกรัฐมนตรีขึ้นไปอีก
นาจิบถูกกำหนดตัวให้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากอับดุลเลาะห์ โดยจะเข้ารับตำแหน่งในปี 2010 แม้ว่าจะมีกระแสดังขึ้นเรื่อย ๆจากสมาชิกพรรคอัมโนให้นายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ลาออก
อับดุลเลาะห์จะต้องประกาศภายในวันที่ 9 ตุลาคมนี้ ว่าเขาจะเข้าร่วมชิงชัยในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคอัมโนในเดือนธันวาคมนี้หรือไม่ ซึ่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคอัมโนเวลานี้เท่ากับจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีโดยปริยาย
เขาตกอยู่ภายใต้แรงกดดันหนักหน่วงนับตั้งแต่แนวร่วมฝ่ายรัฐบาลได้คะแนนเสียงลดฮวบในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผานมา ขณะที่พรรคฝ่ายค้านตอนนี้ก็จับกุมกันเป็นพันธมิตรเหนียวแน่นขึ้นมาก โดยมี อันวาร์ อิบราฮิม ศัตรูตัวฉกาจของพรรคอัมโนและมหาเธร์เป็นผู้นำ
มุห์ยิดดิน ยัสซิน รัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่เรียกร้องให้มีการผูกตรึงค่าเงินอีกครั้ง เมื่อวานนี้ได้ปฏิเสธไม่พูดเรื่องค่าเงินอีก แต่เขากลับโจมตีอับดุลเลาะห์รุนแรงโดยการบอกว่า “ถ้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ผมก็ไม่แน่ใจว่าพรรคอัมโนและบาริซาน เนชันแนล(แนวร่วมฝ่ายรัฐบาล)จะมีอายุยืนยาวไปหลังการเลือกตั้งปี 2013 หรือไม่
ความไม่มั่นคงทางการเมืองในมาเลเซียส่งผลกระทบต่อตลาดเงินตลาดทุนอย่างมาก และเงินริงกิตก็ร่วงลงราว3.5% แล้วในปีนี้
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศก็ชะลอตัวลงตามสุขภาพเศรษฐกิจของโลก อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 27 ปีที่ 8.5%
การผูกค่าเงินริงกิตไว้กับเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่มหาเธร์เริ่มขึ้นนั้นถูกยกเลิกไปเมื่อสามปีก่อนโดยอับดุลเลาะห์ ข้อเสนอของมหาเธร์ที่ออกมาเมื่อสุดสัปดาห์ก็คือการปรับค่าเงินริงกิตราว 10% จะช่วยกดให้เงินเฟ้อลดลงไปด้วย
นักวิเคราะห์เห็นว่าการนำเสนอใด ๆของมหาเธร์น่าจะมีความหมายทางการเมืองแอบแฝงอยู่ด้วย และการเสนอผูกตรึงค่าเงินนี้น่าจะมีผลในทางโจมตีความสามารถในการบริหารเศรษฐกิจของอับดุลเลาะห์โดยตรง
กำลังโหลดความคิดเห็น