ความสุข - สงบในชีวิตของคนเรานั้นหาได้ไม่ยากเลยหากมี “กัลยาณมิตร”
หลายปีที่ผ่านมานี้ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” นำทั้ง “การเมืองภาคประชาชน” และ “มิตรที่ดี” มาสู่ชีวิตที่เคยว่างเปล่า
ปีนี้พันธมิตรฯ ในนาม “ร้อยบุปผาบานสะพรั่งฯ” ชวนไปกราบนมัสการ 4 สังเวชนียสถาน-ตามรอยพระพุทธเจ้า 7 คืน 8 วัน กับทัวร์กาแฟตุ๊ก-ตุ๊ก ซึ่งมี “พี่หน่อย –พธม.อุบลราชธานี” กับ “น้องตุ๊กติ๊ก” เจ้าของรถกาแฟตุ๊ก-ตุ๊กร่วมเป็นเจ้าของ
สองคนพี่น้องร่วมกับ “พี่บัณฑิต” รายการประเด็นข่าว-ประเด็นธรรม และ “คุณก้อง” ผู้จัดการสถานีวิทยุผู้จัดการ 97.75 เอฟเอ็ม ชุมชนเจ้าฟ้า จัดทัวร์อินเดีย-เนปาล โดยหวังให้เอเอสทีวี มีรายได้เพื่อนำไปขยายสถานีวิทยุชุมชนยังจุดต่างๆ รอบกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อลดปัญหาการรับสัญญาณขัดข้องที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด
บุญกุศลจากทัวร์บุญทำให้สัญญาณการรับฟังวิทยุ 97.75 เอฟเอ็มเริ่มชัดเจนขึ้นในหลายพื้นที่ แต่ก็ยังแพ้วิทยุชุมชนที่อ้างว่า ปกป้องสถาบันฯ ของเนวิน และวิทยุชุมชนคนเสื้อแดงที่กระจายเสียงชัดเจนครอบคลุมไปทุกหย่อมหญ้าทั่วทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ล่าสุดก่อนถึงวันพิพากษาคดียึดทรัพย์ทักษิณ วิทยุชุมชนคนเสื้อแดงออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาเร่งเร้าปลุกระดมให้คนไทย “ล้มเจ้า” และ “สงสารทักษิณ” มากยิ่งขึ้น
ยิ่งใกล้วันพิพากษาคดียึดทรัพย์ ยิ่งส่งเสียงเซ็งแซ่ว่า ทักษิณถูกอำมาตย์ใส่ร้าย-ปฏิวัติ-แกล้งยึดทรัพย์ และตามล่าหมายฆ่าให้ตาย เพราะอิจฉาที่ทักษิณรวยกว่า และมีคนไทยรักเขามากกว่า
สถานีวิทยุประเภทนี้มักจงใจสอดใส่เนื้อหาให้คนฟังเห็นคล้อยตามว่า สถาบันสูงสุดเอาเปรียบประชาชน-ไร้ความหมาย-ไม่มีประโยชน์กับโลกยุคใหม่อีกต่อไปแล้ว และตบท้ายทุกวันด้วยความดีของทักษิณ ที่โดนพิษริษยาอาฆาตของ “อำมาตย์ใหญ่”
เดี๋ยวนี้สถานีวิทยุคนเสื้อแดงยังปลุกปั่นให้คนฟังหลงเชื่อไปว่า ทักษิณรวยแล้วไม่โกง ดังนั้นการยึดทรัพย์มาจากกฎหมาย 2 มาตรฐานของรัฐบาลพลิกขั้วภายใต้คำบงการของ “อำมาตย์ใหญ่” และย้ำทุกวันว่า เกลียดเจ้า-เอาทักษิณ-สิ้นยุคอำมาตย์!!!
สถานีวิทยุชุมชนคนเสื้อแดงมีอยู่หลายจุด ครอบคลุมกรุงเทพฯ และปริมณฑล บางจุดมีนักการเมืองจากพรรคเพื่อไทยแสดงตนเป็นเจ้าของชัดเจน ขณะที่วิทยุปกป้องสถาบันฯ ของเสี่ยเน ยังตามไม่ทันทั้งเนื้อหาและฝีปาก
เวลานี้เข้าสู่ช่วงถั่งโถมโหมไฟฟืน เพราะสถานีโทรทัศน์คนเสื้อแดงก็ออกอากาศเนื้อหาแนวเดียวกันไปทั่วทุกหัวระแหง สามารถรับชมได้ด้วยจานดาวเทียมทุกประเภท
ขณะเดียวกัน “แท็กซี่เสื้อแดง” พากันต้อนรับผู้โดยสาร ด้วยข้อมูลเหมือนวิทยุชุมชน-เหมือนโทรทัศน์เสื้อแดงไม่ผิดเพี้ยน แถมบางคันยัดเยียดซีดี และใบปลิวเสร็จสรรพ
เล่าเรื่องร้อนใจไฟลามทุ่งจากวิทยุชุมชน-โทรทัศน์เสื้อแดงให้คุณชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัยได้ฟัง น้าชัชนิ่งอึ้งและพึมพำพอได้ยินว่า “กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้” จากนั้นก็ตาแดงแจ๋...ลูกผู้ชายที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนาน “ร้องไห้” กับเรื่องเล่าหลังวังที่ฟังจากวิทยุ-โทรทัศน์เสื้อแดง
ดูเหมือนว่า สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คงเพิ่งตื่น เธอจึงสั่งให้ทีมข่าวทีนิวส์ และทีมดร.เสรี วงษ์มณฑา จัดรายการ ปอกเปลือกทักษิณในนาม เกาที่คันและเจาะข่าวร้อน ทางช่อง 11
เล่นเอาบริวารทักษิณเต้นเป็นเจ้าเข้า เหมือนผีถูกข้าวสารเสก!!!...เอาอีกๆๆ ทำดีแล้ว ทำต่อไป ทำอีกหลายๆ ช่อง คนไทยจะได้หูตาสว่าง
ยิ่งใกล้ถึงวัน “ยึดทรัพย์ทักษิณ” ยิ่งเห็นอาการตื่นตัวของรัฐบาล พอๆ กับอาการไฟธาตุแตกของกลุ่มพิทักษ์ทรัพย์ทักษิณมากยิ่งขึ้น
“ดร.ปณิธาน วัฒนายากร” โฆษกรัฐบาลออกมาฟาดกำปั้นเหล็กไร้ถุงมือกำมะหยี่ใส่ทักษิณและบริวารสารเลวว่า “มีเงินดูไบและเงินคนไกลไหลเข้าบัญชีเสื้อแดง เพื่อสร้างความวุ่นวายก่อนและหลังวันพิพากษา” ท่ามกลางเสียงปฏิเสธดังลั่นจากฟาก “คนเสื้อแดง”
แน่นอนวิทยุ-โทรทัศน์-ทวิตเตอร์ต่างประโคมแคมเปญใหม่ “มึงยึด-กูเผา” เป็นสุ้มเสียงปกาศิตจากคนจนตรอก
ฟากกองทัพเสื้อแดงของวีระ-จตุพร-ฌัฐวุฒิที่กำลังห้ำหั่นกับสิ่งที่คุณโสภณ องค์การณ์เรียกว่า “ ศึกแย่งชามข้าว” ก็กำลังเร่งมือกระพือม็อบ พร้อมๆ กับข่าวรั่วว่า “สามเกลออ้วนกลม” มีทั้งเงินสดในบัญชี-คฤหาส์นหลังงาม-รถยนต์หรูหรา
ได้ยินมาว่า หนึ่งในสามเกลอเปรยกับคนใกล้ชิดที่ลอนดอนว่า “เราทำ-เขาจ่าย ยุติธรรมดี เพราะคนเสี่ยงตายคือเรา”
ส่วนคนดูไบเคยปรารภกับญาติพี่น้องที่ไปเยี่ยมว่า “ไม่มีเขา-เราตายแน่” …เข้าข่ายผีถึงป่าช้า
นี่คืออีกเหตุผลหนึ่งที่ทักษิณต้องส่งเสีย “จักรภพ” ให้เรียนจนใกล้จบด็อกเตอร์จากประเทศแถบสแกนดิเนเวีย และ “อีเพ็ญ” เป็นคนไทยใจเขมรรายล่าสุดที่ได้ “สิทธิพิเศษ” ในรูป “หนังสือเดินทาง” และสัญชาติเพื่อเดินทางเข้าออกไปโน่นมานี่ได้สะดวกสบาย
เร็วๆ นี้ทักษิณกับจักรภพมีนัดกันที่ “เสียมราฐ” และที่นั่นจะถูกใช้เป็นฐานบัญชาการรบหากเขาถูก “ยึดทรัพย์” ไม่ว่าจะน้อยหรือมาก ทักษิณประกาศแล้วว่า “มึงยึด-กูเผา”...ใครไม่เชื่อหาฟังได้จากบริวารของเขาตามวิทยุชุมชนและโทรทัศน์เสื้อแดง
ขณะที่บ้านเมืองกำลังจะลุกเป็นไฟ แต่พวกเราส่วนใหญ่ไม่สนใจ ไม่อินังขังขอบกับความเป็นความตายของชาติบ้านเมือง แค่ปล่อยให้ “คนเสื้อแดง” พล่านไปทั่วพระนครและร่อนไปหยามเกียรติ “สถาบันฯ” ทั่วปฐพี เพียงเพื่อให้ทักษิณได้ทั้งเงินและคืนเมือง แค่นี้ก็มากพอที่จะพูดได้ว่า “คนไทยทิ้งแผ่นดิน”
เมื่อหันไปดูปฏิกิริยาของ “พรรคร่วมรัฐบาล” ก็แทบอ่อนใจ สมกับที่ทักษิณดูถูกในทวิตเตอร์แล้วว่า “อยู่นานกินไว” เพราะวันๆ คิดถึงแต่ตัวเอง ทั้งแก้ไขรัฐธรรมนูญและเสนออภิมหาโปรเจกต์ ไม่เคยเห็นสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลชวนกันคิดแก้ไขปัญหาบ้านเมืองที่ใกล้วายวอดเลย มีแต่ชวนกันทำเรื่องระยำตำบอนไม่รู้หยุดหย่อน เมื่อถูกขัดขาขัดใจก็เอะอะว้ากเพ้ย ขู่ฟ่อดๆ ว่าจะย้ายขั้วไปร่วมกับเพื่อไทยบ้างละ หรือคว่ำเรือรบยุบสภาบ้างล่ะ
นักการเมืองบ้านเราส่วนใหญ่อยู่มานาน มองไปมองมาแทบไม่เคยเห็นพวกเขาทำความดีให้ปรากฏแก่แผ่นดินเลย มีแต่เรื่องเลวทรามต่ำช้าเกินกว่าที่คนไทยจะให้อภัยได้
ทุกยุคทุกสมัยนักการเมืองไทยส่วนใหญ่แย่งกันโกงกินงบประมาณ และขายเก้าอี้กันโจ๋งครึ่ม เดี๋ยวนี้หนักข้อสมคบกับ “ข้าราชการขี้ฉ้อ” หากินกันปากมัน และบางคนจากบางพรรคเที่ยวอ้าง “ในหลวง” หากินแล้ว
จะสิ้นชาติสิ้นแผ่นดิน ก็เพราะไอ้พวกกระสือการเมืองเหล่านี้ด้วยไม่ใช่ “ทักษิณ”คนเดียว ถ้าจะปราบต้องกวาดตะกวดการเมืองพวกนี้ให้หมดจด
วันก่อนเจอผู้ใหญ่คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า “อภิวันท์” พูดจาดูถูกดูแคลน “เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินสิ้นยำเกรง” อย่าถามว่าคนพูดเป็นใคร...ก็คนนั้นละ อภิวันท์เจ้าเก่า
ฟังแล้วยังไม่โกรธเท่ากับที่ไปเห็นกับตาได้ยินกับหูว่า มีการประกาศขายหนังสือต้องห้าม The King never smile ฉบับแปลเป็นไทยโดยนายสิน แซ่จิ้ว และหนังสือฟ้าเดียวกัน ฉบับปกโค้ก อย่างเปิดเผยเอิกเกริกตามงานหนังสือทั่วไป
ยิ่งทวีความโกรธมากขึ้น เมื่อได้ยินข่าวจากกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า “ศิษย์เก่าเซนต์โยเซฟคนหนึ่ง” ว่า เมียแม้วกำลังวางแผนไปตากอากาศกลางสนามรบอีกหน แถวเกาะฮ่องกงพร้อมลูกเต้าทั้งสามและพี่ชายนอกไส้ ซึ่งคนหลัง “นกรู้” เลยส่งลูก-เมียหนีไปนิวซีแลนด์ก่อนหน้าแล้ว
วันนี้คนไทยเดินทางมาไกลเลย “จุดเกรงใจ” กันแล้ว เก็บความรัก-ความหลงไว้ในใจ แล้วมาร่วมมือกันสามัคคีกำจัดคนเลวเสียในคราวเดียวกัน
ไม่มีเวลาใดจะสมเหตุสมผลและบริบูรณ์เท่ากับเวลานี้ เวลาที่คนไทยจะปราบคนพาลอภิบาลคนดี และปกป้องสถาบันสูงสุดด้วยชีวิต ในเมื่อเจ้าชีวิตมีภัย ใครจะช่วยเจ้าได้...ถ้าไม่ใช่ “คนไทยรักแผ่นดิน”
หลายปีที่ผ่านมานี้ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” นำทั้ง “การเมืองภาคประชาชน” และ “มิตรที่ดี” มาสู่ชีวิตที่เคยว่างเปล่า
ปีนี้พันธมิตรฯ ในนาม “ร้อยบุปผาบานสะพรั่งฯ” ชวนไปกราบนมัสการ 4 สังเวชนียสถาน-ตามรอยพระพุทธเจ้า 7 คืน 8 วัน กับทัวร์กาแฟตุ๊ก-ตุ๊ก ซึ่งมี “พี่หน่อย –พธม.อุบลราชธานี” กับ “น้องตุ๊กติ๊ก” เจ้าของรถกาแฟตุ๊ก-ตุ๊กร่วมเป็นเจ้าของ
สองคนพี่น้องร่วมกับ “พี่บัณฑิต” รายการประเด็นข่าว-ประเด็นธรรม และ “คุณก้อง” ผู้จัดการสถานีวิทยุผู้จัดการ 97.75 เอฟเอ็ม ชุมชนเจ้าฟ้า จัดทัวร์อินเดีย-เนปาล โดยหวังให้เอเอสทีวี มีรายได้เพื่อนำไปขยายสถานีวิทยุชุมชนยังจุดต่างๆ รอบกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อลดปัญหาการรับสัญญาณขัดข้องที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด
บุญกุศลจากทัวร์บุญทำให้สัญญาณการรับฟังวิทยุ 97.75 เอฟเอ็มเริ่มชัดเจนขึ้นในหลายพื้นที่ แต่ก็ยังแพ้วิทยุชุมชนที่อ้างว่า ปกป้องสถาบันฯ ของเนวิน และวิทยุชุมชนคนเสื้อแดงที่กระจายเสียงชัดเจนครอบคลุมไปทุกหย่อมหญ้าทั่วทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ล่าสุดก่อนถึงวันพิพากษาคดียึดทรัพย์ทักษิณ วิทยุชุมชนคนเสื้อแดงออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาเร่งเร้าปลุกระดมให้คนไทย “ล้มเจ้า” และ “สงสารทักษิณ” มากยิ่งขึ้น
ยิ่งใกล้วันพิพากษาคดียึดทรัพย์ ยิ่งส่งเสียงเซ็งแซ่ว่า ทักษิณถูกอำมาตย์ใส่ร้าย-ปฏิวัติ-แกล้งยึดทรัพย์ และตามล่าหมายฆ่าให้ตาย เพราะอิจฉาที่ทักษิณรวยกว่า และมีคนไทยรักเขามากกว่า
สถานีวิทยุประเภทนี้มักจงใจสอดใส่เนื้อหาให้คนฟังเห็นคล้อยตามว่า สถาบันสูงสุดเอาเปรียบประชาชน-ไร้ความหมาย-ไม่มีประโยชน์กับโลกยุคใหม่อีกต่อไปแล้ว และตบท้ายทุกวันด้วยความดีของทักษิณ ที่โดนพิษริษยาอาฆาตของ “อำมาตย์ใหญ่”
เดี๋ยวนี้สถานีวิทยุคนเสื้อแดงยังปลุกปั่นให้คนฟังหลงเชื่อไปว่า ทักษิณรวยแล้วไม่โกง ดังนั้นการยึดทรัพย์มาจากกฎหมาย 2 มาตรฐานของรัฐบาลพลิกขั้วภายใต้คำบงการของ “อำมาตย์ใหญ่” และย้ำทุกวันว่า เกลียดเจ้า-เอาทักษิณ-สิ้นยุคอำมาตย์!!!
สถานีวิทยุชุมชนคนเสื้อแดงมีอยู่หลายจุด ครอบคลุมกรุงเทพฯ และปริมณฑล บางจุดมีนักการเมืองจากพรรคเพื่อไทยแสดงตนเป็นเจ้าของชัดเจน ขณะที่วิทยุปกป้องสถาบันฯ ของเสี่ยเน ยังตามไม่ทันทั้งเนื้อหาและฝีปาก
เวลานี้เข้าสู่ช่วงถั่งโถมโหมไฟฟืน เพราะสถานีโทรทัศน์คนเสื้อแดงก็ออกอากาศเนื้อหาแนวเดียวกันไปทั่วทุกหัวระแหง สามารถรับชมได้ด้วยจานดาวเทียมทุกประเภท
ขณะเดียวกัน “แท็กซี่เสื้อแดง” พากันต้อนรับผู้โดยสาร ด้วยข้อมูลเหมือนวิทยุชุมชน-เหมือนโทรทัศน์เสื้อแดงไม่ผิดเพี้ยน แถมบางคันยัดเยียดซีดี และใบปลิวเสร็จสรรพ
เล่าเรื่องร้อนใจไฟลามทุ่งจากวิทยุชุมชน-โทรทัศน์เสื้อแดงให้คุณชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัยได้ฟัง น้าชัชนิ่งอึ้งและพึมพำพอได้ยินว่า “กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้” จากนั้นก็ตาแดงแจ๋...ลูกผู้ชายที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนาน “ร้องไห้” กับเรื่องเล่าหลังวังที่ฟังจากวิทยุ-โทรทัศน์เสื้อแดง
ดูเหมือนว่า สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คงเพิ่งตื่น เธอจึงสั่งให้ทีมข่าวทีนิวส์ และทีมดร.เสรี วงษ์มณฑา จัดรายการ ปอกเปลือกทักษิณในนาม เกาที่คันและเจาะข่าวร้อน ทางช่อง 11
เล่นเอาบริวารทักษิณเต้นเป็นเจ้าเข้า เหมือนผีถูกข้าวสารเสก!!!...เอาอีกๆๆ ทำดีแล้ว ทำต่อไป ทำอีกหลายๆ ช่อง คนไทยจะได้หูตาสว่าง
ยิ่งใกล้ถึงวัน “ยึดทรัพย์ทักษิณ” ยิ่งเห็นอาการตื่นตัวของรัฐบาล พอๆ กับอาการไฟธาตุแตกของกลุ่มพิทักษ์ทรัพย์ทักษิณมากยิ่งขึ้น
“ดร.ปณิธาน วัฒนายากร” โฆษกรัฐบาลออกมาฟาดกำปั้นเหล็กไร้ถุงมือกำมะหยี่ใส่ทักษิณและบริวารสารเลวว่า “มีเงินดูไบและเงินคนไกลไหลเข้าบัญชีเสื้อแดง เพื่อสร้างความวุ่นวายก่อนและหลังวันพิพากษา” ท่ามกลางเสียงปฏิเสธดังลั่นจากฟาก “คนเสื้อแดง”
แน่นอนวิทยุ-โทรทัศน์-ทวิตเตอร์ต่างประโคมแคมเปญใหม่ “มึงยึด-กูเผา” เป็นสุ้มเสียงปกาศิตจากคนจนตรอก
ฟากกองทัพเสื้อแดงของวีระ-จตุพร-ฌัฐวุฒิที่กำลังห้ำหั่นกับสิ่งที่คุณโสภณ องค์การณ์เรียกว่า “ ศึกแย่งชามข้าว” ก็กำลังเร่งมือกระพือม็อบ พร้อมๆ กับข่าวรั่วว่า “สามเกลออ้วนกลม” มีทั้งเงินสดในบัญชี-คฤหาส์นหลังงาม-รถยนต์หรูหรา
ได้ยินมาว่า หนึ่งในสามเกลอเปรยกับคนใกล้ชิดที่ลอนดอนว่า “เราทำ-เขาจ่าย ยุติธรรมดี เพราะคนเสี่ยงตายคือเรา”
ส่วนคนดูไบเคยปรารภกับญาติพี่น้องที่ไปเยี่ยมว่า “ไม่มีเขา-เราตายแน่” …เข้าข่ายผีถึงป่าช้า
นี่คืออีกเหตุผลหนึ่งที่ทักษิณต้องส่งเสีย “จักรภพ” ให้เรียนจนใกล้จบด็อกเตอร์จากประเทศแถบสแกนดิเนเวีย และ “อีเพ็ญ” เป็นคนไทยใจเขมรรายล่าสุดที่ได้ “สิทธิพิเศษ” ในรูป “หนังสือเดินทาง” และสัญชาติเพื่อเดินทางเข้าออกไปโน่นมานี่ได้สะดวกสบาย
เร็วๆ นี้ทักษิณกับจักรภพมีนัดกันที่ “เสียมราฐ” และที่นั่นจะถูกใช้เป็นฐานบัญชาการรบหากเขาถูก “ยึดทรัพย์” ไม่ว่าจะน้อยหรือมาก ทักษิณประกาศแล้วว่า “มึงยึด-กูเผา”...ใครไม่เชื่อหาฟังได้จากบริวารของเขาตามวิทยุชุมชนและโทรทัศน์เสื้อแดง
ขณะที่บ้านเมืองกำลังจะลุกเป็นไฟ แต่พวกเราส่วนใหญ่ไม่สนใจ ไม่อินังขังขอบกับความเป็นความตายของชาติบ้านเมือง แค่ปล่อยให้ “คนเสื้อแดง” พล่านไปทั่วพระนครและร่อนไปหยามเกียรติ “สถาบันฯ” ทั่วปฐพี เพียงเพื่อให้ทักษิณได้ทั้งเงินและคืนเมือง แค่นี้ก็มากพอที่จะพูดได้ว่า “คนไทยทิ้งแผ่นดิน”
เมื่อหันไปดูปฏิกิริยาของ “พรรคร่วมรัฐบาล” ก็แทบอ่อนใจ สมกับที่ทักษิณดูถูกในทวิตเตอร์แล้วว่า “อยู่นานกินไว” เพราะวันๆ คิดถึงแต่ตัวเอง ทั้งแก้ไขรัฐธรรมนูญและเสนออภิมหาโปรเจกต์ ไม่เคยเห็นสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลชวนกันคิดแก้ไขปัญหาบ้านเมืองที่ใกล้วายวอดเลย มีแต่ชวนกันทำเรื่องระยำตำบอนไม่รู้หยุดหย่อน เมื่อถูกขัดขาขัดใจก็เอะอะว้ากเพ้ย ขู่ฟ่อดๆ ว่าจะย้ายขั้วไปร่วมกับเพื่อไทยบ้างละ หรือคว่ำเรือรบยุบสภาบ้างล่ะ
นักการเมืองบ้านเราส่วนใหญ่อยู่มานาน มองไปมองมาแทบไม่เคยเห็นพวกเขาทำความดีให้ปรากฏแก่แผ่นดินเลย มีแต่เรื่องเลวทรามต่ำช้าเกินกว่าที่คนไทยจะให้อภัยได้
ทุกยุคทุกสมัยนักการเมืองไทยส่วนใหญ่แย่งกันโกงกินงบประมาณ และขายเก้าอี้กันโจ๋งครึ่ม เดี๋ยวนี้หนักข้อสมคบกับ “ข้าราชการขี้ฉ้อ” หากินกันปากมัน และบางคนจากบางพรรคเที่ยวอ้าง “ในหลวง” หากินแล้ว
จะสิ้นชาติสิ้นแผ่นดิน ก็เพราะไอ้พวกกระสือการเมืองเหล่านี้ด้วยไม่ใช่ “ทักษิณ”คนเดียว ถ้าจะปราบต้องกวาดตะกวดการเมืองพวกนี้ให้หมดจด
วันก่อนเจอผู้ใหญ่คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า “อภิวันท์” พูดจาดูถูกดูแคลน “เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินสิ้นยำเกรง” อย่าถามว่าคนพูดเป็นใคร...ก็คนนั้นละ อภิวันท์เจ้าเก่า
ฟังแล้วยังไม่โกรธเท่ากับที่ไปเห็นกับตาได้ยินกับหูว่า มีการประกาศขายหนังสือต้องห้าม The King never smile ฉบับแปลเป็นไทยโดยนายสิน แซ่จิ้ว และหนังสือฟ้าเดียวกัน ฉบับปกโค้ก อย่างเปิดเผยเอิกเกริกตามงานหนังสือทั่วไป
ยิ่งทวีความโกรธมากขึ้น เมื่อได้ยินข่าวจากกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า “ศิษย์เก่าเซนต์โยเซฟคนหนึ่ง” ว่า เมียแม้วกำลังวางแผนไปตากอากาศกลางสนามรบอีกหน แถวเกาะฮ่องกงพร้อมลูกเต้าทั้งสามและพี่ชายนอกไส้ ซึ่งคนหลัง “นกรู้” เลยส่งลูก-เมียหนีไปนิวซีแลนด์ก่อนหน้าแล้ว
วันนี้คนไทยเดินทางมาไกลเลย “จุดเกรงใจ” กันแล้ว เก็บความรัก-ความหลงไว้ในใจ แล้วมาร่วมมือกันสามัคคีกำจัดคนเลวเสียในคราวเดียวกัน
ไม่มีเวลาใดจะสมเหตุสมผลและบริบูรณ์เท่ากับเวลานี้ เวลาที่คนไทยจะปราบคนพาลอภิบาลคนดี และปกป้องสถาบันสูงสุดด้วยชีวิต ในเมื่อเจ้าชีวิตมีภัย ใครจะช่วยเจ้าได้...ถ้าไม่ใช่ “คนไทยรักแผ่นดิน”